อะไรที่คุณทานแล้วคุณเชื่อว่าเป็นอาหารที่ทำให้คุณแข็งแรง ทำให้ไม่ป่วย?

สวัสดีค่ะ

คุณหมอไคโรแพรคติคท่านหนึ่งแนะนำให้ทานผัก ผลไม้ และอาหารที่มาจากธรรมชาติและไม่แปรรูปจนสูญเสียคุณค่ามากเกินไปค่ะ ทานแป้งและน้ำตาลให้พอดี ไม่มากเกินไปเพราะจะทำให้อ้วน ส่วนไขมันนั้นก็ต้องระวังไม่ทานมากค่ะ เพราะมันจะไปสะสมตามร่างกายและหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงร่างกายค่ะ โดยเฉพาะสมองเป็นที่ๆควรระมัดระวังมากที่สุดเพราะว่าเรามองไม่เห็น กว่าจะรู้ตัวว่าหลอดเลือดอุดตันก็อาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ค่ะ ผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติก็ควรเลือกที่ไม่มีไขมันสูง เช่นนมที่เราดื่มนั้นคุณหมอบอกมาว่า จริงๆแล้วในนมมีไขมันค่อนข้างสูง เมื่อดื่มเป็นประจำมันจะไปอุดตันการดูดซึมวิตามินและแคลเซียมในระบบทางเดินอาหารได้ และการแปรรูปน้ำนมกว่าจะมาถึงมือผู้บริโภคนั้นก็สูญเสียคุณค่าไปมาก เป็นเรื่องของการตลาดและความเชื่อที่ผิดๆที่ว่าดื่มนมแล้วกระดูกจะไม่พรุน ซึ่งก็พบว่าคนที่ดื่มนมมากๆบางคนก็ยังสามารถเป็นโรคกระดูกพรุนได้ค่ะ เราจึงไม่ควรเชื่อคำโฆษณาและความเชื่อที่ผิดๆที่ถูกปลูกฝังกันมาบางอย่าง การเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์และคงคุณค่าทางธรรมชาติไว้มากเท่าที่ทำได้ และปรุงให้ปลอดภัยจากเชื้อต่างๆตามความเหมาะสม หลีกเลี่ยงผักที่ฉีดยาฆ่าแมลงหรือสารตกค้าง คิดว่าเพียงเท่านี้ก็ทำให้ร่างกายเราแข็งแรงได้ค่ะ แต่ทางที่ดีควรได้รับคำแนะนำในการบริโภคที่ถูกต้องจริงๆจากผู้รู้ด้วยค่ะ

น้ำ

ผัก

ผลไม้

นม

โยเกิร์ต

น้ำผึ้ง

โสม

ฯลฯ

อาหารที่เราเชื่อว่าเป็นอาหารที่ทำให้แข็งแรงน่ะ มีหลายอย่างเลยอย่างที่ข้างบนตอบมานั่นล่ะ แต่ปัญหาคือเราฝากท้องไว้กับร้านอาหารข้างบ้านน่ะ คือ"รู้แต่ทำไม่ได้"

เราก็เลยใช้วิธีอาหารเสริมช่วย อย่าง วิตามินซีกับน้ำมันปลาพร้อมอาหารเช้า, EPOพร้อมอาหารเย็น และหลินจือกับวิตามินซีเวลาเหนื่อยล้าก็จะรู้สึกดีขึ้น มีอย่างเดียวที่สะดวกหาทานคือ นมถั่วเหลือง, น้ำลูกพรุน ซื้อยกลังติดบ้านไว้เลย

อาหารทุกอย่างผมกินมาหมดนะครับไม่ว่า เปรี้ยว เผ็ด เค็ม หวาน มัน แต่อาหารที่ทุกคนต้องกินทุก ยี่สิบสี่ ชั่วโมง คือ อากาศบริสุทธิ์ ครับ ถ้าคนไหนกินได้มากหมายถึง ค่อยผ่อนคลายกล้ามเนื้อแล้วสูดอากาศเข้าปอดช้าๆตอนแรกต้องฝึกครับ เพราะอาหารชนิดนี้ไม่ต้องซื้อหามีทุกหนแห่งครับถ้าทำได้ก็ทำให้สุขภาพแข็งแรง

กินทุกอย่างครับ ยกเว้นยาพิษ อะไรที่ขึ้นชื่อว่าอาหารล้วนมีประโยชน์ทั้งนั้น แต่ต้องกินในปริมาณที่พอเหมาะ ถ้ากินมากไปก็มีพิษทั้งนั้นแหละครับ (เคยมีข่าวคนกินน้ำเยอะๆแล้วเป็นอะไรซักอย่าง) ในขณะที่สารพิษถ้ากินน้อยๆก็ไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายเช่น อาหารกระป๋อง ที่กระป๋องมันจะเคลือบอะไรซักอย่าง(รู้สึกจะดีบุก) แต่มันก็มีการควบคุมมาตรฐานนะ เพราะฉะนั้น คนกินปลากระป๋องเยอะเลยไม่เป็นอันตรายอะไร เพราะก็มีตับกับไต ทำหน้าที่ขับสารพิษอยุ่แล้ว

พูดมาซะยาวยังไม่ได้ตอบคำถามเลยแฮะ

ของผมก็ประมาณนี้

1.วิตามินซี(ห้ามกินเกินวันละ2000กรัม ในผู้อายุมากกว่า 18ปี)

