Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้
Ngv กับ แก๊สโซฮอล์ ควรใช้อะไรดี? แล้วดี-ไม่ดียังไง?
ไม่ได้มีรถเป็นของตัวเอง แต่เห็นโฆษณากันจังเลย
เลยอยากทราบความแตกต่าง และข้อดีข้อเสียของทั้งสองอย่างนี้
และความแตกต่างระหว่างน้ำมันที่เราใช้กันทั่วไปด้วยค่ะ
- -* งง มานานละ ถามซะเลย
ปล. - ขอบคุณทุกๆคำตอบมากนะคะ
ได้ทั้งคนที่เคยใช้มาให้คำแนะนำเองด้วย
แล้วก็ได้จากความรู้ที่ทุกๆคนช่วยกันหามาด้วย
รู้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย ^ ^
ต้องขอโทษด้วยถ้าคำถามจะดูเมาๆไปบ้าง
เพราะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับพวกนี้เลย เลยไม่รู้จะถามยังไง ^ ^''
คงไม่ได้เลือกคำตอบที่ดีที่สุดด้วยตัวเองนะคะ แต่เดี๋ยวจะขอเปิดโหวตละกัน เพราะว่ามีคำตอบหลายอันที่อยากเลือกให้เป็นคำตอบที่ดีที่สุด
8 คำตอบ
- ♥ MiM ♥Lv 51 ทศวรรษ ที่ผ่านมาคำตอบที่โปรดปราน
ก๊าซธรรมชาติ "เอ็นจีวี" (NGV) พระเอกตัวจริงช่วงวิกฤตน้ำมันแพงโชคดีที่คนไทยมีทางเลือก เรื่องเชื้อเพลิง เรามี ก๊าซธรรมชาติ ของเราเอง (จากแหล่งอ่าวไทย) ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาด ไม่สร้างมลพิษ ทั้งยังมีความปลอดภัยมากกว่าการใช้น้ำมันเสียอีก
โดยปกติก๊าซธรรมชาติจะไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีพิษ ซึ่งเราสามารถนำก๊าซธรรมชาติ มาใช้แทนน้ำมันเชื้อเพลิงได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากเมื่อเอาก๊าซธรรมชาติมาเผา จะเผาได้ค่อนข้างสมบูรณ์ ไม่ค่อยมีก๊าซพิษออกมานัก จึงถือว่าเป็นเชื้อเพลิงที่ค่อนข้างสะอาด ดังนั้นก๊าซธรรมชาติจึงได้ชื่อว่าเป็นเชื้อเพลิงที่สะอาดกว่าเชื้อเพลิงฟอสซิลอื่นๆ จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันนี้รถประจำทางของ
ขสมก. ได้เอาก๊าซนี้มาใช้ และโฆษณาว่าเป็นรถปลอดมลพิษ
แก๊สโซฮอล์คือน้ำมันเบนซินออกเเทน 91ผสมกับแอลกอฮอล์ความบริสุทธิ์ 99.5% หรือ เอทานอล ในอัตราส่วนเบนซิน 9 ส่วน ต่อ เอทานอล 1 ส่วน จะได้ gasohol ที่มีคุณสมบัติเดียวกับเบนซิน 95 ที่ใช้อยู่ ใช้ทดแทนกันได้เลยโดยไม่มีปัญหากับเครื่องยนต์ เบนซิน 95 ที่มีอยู่ขณะนี้เขาใช้สารเติมแต่ง MTBE (Methyl-Tertiary-Butyl-Ether) ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ ทั่วโลกกำลังเริ่ม ban MTBE กันมากขึ้นโดยใช้เอทานอลมาทดแทนซึ่งได้มาจากการหมักพืชผลทางเกษตรเช่น น้ำอ้อย กากน้ำตาล มันสำปะหลัง etc. ที่จริงในหลวงท่านได้เริ่มโครงการนี้มาตั้งแต่ปี 2528 แล้ว ตอนนี้เพิ่งเริ่มมีโรงงานผลิตเอทานอลอยู่โรงเดียวที่ 25,000 ลิตรต่อวันให้ บางจากกับปตท. ซึ่งก็จะผสมได้ gasohol ประมาณ 250,000 ลิตร โรงงานอื่นๆที่ได้รับใบอนุญาตไปคงจะเริ่มผลิตได้ปลายปีหน้า
ข้อดีของการใช้ gasohol คร่าวๆคือ
- ช่วยลดปริมาณมลพิษจากท่อไอเสีย
- เกิดการเผาใหม้ของเครื่องยนต์สมบูรณ์
