Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

ยันจัง ถามใน สุขภาพสุขภาพจิต · 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

อยากแก้นิสัยเสียของตนเอง เช่น ขี้หงุดหงิด,อารมณ์ร้อน,มองคนอื่นในแง่ร้าย

12 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    ความหงุดหงิดเป็นน้องๆ ของความโกรธ เพราะไม่ชอบใจ ไม่ถูกใจ ไม่พอใจอะไรทำนองนี้

    - วิธีแก้ไข

    คนที่หงุดหงิดง่ายเพราะมีข้อมูลกิเลสด้านโทสะมาก และมักจะคิดโกรธผู้อื่นได้โดยง่าย เช่นคนที่มีข้อมูลด้านการบ่นมาก มักจะคิดบ่นอยู่ในใจเสมอและบ่นได้ง่าย ยิ่งคิดซ้ำแล้วซ้ำอีกจะเกิดต่อยอด

    การรู้เห็นความคิดอกุศลที่กำลังเกิดขึ้นในจิตใจได้เร็ว ก็จะสามารถดับความคิดนั้นได้เร็วเช่นกัน

    วิธีฝึกรู้เห็นความคิดนั้นง่ายนิดเดียว เพียงตั้งเจตนาว่าจะรู้เห็นความคิดพร้อมกับตั้งใจดูอย่างจริงจังในชีวิตประจำวัน เช่นกำลังหงุดหงิดก็รู้เห็นและรู้ทันความคิดนั้นว่า กำลังคิดอกุศลอยู่ ก็ให้ตั้งใจมีสติหยุดการคิดเรื่องนั้นทันที เมื่อคุณตั้งใจว่าจะไม่คิดร้ายต่อผู้อื่น ครั้นเมื่อคุณมีความคิดเช่นนั้น ก็รู้เห็นรู้ทันความคิดนั้น ความคิดร้ายก็จะหมดไปทันที ถ้าคุณฝึกสติได้ดีตามสมควร

    สรุป คือ รู้เห็นความคิด หยุดความคิด กำกับความคิดและควบคุมความคิด

    อย่าให้ความคิดหงุดหงิดปล้นความสุขไปอีก

    ขอให้คุณมีความสุขค่ะ

    เคยตอบไปแล้วเรื่องความหงุดหงิดขอใช้ข้อมูลเดิมค่ะ

    ส่วนเรื่องมองคนอื่นในแง่ร้าย ขอให้คุณคิดถึงเรื่องที่คุณคิดว่ามันได้ประโยชน์อะไรกับจิตวิญญาณของตัวคุณเองบ้าง หรือมีแต่จะบั่นทอนตัวเอง คุณลองเปลี่ยนคลื่นของสถานีวิทยุใหม่ ให้จิตใจมีแต่ความเอื้ออารี ยึดอารมณ์ของความเอ็นดู เป็นความรู้สึกที่อบอุ่น อิ่มเอม ความรู้สึกของการให้อภัย ไม่เก็บความรู้สึกไม่พอใจไว้ในใจสักนิดหนึ่ง เมตตาต่อเขา เอ็นดูและหวังดี และประคับประคองความรู้สึกอันนี้ไว้ทั้งวัน

    เวลาคุณกินเงาะกินองุ่นคุณก็ฉลาดเลือกกินแต่ลูกที่มันดีๆ ลูกเน่าๆ เสียๆ ก็ทิ้งไป แต่เวลาที่มองคนอื่น ทำไมไม่เลือกมองแต่ส่วนดีของเขาล่ะ

    แหล่งข้อมูล: ที่มา: แนะนำวิธีเจริญสติ โดย เอกชัย จุละจาริตต์
  • Kanes
    Lv 6
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ช่างมัน..ช่างมัน..ช่างมัน..ช่างมัน...ช่างมัน...ช่างมัน...ช่างมัน...ช่างมัน...ช่างมัน...ช่างมัน...ช่างแม่มัน...หาย

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    คุณ Mim ตอบที่เราอยากตอบไปซะแล้ว

    แล้วเราก็เห็นด้วยนะ

    ถ้าอยากแก้ให้ได้ ต้องรู้เท่าทันความคิดและอารมณ์ของตัวเองก่อน

    เมื่อรู้เท่าทันได้แล้ว ว่าเอ๊ะ! เรากำลังหงุดหงิดนะ

    เรากำลังด่าเค้าในใจนะ เรากำลังอย่างนู้นอย่างนี้

    เมื่อจับเจ้าตัวความคิดและอารมณ์นี้ได้แล้วก็ให้ควบคุมให้ค่อยๆลดน้อยลง และ หยุดมันในที่สุด

    มันอาจไม่สามารถทำได้ในทันที

    คุณอาจจะต้องใช้เวลาเป็นนาทีๆ หรือ อาจจะหลายนาที

    สำหรับคนที่ไม่เคยฝึกจับมาก่อน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร

    เรื่องที่ยากคือ บางคนจับได้ แต่ไม่ยอมหยุดมัน (มันหยุดยาก เวลาคุณหงุดหงิด เข้าใจ)

    ถามตัวเอง... ว่าคุณหงุดหงิดเพราะอะไร?

