Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

เมื่อมีอาการปวดหัว คุณหมอสั่งยาให้ทาน คุณหมอบอกว่าเป็นยาแก้ปวดหัว ให้ทานครั้งละ1เม็ด(10mg)เมื่อมีอาการปวด

อีก 1 อาทิตย์กลับมาเช็คอีกที ถ้าไม่ดีขึ้นต้องเปลี่ยนยาใหม่ ตามความเชื่อของคุณ 10 mg ที่ใส่เข้าไปในปากลงสู่กระเพาะอาหาร จะขึ้นไปที่หัวกี่ mg หรือไปที่ใหน คำถามก็คือตามความคิดความเข้าใจของคุณคุณคิดว่าเป็นวิทยาศาสตร์หรือไม่? หรือเพราะว่าที่เราปวดหัวเป็นเพราะร่างกายขาดสารไทลีนอลหรือแอสไพลิน???

6 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • ?
    Lv 7
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    คำถามแปลกดี..เคยได้ยินคุณหมอท่านหนึ่งบอกว่า ยาแก้ปวดเป็นยาระงับอาการปวด แต่ไม่ได้ไปรักษาที่สาเหตุของการปวดที่แท้จริง ยาแก้ปวดมีเป็นร้อยๆชนิด พอทานไปแล้วก็ไปกดที่ประสาทส่วนกลางในสมองไม่ให้ปวด แต่ไม่ได้ไปรักษาที่สาเหตุของการปวดอย่างแท้จริง เป็นความเชื่อที่ถูกปลูกฝังกันต่อๆมา ไม่ใช่วิทยาศาสตร์แต่เป็นสิ่งที่แพทย์หยิบยื่นให้คนไข้เพราะได้รับการสอนต่อๆกันมา เราถูกบอกว่าเมื่อปวดหัว ก็ต้องทานยาแก้ปวด ยาที่ทานเข้าไปมันก็ถูกดูดซึมไปทั่วร่างกาย ไม่ได้ไปที่ศีรษะส่วนเดียวค่ะ ส่วนที่ไม่ได้ปวดก็พลอยได้รับยาไปด้วย เป็นผลเสียที่ไม่มีคนออกมาพูด ธรรมชาติของร่างกายคนเราสามารถซ่อมแซมตัวเองได้เมื่อเจ็บป่วยอยู่แล้ว การทานยาแก้ปวดไม่ใช่บทสรุปของการรักษาที่แท้จริง ถึงเวลาแล้วหรือยังที่เราจะหยุดใช้ยาอย่างพร่ำเพรื่อ

    แล้วทำไมคุณหมอชอบให้ทานยาแก้ปวดกับคนไข้คะ?

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    การเจ็บปวดหมายถึงมีการอุดกั้นระบบดุลสภาวะของร่างกาย

    การแก้ไข ก็ต้องปรับสมดุล

    วิธีการมีมากมายแล้วแต่ภูมิปัญญาค่ะ

    - เลือกได้

    -ทำได้

    -ซื้อก็ได้

    สุดแต่ใจจะไข่วคว้า

  • Pudin
    Lv 4
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ขึ้นชื่อว่ายา เม็ดยิ่งเล็ก-ฤทธิ์ยิ่งแรง

    คุณคงมิได้ปวดหัวธรรมดา ๆ นะ

    มิฉะนั้น แพทย์คงให้ยาเม็ดใหญ่ ๆ

    เหมือนพาราเซ็ททามอล หรือ

    แอสไพริน

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ดิฉันไม่ใช้แพทย์ โปรดพิจารณาในการอ่าน

    เคยไปพบแพทย์และทานยาแล้วอาการไม่ดีขึ้น แพทย์จะเปลี่ยยาให้ใหม่เพราะยาแต่ละตัวคุณสมบัติจะไม่เหมือนกัน ถ้าปวดหัวจากอาการไมเกรน จะต้องทานยาแก้ปวดที่ใช้รักษาไมเกรนโดยตรงถึงจะหาย

    คนไข้ทุกคนคาดหวังว่าอาการจะดีขึ้นหรือหายเมื่อไปพบหมอแต่ความเป็นจริงไม่ใช้ ตัวเราเองมีส่วนทำให้หมอวินิจสัยโลกได้ถูกต้องคือต้องจำอาการที่เป็นบอกคุณหมอให้ถูกต้องด้วยและครบถ้วนครับ

