ทำไมคนเรามักจะปฎิเสธที่จะรับข้อมูลของศาสนาที่เราไม่คุ้นเคย

ผมตอบในความเข้าใจของผมนะครับ

การที่มนุษย์จะรับข้อมูลจากศาสนาอื่นนั้น อาจเปรียบกันน้ำที่อยู่ในแก้ว ถ้าน้ำเต็มแก้วอยู่แล้วก็ไม่สามารถเติมน้ำลงไปได้อีก แต่ถ้าแก้วน้ำนั้น พร่องอยู่ก็สามารถเติมน้ำลงไปได้ แก้วเป็นความพร้อมในตัวมนุษย์ และน้ำเป็นข้อมูลที่ส่งไปให้...

ดังพระคำที่ว่า

"บุคคลผู้ใด รู้สึกบกพร่องฝ่ายวิญญาณ ผู้นั้นเป็นสุข เพราะแผ่นดินสวรรค์เป็นของเขา" มัทธิว 5:3

"ครั้นพระเยซูทรงทราบดังนั้น จึงตรัสแก่เขาว่า “คนเจ็บต้องการหมอ แต่คนสบายไม่ต้องการ เรามิได้มาเพื่อจะเรียกคนที่เห็นว่าตัวชอบธรรม แต่มาเรียกคนที่พวกท่านว่านอกรีต” มาระโก 2:17

ส่วนเรื่องจะเชื่อหรือไม่นั้นส่วนหนึ่งอาจไม่ได้อยู่ที่มนุษย์

"คำพูดและคำเทศนาของข้าพเจ้าไม่ใช่คำที่เกลี้ยกล่อมด้วยสติปัญญา แต่เป็นคำซึ่งได้แสดงพระวิญญาณและพระเดชานุภาพ เพื่อความเชื่อของท่านจะไม่ได้อาศัยสติปัญญาของมนุษย์ แต่อาศัยฤทธิ์เดชของพระเจ้า"1 โครินธ์ 2:4-5

แต่ถึงอย่างไรคุณก็ยังเป็นเกลือแห่งแผ่นดินโลก และอย่าท้อถอยในการทำดีนะครับ

"อย่าให้เราเมื่อยล้าในการทำดี เพราะว่าถ้าเราไม่ท้อใจแล้ว เราก็จะเกี่ยวเก็บในเวลาอันสมควร" กาลาเทีย 6:9

พระเจ้าอวยพระพรครับ :)

เพราะเราไปเชื่อมั่น ยึดถือกับศาสนาที่เรานับถืออยู่เดิม พอมีคน

มาแนะนำศาสนาใหม่ให้พร้อมหลักการ อิทธิฤทธิ์ ปาฏิหารย์ของ

องค์ศาสดา เราจึงมักปฏิเสธ ซึ่งอาจจะขัดแย้งกับที่หลักการ แนว

ทาง ความเชื่อที่มีอยู่เดิม ( เหมือนกับมีใครมาว่า มาเล่าเรื่องของ

คนที่เรารัก เพื่อนเราในทางที่ไม่ดี ให้เราฟัง เราก็จะไม่ชอบ เรา

มักปฏิเสธ หรือแสดงอาการไม่ชอบ ไม่อยากฟัง ไม่อยากรับรู้ )

แต่สุดท้ายแล้ว ทุกศาสนาก็สอนให้ทุกคนทำแต่ความดี ละเว้น

ความชั่วทั้งปวง

เพราะว่าเราไม่เข้าใจในศาสนานั้นๆมั้งครับ

เพราะว่า ไม่ศรัทธา ค่ะ

เค้ามีสิ่งที่เค้ามั่นใจยึดเหนี่ยวอยู่แล้ว หรือ เค้ายังไม่มีศรัทธาต่อสิ่งใดเลย ยังพิสูจน์ไม่ได้ว่าที่มีอยู่ดีพอหรือไม่ และของใหม่จะดีกว่าอย่างไร ศรัทธาเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความรู้ความเข้าใจ ศึกษาค้นคว้ากันพอสมควร หากมองแบบตื้นๆ อาจเป็นเรื่อง การยึดมั่นถือมั่น เอาชนะคะคานกัน แต่เท่าที่ทราบไม่ว่าศาสนาความเชื่อใด ที่ค่อนข้างสากล ล้วนแต่มีจุดหมายที่ความดีงาม ความสงบสุข และการไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกัน จะยึดอะไรจะเชื่ออะไร ก็สุดแล้วแต่ศรัทธา มีหลายท่านทำให้ได้ทราบว่า เชื่อในวิทยาศาสตร์ แม้ไม่ได้เป็นศาสนาใด แต่ก็เป็นความเชื่อ ที่ทำให้คนเราเข้าถึงและพิสูจน์ได้ แก้ปัญหาชีวิตได้ จะมีประโยชน์อะไรที่ต้องคิดยึดถือ เพียงแค่ว่า ชื่อนั้นหรือชื่อนี้ ยึดมั่นในความดีงามดีกว่า โลกเราทุกวันนี้ก็แคบลงเรื่อยๆ แล้วเราจะแบ่งกลุ่มแบ่งพวกกันไปทำไม ให้วุ่นวายนะคะ