Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

Zumotaro ถามใน สุขภาพการกินและการออกกำลังกาย · 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

กิน Vitmin C มากๆจะเป็นนิ่วจริงหรือเปล่าครับ

สงสัยมานานแล้ว มีแต่คนบอกว่าเป็น แต่ในหนังสือไม่เห็นเขียนบอกไว้เลย

3 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • T้OY
    Lv 6
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    - ไม่เคยทราบมาก่อนเลย . . แต่ก็สามารถ ดูส่วนประกอบที่มีอยู่ในเม็ดยาได้ เพราะจะมีพิมพ์ไว้ที่ข้างๆขวด ด้วยแล้ว . . ถ้ามีประเภท ( เกลือ ) คาร์บอเนต ต่างๆ . . ถ้ากินมากๆ ก็มีโอกาส เป็นนิ่ว ได้ . . แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่า เท่าไรจึงจะเรียกว่า มากๆ

    - เคยถามหมอ ว่า . . อ่านเจอในเนต.ว่า . . กินวิตตามิน c . ป้องกันมะเร็งได้เหรอ . . ได้รับคำตอบมาว่า . . . เพิ่งรู้เหรอ เขารู้กันมาตั้งนานแล้ว . โดยต้องกินมาก ถึงวันละ 2,000 - 4,000 มิลลิกรัม . . แต่ถ้าได้รับมากเกินไป ( ร่างกายไม่ต้องการ ) ก็จะถูกขับออก อยู่ดีแหละ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ไม่จริงครับ ในส่วนประกอบของไวตามินซี คือกรดธรรมชาติ (แอสคอร์บิก แอซิด) ซึ่งไม่มีผลต่อการก่อตัวของนิ่ว

    แต่นิ่วบางชนิดที่พบในไทย เช่น พวกออกซาเลต ที่เกิดจากการกินผักพื้นเมือง เช่น ผักกระโดน ผักแขยง ยอดผักต่าง ๆ สามารถก่อตัวเป็นก้อนในสารละลายด่าง แต่วิตามินซีนั้นทำให้ปัสสาวะเป็นกรดมากขึ้น และเชื่อว่าสลายนิ่วได้

    แต่โอกาสนั้นน้อย เพราะแม้ในบางรายงานยังบอกว่าต้องใช้วิตามินซีถึง 1 กรัม (ปกติที่อมเล่น 1 เม็ด ประมาณ 100 มิลลิกรัม) จึงสามารถละลายได้ (เน้นว่าบางราย) ครับ ดังนั้นกินไปได้ แต่ไม่ต้องหวังเรื่องการละลายนิ่วครับ

    วิตามินซีเป็นชนิดละลายน้ำ ดังนั้นโอกาสสะสมเป็นพิษจึงน้อย แต่กินมาก ๆ ก็ทำให้แสบปาก และไม่ได้ประโยชน์อะไรเท่าใดนัก การกินผลไม้น่าจะมีประโยชน์มากกว่า เพราะจะได้รับกากใยและสารอาหารชนิดอื่นด้วยครับผม

    แหล่งข้อมูล: http://www.truestarhealth.com/Notes/1228000.html
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    วิตามินซี เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่สมัย ศตวรรษที่ 18 มีการสังเกตว่าพวกทหารเรือออกเดินเรือเป็นเวลานาน ๆ มักจะขาดพวกผักสดผลไม้สด จะป่วยเป็นโรคลักปิดลักเปิด และสุขภาพไม่ค่อยดà¸�� แต่ก็มีคนสังเกตเห็นว่าจะไม่พบอาการดังกล่าวในทหารเรือที่รับประทานมะนาวเป็นประจำ และต่อมาก็สามารถหาสารอาหารที่เป็นต้นเหตุได้คือ กรดแอสคอร์บิค ( Ascorbic acid ) ซึ่งรู้จักกันโดยทั่วไปในชื่อของ วิตามินซี

    ประโยชน์วิตามินซี

    1. ช่วยปกป้องเซล เสริมสร้างภูมิคุ้มกันสุขภาพและความแข็งแรงของเนื้อเยื่อในร่างกายที่เกี่ยวข้องกับ เส้นเอ็น และคอลลาเจน ก็มีผลมาจากปริมาณ วิตามินซี ในร่างกาย และ วิตามินซี ยังมีฤทธิ์ในการเป็นสารแอนตี้อ๊อกซิแดนท์ ที่ดี จึงสามารถป้องกันการทำลายเซลจากอนุมูลอิสระได้เป็นอย่างดี และมันช่วยให้ร่างกายสามารถรีไซเคิลสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่น ๆ ดังนั้นเพื่อประโยชน์สูงสุดจึงควรที่จะรับประทาน วิตามินซี ร่วมกับสารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่น วิตามินอี แคโรทีน ฟลาโวนอย เป็นต้น

