Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

darinee_smcshop ถามใน สุขภาพโรคภัยไข้เจ็บเบาหวาน · 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

คุณพ่อป่วย เป็นโรคเบาหวาน มา 3 ปี คุณหมอ บอกว่า คุณพ่อต้องไปล้างไต ต้องเตรียมเงินไว้ประมาณเท่าใรค่ะ?

3 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    ผมขอแนะนำคนเป็นเบาหวานมาหลายคนโดยใช้วิธีโภชนาการบำบัด(Nutritional Medicine) ซึ่งผมเองใช้วิธีนี้กับตัวเองเช่นเดียวกันเพื่อป้องกันการเกิดเบาหวานเช่นกัน ผมไม่ใช่หมอแต่มีความรู้ด้านโภชนาการบัดบัด ซึ่งหมอจะมืออาชีพด้านการรักษาในการให้ยา(medication) และใช้เครื่องมือในโรงพยาบาลต่างๆได้ดีครับดังนั้นผมเพียงแนะนำให้ใช้โภชนาการบำบัดควบคู่กันไปจะได้ผลเร็วขึ้น และผมเพียงให้ความรู้ทั่วไปกับทุกคนได้อ่านครับ

    1. ควรงดอาหารประเภทแป้งในมื้อเย็นเพราะแป้งจะเปลี่ยนขบ��นการเป็นน้ำตาลและไขมัน และ ให้ทานอาหารก่อนเวลาสี่โมงเย็นเพราะว่ากระเพาะอาหารจะต้องใช้เวลาย่อย 5-6 ชั่วโมง แนะนำให้ทานข้าวโอ๊ตปรุงสำเร็จและ น้ำเต้าหู้ไม่ใส่น้ำตาลหรือน้ำเต้าหู้ชนิด 100% จืดชนิดกล่องก็ได้ แทนเมื้อเย็นอย่างเดียว และ ละเว้นผลไม้ทุกชนิดเพราะมีน้ำตาลสูงมากโดยเฉพาะส้มจะมีโปตัสเซียมสูงไม่ดีต่อไตครับ ถ้าเป็นน้ำมะเขือเทศพอได้ให้วันละหนึ่งแก้วตอนเช้าผสมน้ำมันมะกอกชนิด100% (Extra Virgin)สักสองถึงสามหยดจะช่วยเรื่องล้างหลอดเลือดได้ดีและอื่นๆอีกด้วย ถ้าจะเสริมเพิ่มให้ในช่วงเย็นก็ได้โดยในดื่มหนึ่งแก้วขนาด 250 ซีซีเท่านั้นครับ ผมขออธิบายว่า น้ำมะขือเทศจะมีสารไลโคปีนและวิตามินซีและอื่นๆ ค่อนข้างสูงเหมาะกับผู้ที่เป็นโรคเบาหวานและไตและต่อมลูกหมากโต ถ้าคุณพ่อหิวอีกในช่วงดึกให้ทานข้าวโอ๊ตปรุงสำเร็จเป็นกระป๋องยี่ห้อแค๊คเกอร์ผสมกับน้ำเต้าหู้จืดได้อีกครับและข้าวโอ๊ตเป็นไฟเบอร์ช่วยระบบขับถ่าย เหมาะสำหรับผู้เป็นโรคหัวใจด้วยครับ หาซื้อในห้างได้ครับ

    2. ดื่มน้ำผักเสริมบ้างในตอนเช้าโดยปั่นเอากากออกโดยมี ใบสลัดผักสีเขียวเล็กตัส + มะเขือเทศ 2-3 ลูก + .ใบคลื่นใช้ฝรั่ง + แตงโมงเล็กน้อย + แอบเปิ้ลเขียวนิดหน่อย + ใบบัวบกสด(Centella)=ช่วยเรื่องเบาหวานได้ดี + หัวแครอทนิดหน่อย + หัวกระเทียมสด 3-4 หัว + ผสมน้ำมันมะกอกสองถึงสามหยด(ใส่ทีหลัง) ให้ดื่มวันเว้นวัน หรือ ไม่ก็ทุกวันก็ได้ถ้าไม่ลำบากในการทำ ถ้าหากลำบากก็ให้ดื่มน้ำมะเขือเทศอย่างเดียวก็ได้ (ถ้าทุกวันได้ก็ดีครับ)ให้ดื่มตอนเช้าสิ่งแรกตอนท้องว่างก่อน