- ช่วยประหยัดการใช้น้ำมัน ประหยัดเงินตราต่างประเทศ เมื่อนำเอาแอลกอฮอล์ที่ผลิตในประเทศมาผสม 10%
- ทดแทน MTBE ซึ่งเป็นสารอันตราย ประหยัดเงินตราต่างประเทศด้วยเพราะต้องนำเข้า
- ใช้ประโยชน์จากพืชผลทางการเกษตรในประเทศให้เกิดประโยชน์สูงสุด
- เป็นพลังงานหมุนเวียน อนุรักษ์ทรัพยากร สิ่งแวดล้อม
ถ้าบริษัทน้ำมันและปั้มน้ำมันคุมมาตรฐานคุณภาพของ gasohol ให้ดีๆ น่าจะทำตลาดได้ดีเป็นที่นิยมเร็วเพราะถูกกว่าเบนซิน 95 ตั้ง 50 สตางค์ แถมช่วยสิ่งแวดล้อม ชาวเกษตร และประเทศด้วย
สรุปได้ว่าใช้ Ngv ดีที่สุดค่ะ
แหล่งข้อมูล: www.vcharkarn.com/include/article/showarticle.php?Aid=322 - 51k - www.saab-scot.com/board/question.asp?QID=1620 - 20k - - KanesLv 61 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
เดี๊ยนคงไม่มีสามีให้ถาม ส่วนภรรยาตายในสนามรบเลยกำพร้า
คงเพราะงงมานาน ก็เลยถามซะงงๆ
น่าจะถามว่า NGV กับ LPG ควรใช้อะไรดีแล้วถ้าเปรียบกับ แก๊สโซฮอลล์ อะไรจะคุ้มประหยัดกว่ากัน
คุณตุ้มบี แผนกวิชาการได้ตอบคำถามละเอียดสนิท เลยไม่รู้จะตอบอะไรอีก แต่อยากเรียนให้ทราบว่า หากเราจะพิจารณาเรื่องความประหยัด และสงวนเงินตราต่างประเทศก็ควรเป็นการใช้ก๊าซธรรมชาติ NGV ประหยัดตังค์ในกระเป่าได้ 30 % จากที่เคยจ่าย LPG ประหยัดได้ประมาณ 50 % ก็แล้วแต่จะโฆษณาชวนเชื่อ
ถ้าจะเปรียบเทียบกับการใช้แก๊สโซฮอลล์ หรือไบโอดีเซล ก็จะประหยัดเฉพาะการนำเข้าน้ำมันได้ 5 % เดี๊ยนจ่ายน้อยลงถังละ 40 บาท (ประมาณ 2 ลิตร) แต่ขอโทษ ไมล์หายไปหลายสิบกิโล กรุณาอย่าใช้นะคะ บอกต่อๆกันไปด้วย หัดจับไมล์กันบ้างกันโฆษณาโกง
ชัด ๆ เลย เติมเต็มถัง 1600 ได้ 62 ลิตร วิ่ง 680-700 ถึงหมด แต่เติมไบโอดีเซล 1560 ได้ 62 ลิตร วิ่งได้620 โดยประมาณ เข็ดจ้ะ รถวิ่งอ่อยๆ แถมเครื่องดังกว่าปกติ แน่จริงก็โต้มานะจ๊ะ
- 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
คำตอบขึ้นกับลักษณะการใช้งานครับ
ข้อที่ 1 มีเงินในกระเป๋าเพื่อการดัดแปลงเครื่องยนต์ เพราะ NGV ต้องลงทุนหลายหมื่นบาท เพื่อติดตั้งถัง กับปรับระบบเครื่องยนตืให้รับก๊าซได้ (แม้ว่าช่วงนี้ ปตท. จะออกโปรโมชั่นให้เงินเป็นหมื่นค่าส่วนลดติดตั้งก็ตาม) แต่ สำหรับ gasohol (น้ำมันแก๊สโซฮอล์) คุณสามารเติมได้ทันทีเลย โดยไม่ต้องเสียเงินดัดแปลงเครื่องยนต์ใดๆ มีเงื่อนไขว่า รถยนต์ของคุณจะเติม gasohol ได้ ควรเป็นเครื่องยนต์ระบบหัวฉีด ที่ผลิตมาตั้งแต่ปี 1995
* สามารถตรวจสอบข้อมูลรุ่นของรถและมอเตอร์ไซด์ ที่ใช้ gasohol ได้ทั้งที่เว็บไซต์ของสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย (www.taia.or.th) หรือกรมธุรกิจพลังงาน (www.doeb.go.th)