    2. วิตามินซี ช่วยบรรเทาความรุนแรงและระยะเวลาของการเป็นโรคหวัด หากเริ่มรับประทาน วิตามินซี ตั้งแต่เริ่มแรกที่เห็นอาการของโรคหวัด จะช่วยให้อาการป่วยลดความรุนแรงและหายได้เร็วขึ้น มีการศึกษาพบว่าหากรับประทาน วิตามินซี 1,000 ถึง 6,000 มิลลิกรัมต่อวันตั้งแต่เริ่มมีอาการของโรคหวัด จะช่วยให้หายได้เร็วขึ้น 21% แต่ก็ยังไม่มีรายงานว่า วิตามินซี สามารถช่วยป้องกันโรคหวัดได้

    3. วิตามินซี ช่วยให้แผลหายได้เร็วขึ้น เนื่องจาก วิตามินซี ช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและรักษาตัวเองโดยการไปเสริมสร้างผนังเซล ทำให้เส้นเลือดฝอยแข็งแรง และต่อต้านอาการอักเสบ จึงทำให้แผลหายได้เร็วขึ้น ในทางกลับกันการขาด วิตามินซี ก็สงผลให้แผลให้ได้ช้าลงเช่นกัน

    4. หากรับประทาน วิตามินซี เป็นประจำทุกวัน มันจะช่วยให้เหงือกมีสุขภาพแข็งแรง โดย วิตามินซี จะไปช่วยรักษาเซลที่ถูกทำลายและช่วยให้แผลที่เหงือกหายเร็à��§

    5. เพิ่มความต้านทานต่อ โรคหัวใจ โดยการไปช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมระดับ คลอเรสเตอรอล ในร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อรับประทานร่วมกับ วิตามินอี โดยมันจะไปลดการเกาะตัวของไขมันที่ผนังหลอดเลือด

    6. เนื่องจาก วิตามินซี เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ดี มันจึงอาจจะช่วยในการป้องกันและต่อสู้กับโรค มะเร็ง ได้ มีการศึกษาอย่างมากในเรื่องนี้แต่ก็ยังไม่ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยยังมีการถกเถียงกันอย่างมากเกี่ยว วิตามินซี กับการป้องกันและต่อสู้กับโรค มะเร็ง

    7. ช่วยในการป้องกันโรคต้อกระจก เนื่องจาก วิตามินซี สามารถช่วยปกป้องเลนส์ตาจากอันตรายต่างๆ เช่น ควันบุหรี่ แสงอุลตร้าไวโอเลต ที่เป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดโรคต้อกระจก มีการศึกษาอันหนึ่งพบว่าผู้หญิงที่รับประทานวิตามินซีมาอย่างน้อย 10 ปี พบว่ามีความเสี่ยงที่จะมีอาการเลนส์ตาขุ่นมัวซึ่งเป็นอาการเริ่มแรกของโรคต้อกระจก ลดลงถึง 77%

    8. บรรเทาอาการแพ้ หอบหืด ไซนัส ทั้งนี้เนื่องจากโดยธรรมชาติแล้ว วิตามินซี มีคุณสมบัติเป็นสารต่อต้านภูมิแพ้ต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง เกษรดอกไม้ ซึ่งอาการแพ้เหล่านี้ก็เป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของโรคไซนัส นอกจากนี้ยังมีการศึกษาพบว่า วิตามินซี ช่วยป้องกันและทำให้อาการหอบหืดดีขึ้น

    9. ช่วยป้องกันอาการไมเกรน เมื่อรับประทานร่วมกับ pantothenic acid โดย วิตามินซี จะไปช่วยร่างกายในการต่อสู้กับความเครียดได้ดีขึ้น

    10. ช่วยเรื่องความจำ โดย วิตามินซี จะไปช่วยรักษาสภาพของเซลประสาทและจะได้ผลดียิ่งขึ้นหากรับประทานร่วมกับอาหารต้านอนุมูลอิสระชนิดอื่นๆ เช่น วิตามินอี แคโรทีน กิงโกะไบโลบ้า และโคเอนไซม์ Q10

    ข้อควรระวัง

    1. การรับประทานในปริมาณสูง ๆ อาจจะมีผลต่อการดูดซึมแร่ธาตุอื่นๆ เช่น Copper Selenium

    2. การรับประทานในปริมาณสูงๆ อาจจะมีผลต่อการผิดพลาดของผลตรวจระดับน้ำตาลในปัสสาวะได้

    3. วิตามินซี ทำให้การดูดซึมธาตุเหล็กได้ดี จึงอาจจะเกิดภาวะได้รับธาตุเหล็กเกิน

    แหล่งข้อมูล: http://bluebird.exteen.com/20060401/vitamin-c
ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้