    เดินเข้าออกโรงพยาบาลอยู่หลายปี พบแพทย์โรคกระดูก, โรคพยาธิ, สุดท้ายถูกส่งไปภูมิแพ้หมอดูประวัติแล้วบอกว่า "ผมวินิจสัยว่าคุณเป็นภูมิแพ้ ถ้าภาษาชาวบ้านผมเดาเอา ผมบอกคุณไม่ได้ว่าคุณแพ้อะไร บลา ๆ ๆ ๆ คุณต้องสังเกตุเอาเอง, พอมีอาการเดิมเปลี่ยนโรงพยาบาลใหม่คุณหมอบอกว่าเกิดจากพยาธิตัวจี๊ด จนปัจุบันผ่านมา 6 ปียังไม่รู้ว่าเป็นโรคอะไรแน่ คือรักษาตามอาการ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    อาการปวดหัวนั้น ไม่จำเป็นที่คุณต้องพึ่งยาเสมอไป ลองมาบำบัดด้วยวิธีธรรมชาติดูบ้าง

    1. บำบัดด้วยน้ำ วางถุงน้ำแข็งบนหน้าผาก หรือจะใช้ผ้าเย็น ๆ โพกศีรษะก็ได้ ทำไปพร้อมกับการแช่เท้าในน้ำอุ่น ค่อย ๆ เพิ่มความร้อนของน้ำขึ้น ใช้เวลา 15-20 นาที อาการปวดหัวจะทุเลาลง2. งดอาหาร อาหารแสลงบางชนิด เช่น เนื้อรมควัน ชอคโกแล็ค ผงชูรส ไส้กรอก เบคอน และ เครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน มักเป็นสาเหตุให้เกิดอาการปวดหัวได้

    3. ใช้วิตามิน การขาดวิตามิน B- COMPLEX อาจทำให้เกิดอาการปวดหัวได้ลองมองหาอาหารที่มี วิตามินบีมาก ๆ เช่น ผักโขม กะหล่ำปลีข้าวซ้อมมือ และอาหารธัญพืชต่าง ๆ

    4. ขิง มีคุณสมบัติในการแก้ไมเกรน หากมีอาการปวดหัวในช่วงบ่าย ๆ ลองจิบน้ำขิงอุ่น ๆ สักแก้ว ถ้าไม่สะดวกจะต้มเอง ขืงผงบรรจุซอง ก็สะดวกดี

    5. น้ำมันหอม น้ำมันหอมกลิ่นลาเวนเดอร์ มีคุณสมบัติในการลดความกระวนกระวายใจได้ ลองนำมานวดบริเวณขมับ ไรผม และต้นคอ จะช่วยผ่อนคลายได้

    6. นวด การนวดจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด จะทำให้รู้สึกผ่อนคลายได้ หาใครสักคนมาคอยนวดที่ต้นคอและช่วงไหล่หรือจะนวดเองก็ได้ไม่ผิดกติกาแต่อย่างใด

    7. ไปเดินเล่นสักห้านาที การเดินเล่นจะทำให้ร่างกายหลั่งสารเอนโดฟินส์ ซึ่งเป็นยาแก้ปวดขนานเอก

    8. ดนตรีบำบัด ถ้าคุณปวดหัวจากความเครียด ในทางการแพทย์ค้นพบว่า ดนตรีช่วยบำบัด อาการได้ โดยเฉพาะดนตรีทีมีท่วงทำนองเรียบง่ายฟังสบาย ๆ อาจมีสรรพเสียง ของธรรมชาติ เช่น เสียงนกร้องเกลียวคลื่น เสียงนก หรือลมฝน จะช่วยกล่อมจิตใจให้สงบนิ่งขึ้นช่วยลดความตึงเครียดได้

    เป็นวิธีแก้อาการปวดหัว แบบธรรมชาตกันจริง ๆ ใครชอบแบบไหนก็ลองทำดู รับรองว่าไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ แต่ถ้าทำทุกวิธีแล้วยังไม่หาย ก็ถึงเวลาที่คุณค��¸§à¸£à¹„ปพบแพทย์