    เพราะเค้า หรือ อะไรซํกอย่างมันไม่ได้ดั่งใจคุณ มันไม่เป็นไปตามที่คุณคิดรึเปล่า?

    ถ้าใช่... คุณต้องหัดทำใจเย็นกว่านี้แล้วล่ะ

    เพราะทุกสิ่งในโลกนี้ไม่เที่ยง ไม่อยู่คง และมีการเปลี่ยนแปลงตลอด

    คุณต้องหัดไม่ยึดมั่นถือมั่นกับตัวตนและสิ่งรอบตัว

    คุณไม่สามารถบังคับให้อะไรๆเป็นไปได้อย่างที่คุณคิด

    แม้แต่ร่างกายคุณก็ไม่ใช่ของคุณ.. คุณบังคับให้ร่างกายไม่แก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายได้ไหม?

    ขนาดสิ่งที่อยู่กับตัวเราเอง ยังเป็นไปตามที่เราคิดไม่ได้เลย

    เหตุการณ์อื่นๆก็เช่นกัน คุณต้องระลึกถึงข้อนี้ไว้เสมอๆ ถ้าคุณทำได้มันจะช่วยให้ดีขึ้นได้

    แต่ถ้าคุณระลึกถึงข้อนี้ไม่ได้ตลอดละก้อ ลองเปลี่ยนเป็นนึกถึงความเป็นเหตุเป็นผลนิดนึงก็แล้วกัน

    ว่าทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้น ทำไมมันถึงเป็นอย่างนี้

    ลองมองข้ามอคติและความคิดที่บั่นทอนความรู้สึกตัวเองไป

    แล้วมองถึงแก่นลึกของประเด็นปัญหาที่เกิด

    แล้วให้ลองทำอย่างนี้... (อันนี้ไม่ค่อยแนะนำนะ แต่ว่าถ้าใครทำไม่ได้จริงๆก็เอาอันนี้ไปลองก็ได้)

    คิดในสิ่งที่คุณอยากคิด คุณจะหงุดหงิดยังไง คิดไป...จะโทษใครโทษอะไร คิดไป

    แต่พอคุณ คิดไปข้อนึง คุณจะต้องสมมติตัวเองว่าเป็นทนายให้อีกฝั่ง

    มองหาข้อแก้ต่างมาค้านสิ่งที่คุณคิดซิ แล้วเอาให้ชนะสิ่งที่คุณคิดด้วยนะ ห้ามมั่วและเอนเอียง

    แล้วถ้าคุณยังหงุดหงิด อยากด่าอยากบ่นอะไรก็ตามอยู่ ก็ทำเหมือนเดิม

    ถ้าคุณเห็นข้อเสียเค้าเพิ่ม 1 ข้อ จงเป็นทนายแก้ต่างให้อีกฝั่ง แล้วเอาชนะความคิดตัวเองให้ได้

    คุณคิดไปเรื่อยๆ แล้วสุดท้ายคุณก็จะรู้ว่า ทุกๆสิ่งที่คุณคิด มันก็มีอีกด้à��²à¸™à¸‚องมันเสมอๆ

    บางทีคุณอาจจะเห็นหรือเข้าใจอะไรดีๆมากขึ้น เห็นเหตุและผลมากขึ้น

    มันอาจพอช่วยให้คุณระงับสิ่งที่คุณไม่ต้องการได้ ไม่มากก็น้อย

    แต่จริงๆ ถ้าอยากให้ได้ผลกว่านั้น อยากให้คุณนั่งสมาธิบ่อยๆ

    สมาธิและสติ จะทำให้เราจับเจ้าอารมณ์และความคิดที่ว่านั้นได้เร็วขึ้น

    แล้วที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับตัวคุณเองแล้วล่ะ

  • NooaoM
    Lv 4
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    แนะนำให้อ่านหนังสือธรรมมะ เดี๋ยวนี้มีน่าอ่านเยอะแยะ ค่ะ หัดทำบุญเข้าวัด สงบดีค่ะ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ผมเห็นด้วยกับคุณรักษ์