**จากการรวบรวมข้อมูลจากผู้ผลิตรถยนต์ต่าง ๆ ย้อนกลับไปถึงรถยนต์รุ่นที่ผลิตตั้งแต่ปี 1980 เป็นต้นมา มีอยู่ประมาณ 57,000 คันทั่วประเทศ โดยในจำนวนนี้มีอยู่ 40,000 คันที่สามารถปรับแต่งเครื่องยนต์ให้สามารถใช้น้ำมันเบนซิน 91 ได้ ข้อมูลจาก นายประเสริฐ อังควินิจวงค์ อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย
ข้อ 2 การใช้รถยนต์ในชีวิตประจำวันของคุณเอง หากคุณเป็นคนที่ต้องใช้รถยนตืเพื่อทำงาน วันๆ หนึ่ง ใช้ระยะทางเป็น 100 กิโลเมตร การใช้ NGV น่าจะเป็นทางเลือกที่ประหยัดคุ้มค่ากับการยอมลงทุนในข้อที่ 1 คือมีโอกาสคืนทุนเร็ว แต่ถ้าไม่ใช่ และคุณเป็นคนที่ใช้รถวิ่งไปมาแค่บ้านกับที่ทำงาน ส่งลูกไปโรงเรียน ใช้เส้นทางประจำ ระยะทางสั้นๆ ผมว่าอาจไม่คุ้มครับ
ข้อที่ 3 คือสภาพรถเราเป็นรถใหม่หรือเก่า หากเป็นรถค่อนข้างใหม่ การเปลี่ยนอุปกรณ์ใดๆ ของ NGV จะมีผลให้ระยะประกันของรถคุณหมดลงทันที เพราะ รถที่ดัดแปลงเครื่องยนต์-ระบบหัวจ่ายเครื่องยนต์ของคุณ มีผลให้บริษัทไม่อาจรับสภาพคุ้มครองการบำรุงรักษา ซึ่งคุณต้องหันไปพึงกับอู่ที่ติดตั้งระบบ NGV ครับ ส่วนการเติม gasohol ไม่มีผลต่อระยะเวลาประกัน - การบำรุงรักษา ที่ระบุไว้ในคู่มือ (หากรถยนต์ของคุณอยู่ใน list ที่สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยได้ประกาศไว้แล้ว)
ก็ลองพิจารณาดูนะครับ :)
แหล่งข้อมูล: กรมธุรกิจพลังงาน - http://www.doeb.go.th/ สมาคมอุตสาหกรรมยานยนต์ไทย - http://www.taia.or.th/ บางจาก - http://www.bangchak.co.th/th/energy.asp?catID=1 ปตท. - http://www.pttplc.com/th/ptt_core.asp?page=ps_pr_f... กระทรวงพลังงาน - http://www.energy.go.th/moen/ - 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
Ngv หรือ แก็สโซฮอล ดีทั้งคู่เคยใช้ทั้งสองอย่างไม่พบข้อเสียใด ๆ เลย ถ้ามีเงินเยอะก็ติดตั้ง NGV ไปเลย เพราะประหยัดมาก เช่น รถTAXY เติม 100 บาท วิ่งทั้งวัน ถ้าเป็นนำมันเบนซินละก็ 1000 กว่านู้นแหละ แต่รถที่ใช้แก็สโซฮอลอย่าจอดตากแดดเพราะจะละเหยเร็วเท่านั้นเอง ให้จอดที่ร่ม ๆ เท่านี้ก็เรียบร้อย
แหล่งข้อมูล: ประสบการณ์ล้วน ๆ - ไม่ประสงค์ออกนาม1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
เท่าที่ทราบมา แก๊สโซฮอล์ มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซึ่งมีผลกับห้องเครื่องที่เป็นโลหะ จะทำให้เครื่องยนต์ที่ใช้ เสื่อมสภาพเร็วขึ้นครับ แต่ถ้าเทียบกับการใช้รถในชีวิตประจำวันของคนไทย ก็ถือว่าเป็นความเสียหายที่ยอมรับได้ครับ (เปลี่ยนรถกันบ่อยมาก)
และในทางปฏิบัติแล้ว ถึงแม้แก๊สโซฮอล์จะมีราคาที่ถูกกว่าน้ำมันทั่วไป แต่มันก็มีการเผาผลาญที่รวดเร็ว ทำให้หมดเร็วกว่าน้ำมันปรกติด้วยนะครับ เปรียบเทียบว่าวิ่งทางไกลที่ระยะทางเท่ากัน ปริมาณน้ำมันเท่ากัน แก๊สโซฮอลจะหมดก่อนเมื่อวิ่งมา 75% ของระยะทาง รายละเอียดสามารถไปหาอ่านได้จากรายงานประกอบการทดสอบ ของมหาลัยชื่อดังที่เค้าเอามาโฆษณา รับรองตัวน้ำมันแก๊สโซฮอล์เองนั่นแหละครับ
ถ้าใครมีข้อมูลที่ถูกต้องเชื่อถือได้มากกว่านี้ก็มาช่วยๆกันตอบด้วยนะครับ
- นายริดLv 41 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
