Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

คุณเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดหรือไม่และการเกิดเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็เปลี่ยนแปลงตามกฏแห่งกรรม

4 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    คุณเชื่อเรื่องการเวียนว่ายตายเกิดหรือไม?

    >เชื่อมั่น<

    การเกิดเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็เปลี่ยนแปลงตามกฏแห่งกรรม?

    >ใช่ครับ<

    เหตุผลที่จะอธิบายเรื่องกรรมคงไม่มีเพราะคุณ Zumotaro

    อธิบายไปแล้ว

    ชายจะเกิดเป็นหญิงหรือเป็นเพศที่สามเพราะ

    ผิดศีลข้อ 3.คือผิดลูกผิดภรรยาของผู้อื่น แม้ผู้หญิงจะยินยอมก็ผิด

    หญิงจะเกิดเป็นชายเพราะ

    เคารพสามีและหรือประพฤติพรหมจรรย์ตลอดชีวิต

    แหล่งข้อมูล: *พระไตรปิฎก สุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย อิติวุตตก เล่ม1ภาค 4 หน้าที่ 457*
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เชื่อสิครับ มันเป็นหนึ่งในสี่อจินไตยที่ไม่ควรใช้ความคิดตรึกเดาหรือฟุ้งซ่านจินตนà¸��การไปเอง

    อยู่ในหัวข้อกรรมวิบาก

    อจินไตยมีรายละเอียดดังนี้

    ๑) พุทธวิสัย – หมายถึงคุณสมบัติและความสามารถของพระพุทธเจ้า ยกตัวอย่างเช่นหนึ่งในความสามารถของพระพุทธองค์คือ ‘ รู้ทุกอย่าง ' ถ้าด้วยปุถุชนวิสัยก็ย่อมสงสัยว่ามันจะเป็นไปได้อย่างไร มนุษย์ที่ไหนจะไปรู้ทุกอย่างได้เล่า อันนี้เป็นการมองมาจากมุมมืดอันแคบจำกัดของปุถุชน ซึ่งแม้ได้ข่าวว่ามนุษย์อื่นแค่จดจำสิ่งต่างๆได้มากกว่า หรือคิดเลขได้เร็วกว่า หรือเจนจัดในการงานหลากหลายกว่าตน ก็โน้มเอียงจะดูหมิ่น เห็นเป็นข่าวกุ พร้อมจะเอ่ยเต็มปากเต็มคำแล้วว่าไม่เชื่อ อย่างนี้จะไปเชื่อพุทธวิสัยอันเหนือมนุษย์และเทวดาทั้งหลายได้อย่างไร

    ๒) ฌานวิสัย – หมายถึงคุณภาพจิตที่สามารถนิ่งอย่างเอกอุ เสพรสปีติสุขในสมาธิอันยิ่งใหญ่ระดับทิพย์ที่เกินประสบการณ์มนุษย์สามัญ และนอกจากนั้นยังมีผลเป็นความผ่องใสทางกายเกินคนธรรมดา ล่วงรู้สิ่งลี้ลับต่างๆมากกว่าที่จิตคิดๆนึกๆทั่วไปจะทำได้ เมื่อผู้ได้ฌานพยายามพรรณนาความสุขและความล่วงรู้ต่างๆให้คนกิเลสหนาทั้งหลายฟัง หรือกระทั่งอยากให้รับรู้ตาม เขาจะมีภาพของคนบ้า คนเพ้อเจ้อ หรือคนหลอกลวงมากกว่าอย่างอื่น และในทำนองเดียวกันแม้ใครเชื่อเรื่องฌาน ก็ไม่อาจจินตนาการถูกว่ารสสุขระดับฌานนั้นยิ่งกว่ารสสุขแบบโลกๆสักแค่ไหน รวมทั้งไม่อาจเข้าใจเลยว่าจิตอีกแบบสามารถทะลุทะลวงกำแพงความไม่รู้ต่างๆนานาได้อย่างไร เช่นอ่านใจคนอื่นออกเป็นคำๆ พยากรณ์อนาคตได้แม่นยำเหลือเชื่อ ฯลฯ

    ๓) วิบากแห่งกรรม – หมายถึงผลที่ปรากฏเป็นเหตุการณ์ต่างๆนานาในชีวิตเรา เมื่อไม่รู้เหตุผลเราก็อาจบัญญัติคำว่า ‘ บังเอิญ ' ขึ้นมา แต่แม้เมื่อเชื่อว่าสิ่งทั้งหลายเป็นผลที่หลั่งไหลมาจาà��à¸•à¹‰à¸™à¸˜à¸²à¸£à¸„ือกรรมเก่า ก็ไม่อาจเข้าถึงว่าตนเองเคยไปทำกรรมอันใดไว้ หลายคนโยงกรรมอันเป็นต้นเหตุเข้ากับผลกรรมอันเป็นปลายทางด้วยความคิดคาดเดา บางทีเผอิญถูก แต่หลายทีจะผิดถนัด และแม้จะเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรมละเอียดลออปานใด ท่องจำหลักของกรรมวิบากได้มากมายเพียงไหน ก็ไม่อาจระบุด้วยจินตนาการคิดนึกว่าตนเจอสุขหรือเจอทุกข์หนึ่งๆเพราะแรงกรรมเก่าอันใดเหวี่ยงมา

