ลองเปรียบเทียบหลักการทำงานของปืนกลเล็กกับเครื่องยนต์ดีเซลว่าเป็นอย่างไร

จากคำตอบของคุณ b f 650ฯ ก็ไม่เชิงที่จะถูกต้องหมด ในกลไกของปืนกลเล็ก เมื่อเข็มแทงชนวนชนเข้ากับกระสุนภายในกระสุนก็จะเกิดประกายไฟและจะทำให้ดินปืนลุกไหม้และเกิดแรงดันภายในตัวกระสุน กระสุนอยู่ในรังเพลิง แรงดันที่เกิดขึ้นจะกระจายตัวออกทุกทิศทางแต่เมื่ออยู่ในรังเพลิงมีอยู่แค่ด้านหน้าและหลังกระสุนด้านหน้าก็จะมีลูกกระสุนที่พุ้งออกไปและกำลังส่วนหนึ่งก็จะทีบลูกเลื่อนออกไปเพื่อปลดปลอกกระสุนและพร้อมกับนำกระสุนใหม่เข้ารังเพลิงถ้าอธิบายจริงๆยาว ส่วนเครื่องยนต์ดีเซลมันเปลี่ยนพลังงานความร้อนเป็นพลังงานกล ใช้ลูกสูบอัดอาการที่อยู่ภายในกระบอบสูบให้เกิดความร้อนละนำมันก็จะฉีดให้เป็นฝอยละอองเมื่อนำมันที่เป็นฝอยละอองมาเจอความร้อนและแรงกดดันที่อยู่ภายในกระบอกสูบก็จะเกิดการลุกไหม้หรือสันดาบเกิดแรงดัน ดันลูกสูบลงมา ลูกสูบมีก้านสูบ ก้านสูบต่ออยู่กับข้อเหวี่ยง ข้อเหวี่ยงหมุนก็เกิดเป็นพลังงานตามวงรอบของมัน ทั้ง 2 ไม่เหมือนกันแต่มีวัฎจักรการทำงานเหมือนกันคือใช้แรงดัน

ทั้งสองระบบใช้ความร้อน

หรือแกสที่เกิดขึ้นในกระบอกสูบ / รังเพลิง

เป็นพลังงานขับเคลื่อนให้กระสุนนัดต่อไป

ให้เข้ามา"รอ"ในรังเพลิง

ไม่กดไกสับนกค้างเอาไว้..ก็ไม่มีการ"จุดระเบิด"ในลูกกระสุน

..หัวลูกปืนก็ไม่วิ่งผ่านลำกล้อง

เครื่องดีเซล..ครั้งแรกที่สตาร์ทรถ..จะมีหัวเทียนชนิด"GROW"

คือเป็นขดลวดความร้อนที่เกิดจากกระแสไฟฟ้า12โวลท์

ผ่านลวดความต้านทาน ร้อนแดงขึ้นมา

ไม่ใช่การสปร๊าคเหมือนเครื่องเบนซิน

หลังสตาร์ทเครื่องติดแล้ว..ระบบก็ตัดไฟ12โวลท์ออกไป

แต่เครื่องไม่ดับเพราะความร้อนและแรงอัดกระบอกสูบ

มีมากพอเพื่อจะเผาใหม้ไอของดีเซลในรอบต่อไป

ระบบดีเซลแบบนี้ใช้กับเครื่องยนต์เครื่องบินเล็ก แต่น้ำมันเชื้อเพลงจะไวไฟมากกว่าดีเซลจริงๆ

เพราะขนาดกระบอกสูบเล็กแค่ปลายนิ้วก้อยเท่านั้น(0.25cc)

เชื้อเพลิงเป็นเอทิลแอลกอฮลล์(เพราะพิษน้อย)ผสมน้ำมันละหุ่ง

สำหรับปืน แต่ไม่จำเป็๋นต้องเป็นปืนกลครับ

..ปืนพกออโตเมติกก็ใช้ระบบทำงานเช่นนี้

ระยะยิงหวังผลของปืนชนิดนี้จึงสั้นกว่าปืนรีวอลเว่อร์(ในขนาดความจุดินปืนเท่ากัน)

.เพราะต้อง"แบ่งแรง"เอาไปขึ้นลำลูกปืน..

.

Do people there wear those things on their head? Two more points.