ความคิดของผมใช้แกสโซฮอล์ดีกว่าเพราะแกสโซฮอล์สามารถจัดการได้ด้วยการวางแผนการผลิตสินค้าเกษตรเพื่อให้มาผลิตเป็นแอลกอฮลอล์
โดยการคำนวนความต้องการที่แท้จริง วางแผนการผลิตโดยทำContract Farmingทำให้เกิดการสร้างการวิจัยที่ทำให้เกิดการเพิ่มผลผลิตต่อไร่เป็นการกระจายรายได้เพิ่มGDPของชาติได้และลดปริมาณมลพิษทางอากาศ
ทั้งลดการนำเข้าสร้างเสถียีรภาพทางการเงินของชาติแต่ต้องใช้ให้ทดแทนน้ำมันให้ได้ทั้ง100%จึงจะสมเหตผลในการเปลี่ยนอะไหล่บางอย่างครับ
ข้อดีไม่หมดแน่แต่ต้องวางแผนการตลาดคือหาตลาดวิจัยการตลาด วิเคราะห์องค์การ สิ่งแวดล้อมทางธุรกิจ ทั่วไปทั้งนโยบาย กฏเกณฑ์ กฏหมาย สร้างสรรค์คุณค่า พัฒนาคนทุกภาคส่วนเพื่อสนองตอบความต้องการดีทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชนครับ
ส่วนNGVเราต้องขุดเจาะหาและได้มามีปริมาณจำกัด 30- 50ปี ต้องหาใหม่ง่ายๆก็มีวันหมดเช่นน้ำมันแต่นั่นแหละหากต้องการขายของธรรมชาติก็ไม่ต้องพัฒนาคนเพื่อการสร้างสรรค์วิจัย วิเราะห์พัฒนาแต่หากใช้ปัญญาของคนทุกภาคส่วรร่วมระดมความคิด รับฟังทุกภาคส่วน ลดอัตตาลง การมีส่วนร่วม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นประเทศเราไม่เป็นรองใครครับวัตถุประงค์มุ่งที่ OUT COME มากกว่าOUT PUT นะครับ
- 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
สอบถามคุณสามีให้แล้วก็จำได้คล่าวๆ คือ ngv คือแก็สธรรมชาติ แต่แก็สโซฮอล์จะมีส่วนผสมของน้ำมันเบนซิน แต่ถ้าจะใช้ก็น่าจะใช้ ngv ค่ะ
- Tum B.Lv 41 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
NGV คือ Natural Gas Vehicles หรือบางทีก็เรียกว่า Compressed Natural Gas : CNG
ยานยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งก็เหมือนกับก๊าซธรรมชาติ ที่นำมาใช้ในบ้านอยู่อาศัยในหลายๆ ประเทศ เช่น ออสเตรเลีย เพื่อการประกอบอาหาร การทำความร้อน เป็นต้น
จากปัญหาสภาวะที่อุณหภูมิของโลกร้อนขึ้น และนานาประเทศก็มุ่งไปสู่การลดปัญหาก๊าซเรือนกระจก รวมทั้งการให้ความใส่ใจกับปัญหามลพิษ และคุณภาพอากาศในประเทศของตน จึงทำให้มีการปรับปรุง มาตรฐานการระบายมลสารจากยานพาหนะที่เข้มงวดขึ้น แต่ก็ยังไม่เพียงพอต่อการปรับปรุงคุณภาพอากาศให้ ดีขึ้น จนกว่าจะมีการเลือกใช้เชื้อเพลิงที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมด้วย
ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงที่มีการเผาไหม้ที่สะอาดกว่าเชื้อเพลิงประเภทฟอสซิลทุกชนิด ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก จึงส่งเสริมและสนับสนุน ให้มีการใช้ยานยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ เป็นเชื้อเพลิงด้วยข้อได้เปรียบ ของการเป็นเชื้อเพ��ิงที่สะอาด ไม่ส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม โดยประเทศที่มีการใช้ยานยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติอยู่แล้ว ก็มีแนวโน้มที่จะขยายการใช้มากขึ้น ได้แก่ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินโดนีเซีย เกาหลี เป็นต้น ส่วนประเทศที่ยังไม่เริ่มใช้ รัฐบาลก็กำลังส่งเสริมให้มีการใช้ในอนาคต ได้แก่ ฮ่องกง และสิงคโปร์