    มนุษย์ประกอบด้วยจิตและกายพฤติกรรมส่วนใหญ่มาจากจิต สิตสำนึก

    และจิตใต้สำนึกบังคับให้ร่ายกายแสดงออกมาทางสีหน้า ท่าทาง วาจา

    สายตา กระทำ ทางแก้ลองหากระจกเงาเก็บไว้เวลาเกิดมีอารมภ์ดังกล่าว

    ให้ยกมาส่องดูหน้าตนเอง นั่นคือยักษ์ในจิตเรา หาเทพบุตรในจิตให้เจอ

    ครับสิ่งนี้แก้ที่ตนเอง แต่ต้องใช้เวลาจับจิต ไม่ให้หวั่นไหวในสิ่งที่เรา

    สัมผัส ไม่ว่าจากตา หู ลิ้น จมูก กาย สัมผัสที่หก ให้ใช้สติจับจิตแล้ว

    พิจรณาว่าสิ่งต่างๆที่เห็น ได้ยิน ลิ้มรส กลิ่น ร้อนหนาว เป็นเรื่องธรรมดา

    เราอย่าทำตามก็แล้วกัน แม้จะได้รับสิ่งที่สัมผัสแล้วรู้สึกดี ก็อย่าหลงไหล

    กับสิ่งนั้นๆ ทุกอย่างย่อมเปลี่ยนแปลง สาธุ..........ตามกาลเวลา

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ผมเคยเป็นโรคนี้ครับ ตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่บ้าง 555+ พยายามอยู่ สู้ๆ

    สิ่งที่ผมทำ

    1. ห่างเหล้า เพราะดื่มเหล้า ขาดสติ และผมชอบโวยวาย (ชอบด่าตำรวจและนักการเมืองเป็นเฉพาะเจาะจง)

    2. แก้ขี้หงุดหงิด

    2.1 พูดและเข้าใจสิ่งต่อไปนี้ ===ไม่มีอะไร perfect!!!=== เราไม่ perfect คนอื่นไม่ perfect รถไม่ perfect สังคมไม่ perfect พอใครทำอะไรผิด ก็พูดมันออกมา ไม่มีใคร perfect (เพื่อให้อภัยเขาหรือตัวเอง)

    2.2 คิดหลายๆแง่ วิเคราะห์หลายๆด้าน เช่นตอนซื้อตั้วหนัง ทำไมมันทำหน้าตาฝ่าเท้ายังนี้ พูดก็ไม่เพราะ เรามารับบริการนะ -- คิดอีกแง่คือ เค้าอาจเป็นประจำเดือนอยู่ เค้าอาจจะเพิ่งถูกแฟนทิ้ง อึไม่ออกเมื่อเช้า (เอาใจเขามาใส่ใจเรา - เขาอาจมีปัญหาหรือเรื่องทุกข์จริงๆ อย่าไปโกรธเขาเลย)

    2.2 บอกตัวเอง หงุดหงิดแล้วเราทุกข์ แล้วจะทุกข์ทำไมละ หาอะไรแก้ทุกข์ดีกว่า

    3. อารมณ์ร้อน ให้หยุดที่ปาก เช่นเวลามีรถตัดหน้าเรา หรือใครทำอะไรไม่ดีต่อเรา ปกติอาจด่าว่า ไอ้-สาด เราต้องฝึกหยุด ห้ามด่า พอรู้ว่าจะด่าก็ต้องหยุดให้เร็วที่สุด (เพราะด่าแล้ว ด่าได้เป็นวัน และเครียดเป็นวัน) ครั้งแรกๆจะหยุดได้ที่คำว่า ไอ้ (นี้เป็นการฝึกให้นิ่งมากขึ้น)

    4 มองคนอื่นในแง่ร้าย ต้องคิดหลายๆแง่ครับ คือเค้าอาจจะดีหรือไม่ดีก็ได้ อันนี้ผมเรียนรู้โดยธรรมชาติ (ธรรมชาติลงโทษ) คือสิ่งที่เราคิดไว้ตอนแรกไม่ได้เป็นสิ่งมันต้องเป็น ผมเดาคนอื่นผิดบ่อยๆเลยทำให้เสียโอกาส เลยต้องปรับตัวเองไม่ให้คิด ให้คิดเป็นกลาง (ผมว่ามองคนในแง่ดีมากเกินไปก็ไม่ดีนะ เอาเป็นแบบพอดีๆ เขาาอาจจะดีหรือร้ายก็เป็นได้ เรายังไม่รู้จริง ได้แต่เดา เราต้องดูต่อไป)

    good luck!!