2.น้ำผึ้ง

3.เมล็ดทานตะวัน

4.ปลา

5.ผักและผลไม้

6.ไขมันจากพืช (ต้องกินไขมันด้วยเพราะเป็นหนึ่งในอาหารหลักห้าหมู่เหมือนกัน แต่เลือในมันที่ร่างกายไม่สะสม เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน น้ำมันงา)

7.ข้าว แป้ง น้ำตาล เผือก มัน (ต้องกินในปริมาณที่เหมาะสมไม่งั้นผลแทรกซ้อนจากโรคอ้วนตามมาเป็นขบวนพาเหรดเลย)

ข้าวสวย , ผัก , ผลไม้ , น้ำนมถั่วเหลือง , ปลาทะเล , ควรทานเนื้อสัตว์เล็กๆบ้างนิดหน่อย แต่ที่สำคัญทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ตรงเวลา ไม่ทานของหมักดองมาก และอาหารรสจัด หรืออาหารปรุงแต่งสีและกลิ่น มากเกินไป เท่านี้ก็ดีที่สุดแล้ว

โยเกิร์ต

กล้วยหอม

ข้าวกล้อง

โหระพา

เห็ด

ถั่ว

ลูกพรุน

ทับทิม

น้ำเต้าหู้

หน่อไม้

หน่อไม้ฝรั่ง

คาร์โบไฮเดรต ต้องพวกธัญพืช ข้าวกล้องลูกเดือย ถั่วต่างๆ

โปรตีน ไข่ ปลาทะเล เต้าหู้

ไขมัน ก็น้ำมันมะกอก งา น้ำมันเพอร์ลาร์

เกลือแร่ ผักทุกๆสี ถ้าทำได้ 5 สียิ่งดี สมุนไพร เช่น พวกสาระแหน่ ขิง

วิตามิน ผลไม้ ตระกูล แอปเปิ้ล แพร์ ฝรั่ง สุกมะละกอ พีช อะโวคาโด

น้ำเปล่า ชาเขียว น้ำผึ้ง

สำหรับตัวดิฉันเองก็ไม่ค่อยแข็งแรงสักเท่าไหร่....

แต่ที่กินอยู่ทุกวันก็คือ..

1.นมจืด/นมเปรี้ยวค่ะ วันละ1แก้ว

2.กินผักเยอะๆ และเลี่ยงอาหารที่มีไขมันสูงๆ

3.ดื่มน้ำเยอะๆ ค่ะ...

4.ส่วนออกกำลังกายก็คงจะเป็นเดินบ่อยๆ ลุกทำนู่นทำนี่

ให้ร่างกายได้ขยับบ้างน่ะค่ะ...

*-*

อาหารไทยแท้ค่ะ คำว่าไทยแท้ในที่นี้ คือเมนูโบราณของคนสมัยก่อน ซึ่งในแต่ละมื้อจะประกอบไปด้วย น้ำพริกผักจิ้ม น้ำแกงอย่างแกงจืดหรือต้มยำ ยำต่างๆ ฯลฯ อาหารไทยแท้ๆ นั้น โดยมากจะเป็นการประกอบอาหารโดยการ ต้ม นึ่ง ปิ้ง ย่าง เราเพิ่งมารับการผัด ทอด เข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ของวัฒนธรรมด้านอาหารการกิน เมื่อไม่นานมานี้

อาหารไทยเป็นอาหารที่มีแคลอรี่ต่ำ เมื่อเทียบกับอาหารชาติอื่นๆ และมีข้อเด่นคือมีรสชาด ไม่น่าเบื่อ

อาหารไทยเป็นอาหารที่มี concept ว่า อาหารเป็นยา เพราะเน้นการใช้สมุนไพรต่างๆ เช่น ขิง ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด กระเพรา ฯลฯ เป็นเครื่องปรุง ซึ่งมีผลในการรักษาโรค เช่น ขับลม บำรุงธาตุ ลดความดัน กระตุ้นการหมุนเวียนของโลหิต ฯลฯ เพิ่มภูมิต้านทานให้ร่างกาย และให้รสชาดไปพร้อมกัน

คุณยายของดิฉัน เป็นคนที่ต้องมีน้ำพริกผักจิ้มทุกมื้อ ไม่ค่อยรับประทานอาหารที่เป็นเนื้อสัตว์ล้วนๆ เมนูที่ทำบ่อย คือ แกงต่างๆ น้ำพริก ผักสด หรือผักต้มกระทิ ยำต่างๆ ต้มส้ม ต้มยำ ต้มโคล้ง ปลานึ่ง ปลาย่าง ไม่รับประทานขนมประเภทเบเกอรี่เลย เพราะไม่ชอบนมเนย เน้นขนมไทยกับผลไม้ แหล่งแคลเซียมคือ กระปิ ปลาไล้ตัน ฯลฯ ตอนที่คุณยายอายุ 90 ยังเดินเหินได้ตัวตรง ไปตรวจสุขภาพไม่มีความดันหรือคลอเรสเตอรอล ไม่มีเบาหวานหรือโรคหัวใจ คุณแม่ดิฉันก็เหมือนกัน ดิฉันเลยรับ concept นี้มาใช้ด้วย และได้ผลดีค่ะ