    ปวดหัวจากความเครียด มีอาการปวดบริเวณรอบศีรษะ รู้สึกมึน ๆ เหมือนสมองถูกบีบ มักเกิดจากความเครียดหรืออาการอ่อนเพลีย การพักผ่อนให้เพียงพอหรือนวดบริเวณต้นคอและขมับจะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวชนิดนี้ได้ หรือจะใช้วิธีการฝึกหายใจเข้าออกช้า ๆ และหายใจลึก ๆ และสำหรับการทำงานที่ติดต่อกันหลายชั่วโมงก็ควรจะหยุดพักเป็นระยะ ๆ รวมทั้งออกกำลังกายเป็นประจำ จะช่วยป้องกันการเกิดอาการปวดหัวชนิดนี้ได้

    ปวดหัวจากแอลกฮอล์ มักมีอาการปวดบริเวณเบ้าตา ,ถ้าคืนไหนคุณดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกฮอล์มากเกินไปก่อนเข้านอนควรจะดื่มน้ำตามมาก ๆ ด้วยเนื่องจากน้ำจะช่วยต้านฤทธิ์ของแอลกฮอล์ได้ส่วนรุ่งเช้าควรดื่มน้ำหรือน้ำผลไม้ จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวจากเมาค้างได้

    ปวดหัวจากไซนัส จะมีอาการปวดบริเวณดั้งจมูกและเบ้าตาวิธีการบรรเทาอาการปวดหัวแบบนี้ ต้องพึ่งยาลดน้ำมูก เพื่อให้จมูกโล่ง หรืออาจจะใช้วิธีประคบด้วยผ้าชุบน้ำอุ่น การจิบเครื่องดื่มอุ่น ๆ ก็ช่วยให้รู้สึกดีขึ้น แต่ถ้าคุณมีไข้ ควรจะหาหมอด้วย

    ปวดหัวจากคาเฟอีน จะมีอาการปวดตุ๊บๆบริเวณด้านบนของศีรษะอาการส่วนใหญ่จะคล้าย ๆ กับปวดหัวที่เกิดจากความเครียด ถ้าคุณปวดหัวแบบนี้ การพักผ่อนให้เต็มอิ่ม จะช่วยได้ดีทีเดียว การหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน และการนอนเป็นเวลาจะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการปวดหัวชนิดนี้ได้แต่ถ้าคุณติดกาแฟ ก็ควรจะดื่มให้เป็นเวลา(เวลาเดียวกันทุกวัน) และดื่มเพียงวันละ1-2 แก้ว จะดีกว่า

    ปวดแบบไมเกรน จะมีอาการปวดตุ๊บ ๆ บริเวณศีรษะข้างใดข้างหนึ่งบางคนอาจจะมีอาการคลื่นไส้ อาเจียนร่วมด้วยส่วนสาเหตุที่ทำให้เกิดไมเกรนนั้น เชื่อว่าเกิดจากระดับฮอร์โมนผิดปกติ อาหารà¸��างชนิดอาจทำให้บางคนเกิดอาการไมเกรนกำเริบมากขึ้นได้ เช่น ไวน์แดง เนื้อสัตว์แปรรูป ผงชูรสการเปลี่ยนแปลงของอากาศ เช่นร้อนอบอ้าวเกินไปความหิว ความตื่นเต้น การเดินทางหลายๆแห่งในช่วงเวลาสั้นๆ อาจทำให้เกิดไมเกรนได้คนที่เป็นไมเกรนบ่อย ๆ จึงควรหมั่นสังเกตว่าเกิดจากปัจจัยอะไรจะได้หลีกเลี่ยงได้ การเข้านอนเป็นเวลา และหลับให้เต็มตา จะช่วยผ่อนคลายอาการไมเกรนได้ ส่วนเซ็กส์ที่สุขสมนั้น มีงานวิจัยยืนยันว่า เป็นยาขนานเอกในการบำบัดอาการไมเกรนกันทีเดียว

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    อาการปวดหัวอาจมาจากหลายสาเหตุนะคะ แต่ถ้าเป็นอาการของไมเกรน ลองดื่มกาแฟตอนเช้าดูซิ จะทำให้สมองโปร่ง ร่างกายกระปรี้กระเปร่าขี้น ลองทำดูซิคะ

    แหล่งข้อมูล: เคยอ่านเจอในหนังสือสุขภาพ
ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้