    ๔) ความคิดเรื่องโลกและจักรวาล – หมายถึงที่มาที่ไปของวัตถุซึ่งใหญ่มากๆเช่นโลกและดวงดาว กับวัตถุที่เล็กมากๆเช่นอะตอมและองค์ประกอบสุดจิ๋ว หลายคนเข้าใจว่าปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์พบคำตอบทั้งหมดแล้ว แต่ความจริงก็คืออัจฉริยะที่อุทิศทั้งชีวิตทำงานค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับวัตถุระดับมหภาคและจุลภาคนั้น เลิกพูดถึง ‘ ความจริงสุดท้าย ' กันนานแล้ว หลายคนเชื่อว่านักวิทยาศาสตร์ที่รู้มากที่สุดในโลก อย่างมากก็เป็นได้แค่เด็กที่ยืนอยู่ชายหาดแต่อยากรู้อยากเห็นและสัมผัสความลี้ลับของท้องสมุทรกันเท่านั้น เอาแค่ได้ข้อสันนิษฐานว่าก่อนเกิดจักรวาลไม่มีอวกาศ ไม่มีกาลเวลา เท่านี้ก็งงแปดกลับแล้วว่าสภาพนั้นเป็นอย่างไร และเหตุใดจึงอุบัติมหากัมปนาท จากความไม่มีอะไรกลายเป็นดาราจักรนับแสนล้านอย่างที่กำลังเห็นๆอยู่ได้ท่าไหน

    เหตุใดจึงเป็นหญิงเป็นชายอยุ่ link 2 นะครับ

  • John
    Lv 4
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ผมเชื่ออย่างสนิทใจครับ

    เรื่องของการเกิดใหม่ หรือการเวียนว่ายตายเกิดนั้นนับว่าเป็นเรื่องยากยิ่งเพราะมีความเกี่ยวพันกับธรรมหลาย ๆ ข้อ ในหลักคำสอนต่าง ๆ ก็อธิบายไว้ ยากที่เรา ๆ จะเข้าใจได้ชัดเจนแม้แต่บรรดาท่านผู้รู้ทั้งหลายที่อธิบาย ต่างก็อธิบายไปตามทัศนะ หรือความเชื่อของท่านตีความไปในแนวของท่าน ส่วนท่านผู้รู้แจ้งจริง ๆ ท่านก็ไม่ต้องมาเวียนว่าย ตาย เกิด มากังวลอยู่กับเรื่องนี้ ฉะนั้น เรื่องดังกล่าวนี้จึงเป็นเรื่องของคนมีกิเลสอย่างเรา ๆ ที่จะมานั่งตีความขยายความกันต่อไปอย่างไรก็ตามศาสนิกชนที่ต้องไม่ลืมว่า ผู้ที่เห็นว่าคนตายแล้วสูญก็ดี ตายแล้วไม่เกิดอีกก็ดี (อุจเฉททิฏฐิ) โลกนี้เที่ยงก็ดี โลกหน้าเที่ยงก็ดี (สัสสตทิฏฐิ) ทั้งสองพวกนี้ พระพุทธเจ้าตรัสวาเป็นมิจฉาทิฏฐิ คือเห็นผิดทั้งสิ้น ดังนั้นเมธีชนพึงพิจารณาเรื่องกรรมและการเกิดใหม่นี้ด้วยวิจารณปัญญา.

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เชื่อว่ามีจริงแต่ไม่มีเหตุผลอ้างอิง เพราะเชื่อโดยจิตวิญญาณว่าตายแล้วเราต้องไปเกิดใช้กรรมที่ทำในชาติหน้า ถ้ากรรมน้อยก็จะใช้ในชาตินี้หมด ถ้ากรรมเยอะต้องไปเกิดชาติหน้าชดใช้กรรมต่อไป ส่วนเกิดเป็นชายหรือหญิง ไม่แน่ใจว่าแล้วแต่กรรมที่ทำหรือเปล่า ส่วนใหญ่ถ้าเกิดมาแล้วทุกคนต้องสร้างกรรมไม่มากก็น้อย ถ้า มากอาจจะไม่ได้เกิดเป็นคนก็ได้

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้