ความแตกต่างระหว่างก๊าซธรรมชาติ ( Natural Gas : NG ) และก๊าซปิโตรเลียมเหลวหรือก๊าซที่ใช้ในการหุงต้มประกอบอาหารในบ้านเรา ( Liquefied Petroleum Gas : LPG ) ก็คือ
• ก๊าซธรรมชาติ เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอนซึ่งมีองค์ประกอบของก๊าซมีเทน ( Methane ) เป็นส่วนใหญ่จึงเป็นก๊าซที่มีน้ำหนักเบากว่าอากาศ การขนส่งไปยังผู้ใช้จะขนส่งผ่านทางท่อในรูปก๊าซภายใต้ความดันสูงจึงไม่เหมาะสำหรับการขนส่งไกลๆ หรืออาจบรรจุใส่ถังในรูปก๊าซธรรมชาติอัดโดยใช้ความดันสูง หรือที่เรียกว่า CNG แต่ปัจจุบันมีการส่งก๊าซธรรมชาติในรูปของเหลวโดยทำก๊าซให้เย็นลงถึง –160 องศาเซลเซียส จะได้ของเหลวที่เรียกว่า Liquefied Natural Gas หรือ LNG ซึ่งสามารถขนส่งทางเรือไปที่ไกลๆ ได้ และเมื่อถึงปลายทางก่อนนำมาใช้ก็จะทำให้ของเหลวเปลี่ยนสถานะกลับเป็นก๊าซอย่างเดิม ก๊าซธรรมชาติมีค่าออกเทนสูงถึง 120 RON จึงสามารถนำมาใช้เป็นเชื้อเพลิงในยานยนต์ได้
• ก๊าซปิโตรเลียมเหลว ( LPG ) เป็นสารประกอบไฮโดรคาร์บอน ซึ่งมีองค์ประกอบของก๊าซโพรเพน ( Propane ) เป็นส่วนใหญ่ จึงเป็นก๊าซที่หนักกว่าอากาศ โดยตัว LPG เองไม่มีสี ไม่มีกลิ่นเช่นเดียวกับก๊าซธรรมชาติ แต่เนื่องจากเป็นก๊าซที่หนักกว่าอากาศจึงมีการสะสมและลุกไหม้ได้ง่าย ดังนั้น จึงมีข้อกำหนดให้เติมสารมีกลิ่น เพื่อเป็นการเตือนภัยหากเกิดการรั่วไหล LPG ส่วนใหญ่จะใช้เป็นเชื้อเพลิงในครัวเรือนและกิจการอุตสาหกรรม โดยบรรจุเป็นของเหลวใส่ถังที่ทนความดันเพื่อให้ขนถ่ายง่าย นอกจากนี้ ยังนิยมใช้แทนน้ำมันเบนซินในรถยนต์ เนื่องจากราคาถูกกว่า และมีค่าออกเทนสูง
ส่วนแก๊สโซฮอล์ คือ น้ำมันเชื้อเพลิงที่เป็นส่วนผสมระหว่างเอทิลแอลกอฮอล์หรือเอทานอล ชนิดความบริสุทธิ์ 99.5% โดยปริมาตร ที่ได้จากการหมักและกลั่นผลิตผลทางการเกษตร (อ้อยและมันสำปะหลัง) ผสมกับน้ำมันเบนซิน ชนิดพิเศษ ในอัตราส่วนเบนซิน 9 ส่วน เอทานอล 1 ส่วน ได้เป็นน้ำมันแก๊สโซฮอล์
----------------------------------------------------------------------------------
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดเลยก็คือ ก๊าซโซฮอล์สามารถใช้ในรถรุ่นใหม่ทั้งหมดได้อยู่แล้วครับ ไม่ต้องดัดแปลงเครื่องยนตร์อะไรเลย (แต่ก็อย่างที่รู้ ราคาน้ำมันถึงแม้จะเป็นก๊าซโซฮอล์ ก็ยังแพงอยู่) แต่ถ้าต้องการจะเปลี่ยนไปใช้ NGV จะต้องดัดแปลงเครื่องยนตร์ ติดตั้งถังสำหรับใส่ก๊าซ ซึ่งก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายตรงส่วนนี้พอสมควรครับ แต่ราคาค่าใช้จ่ายสำหรับค่าก๊าซ ก็จะถูกกว่าการใช้น้ำมันพอสมควรครับ
แหล่งข้อมูล: http://www.pttplc.com/th/ptt_core.asp?page=ps_pr_f... http://www.pttplc.com/th/ptt_core.asp?page=ps_pr_f...