  • แต่ก่อนก็เป็นเหมือนกันค่ะ เลยหาซื้อหนังสืออ่านเล่นเกี่ยวกับจิตวิทยาใช้ภาษาง่ายๆ ขออนุญาตเอ่ยชื่อหนังสือนะคะ คนรู้ใจ ของ ดนัย จันทร์เจ้าฉาย อ่านแล้วให้ความรู้สึกที่ดี่ขึ้น ไม่หงุดหงิด ไม่อารมณ์ร้อน ไม่มองคนอื่นในแง่ร้าย เวลาเกิดความรู้สึกที่ไม่ดีเหล่านี้ทำให้ใจเราไม่สบายรุ่มร้อนอย่างไรไม่รู้ ย้อนกลับมาคิดอีกทีมันเป็นการทำร้ายตัวเราเองชัดๆ หงุดหงิดไปก็ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้น อารมณ์ร้อนก็มีแต่จะทำให้แย่ลง มองคนอื่นในแง่ร้ายชีวิตก็ไม่เห็นจะมีความสุขขึ้น สู่เราทำใจนิ่งๆๆมองทุกสิ่งเป็นเรื่องธรรมดาๆที่ทุกคนจะต้องพบเจอดีกว่า ความทุกข์มันเกิดขึ้นแล้วจะไปทับถมให้ทุกข์มากขึ้นอีกทำไม สู้ทำความทุกข์ให้มันเป็นเรื่องสนุกจะรู้สึกมีความสุขดีกว่า คนอื่นก็ไม่ได้เลวร้ายไปซะทั้งหมดในโลกนี้ยังมีคนดีà¹��อีกตั้งมากมาย มองสิ่งที่ดีในตัวเขามองข้ามสิ่งเลวไปบ้างก็จะทำให้สบายใจขึ้น เป็นกำลังใจให้หายจากโรคนี้ไวๆๆเร็วๆๆๆค่ะ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    อย่าพยายามคิดเอาทุกอย่างให้มาเป็นของเรา ซึ่งไม่มีความเป็นไปได้เลยในความเป็นจริง

    ผมคอยถามตัวเองอยู่ตลอด เวลาเจอปัญหายากๆ หรือเครียด หรือว่าอารมย์ไม่ดี ว่า//

    ทุกคนต้องตายใช่มั๊ย ถ้าตัวเราต้องตายภายใน 3 วัน ข้างหน้า

    อยากทำอะไรมากที่สุด นับจากวินาทีนี้

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    Bom eu não sei o que você está perguntando, mas você também não sabe o que estou respondendo, então fica elas por elas.

    Um abraço do BRASIL!!!

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    สวัสดีค่ะ จริงๆ แล้วก็ไม่ได้เป็นนิสัยเสียเลย อย่าไปว่าตัวเองอย่างนั้นก่ะ เพราะทุกคนส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบนี้ไม่มีใคร 100 เปอร์เซ็นต์หรอก เพียงแต่คนอื่นไม่บอกเท่านั้นเอง ตรงนี้ไม่ใช่ปัยหาเลยน๊ะ ลองมาเริ่มวันใหม่ตอนเช้าตรู่สดใสและเริ่มจากสาเหตุที่เราหงุดหงิดเพราะอะไรก่อนซิ ลองนั่งตรึกตรองดูว่าทำไมเราเห็นทันทีต้องหงุดหงิดแบบไม่มีสาเหตุ และลองดูกลับกันว่าถ้าเกิดตรงนั้นคือการกระทำที่เราจะต้องยอมอย่างจำเป็นและเพื่อทำให้บรรยากาศดีขึ้นจะดีมั้ย แพ้เป็นพระน๊ะ ชนะเป็นมารน๊ะ คนที่แพ้ส่วนใหญ่จะมีแต่คนสสงสารน๊ะ แต่ถ้าทำให้อะไรมันดีขึ้นเราต้องทำ ความหงุดหงิดมันก็จะเริ่มคลี่คลายเพราะสิ่งนั้นมันอยู่ในใจตลอดเลยทำให้เป็นตัวบาปกวนใจเรา ทุกอย่างไม่มีคำว่าแพ้หรือชนะ อยู่ที่การกระทำ เราอยู่กับคนอื่นเรารักและให้เค้าก่อน เค้าไม่รัก ไม่ยิ้มให้เราวันนี้ แต่เราก็ทำหย่างนี้แหม น้ำหยดลงหิน ทุกวันหินมันยังกร่อนเลย หัวใจคนอ่อนๆ ทำไมเค้าจะไม่รู้สึก จริงมั้ยล่ะ

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้