    3. ให้อาหารแต่ละเมื้อโดยเน้นเรื่องปลาเช่นปลาอินทรีย์ ปลาแซลมอล ปลาทูน่า (ปลาทูนึ่งในเข่งให้เลี่ยงเพราะปัจจุบันเขาใส่ฟอร์เมอลีนกันของเสียอันตรายต่อไตมากครับอย่าทาน) ปลาเก๋า และอื่นๆได้ครับ ให้ทานปลาทะเลจะดีกว่า ส่วนปลาน้ำจืดให้เลือกทานเฉพาะปลาบางชนิดให้เลี่ยงเช่นปลาดุ ปลาไหล เพราะจะมีสารบางตัวในตัวปลาที่ทำให้ร่ายกายไม่ดีครับ (ถ้าต้องการข้อมูลเพิ่มเติมส่งเมล์หาผมได้ครับ) ให้เน้นการนึ่งอย่างจืดๆ ห้ามเค็มเด็ดขาดเพราะไตทำงานหนัก ช่วงนี้ทานอะไรจะไม่ค่อยอร่อยเพราะอาหารทุกอย่างจะจืดไปหมดเพื่อให้เน้นเพื่อสุขภาพ ถ้าเป็นปลาทอดก็อนุโลมได้บ้างแต่ต้องใช้น้ำมันรำข้าวที่ไม่ใช้แล้วมาทอด ส่วนเนื้อสัตว์เช่น เนื้อหมู ได้บ้างแต่ต้องเลือกที่มีคุณภาพที่ไม่มีสารเร่งเนื้อแดง ควรซื้อในห้างใหญ่ที่มีเขียนไว้เพราะสารนี้จะไม่ดีต่อไตทำให้ไตทำงานหนักเป็นของเบทาโกในเดอะมอลล์ ส่วนตระกูลสัตว์ปีกเช่นเนื้อไก่เป็ดห่านควรเลี่ยงไม่ทานเพราะมีทั้งฉีดยาและสัตว์ปีกจะมีสารบางตัวที่ไม่ดีรวมถึงเนื้อวัวด้วยครับ

    4. อย่าทานผงชูรส (MSG) โดยเด็ดขาด อย่าทานเกลือ ซีอิ้วและอื่นๆที่มีรสเค็ม จะส่งผลไม่ดีต่อไต ดังนั้นอาหารนอกบ้านควรเลี่ยงครับ

    5. ถ้าหากจะดื่มน้ำมะพร้าวอ่อนก็ได้บ้างแต่อย่าดื่มบ่อยครั้งและดื่มแต่น้อยขนาด 250ซีซีอาทิตย์ละ1-2 ครั้งถ้าอยากดื่ม

    6. ให้ทานพวกแป้งเช่นข้าวสวย เส้นก๊วยเตี๋ยว ขนมปัง แต่น้อยโดยให้ทานพอประมาณเฉพาะหนึ่งมื้อเท่านั้น ให้สังเกตุว่าเมื่อรับประทานอาหารประเภทแป้งเข้าไปหลังจาก 2 ชั่วโมงจะมีความรู้สึกมึนหัวมีอาการแปลกเพราะน้ำตาลจะขึ้นดังนั้นควรระมัดระวังปกติเบาหวานไม่ควรเกินวัดค่าที่ 110

    7. เน้นทานผักสลัดน้ำใสแทนอาหารเมื้อหนักและทานข้าวหรือประเภทแป้งแต่น้อยโดยให้ทานอาหารประเภท Low-glycemic ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ โดยให้รับประทานวิตามินบีรวมและ วิตามินซีชนิดธรรมชาติ (Natural Vitamin-C)ซึ่งไม่ใช่สังเคราะห์ วิตามินอีและแมกนีเซี่ยมช่วยต้านอนุมูลอิสระ ช่วยให้อินซูลินพัฒนาการที่ดีขึ้นเสริมด้วยจะทำให้ดีขึ้นเร็วให้ปฏิบัติตัวสองอาทิตย์ไห้เจาะเลือดดูครับ

  • Urai
    Lv 5
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ล้างไตมี 2 แบบล้างทางหน้าท้องกับฟอกไตทางเลือด

    ค่าใช้จ่ายก่อนหน้านี้ประมาณ 2-30000 บาทต่อเดือน ไม่รวมค่ารถและค่ายา ล้างทางหน้าท้องแพงกว่าเล็กน้อย ข้อดีคือไม่ต้องจำกัดอาหารเท่าพวกฟอกเลือด แต่ข้อเสียก็เยอะเช่น ทำเองไม่ได้ ต้องทำวันละ 3-4 ครั้ง ติดเชื้อง่าย เป็นต้น ทำให้คนนิยมฟอกไตมากกว่า

    ไม่นานมานี้ทาง สปสช พยายามบีบให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ลดราคาค่าฟอกไตลงมา รู้สึกว่าจะเหลือประมาณ 1000 เศษ ๆ ต่อครั้ง ถ้าทำได้จริงเดือนหนึ่งก็คงไม่ถึงหมื่นดีครับ (ไม่แน่ใจว่าทำได้จริงหรือเปล่า เพราะ สปสช ชอบมั่วเรื่องต้นทุนเสมอ เมื่อคราว 30 บาทก็เจ๊งระเนระนาดมาทีแล้ว)

    ปัญหาใหญ่คือ คุณจะหาที่ฟอกไตได้ยาก เพราะเครื่องมีจำกัด ยิ่งถ้ามีการบีบราคาให้ต่ำลง ทางเอกชนก็อาจจะไม่เปิดศูนย์ฟอกไตเพิ่ม (อันนี้คาดเดานะครับ อาจไม่เป็นจริงก็ได้) ทำให้คนไข้ใหม่ ไม่สามารถเข้าใช้บริการได้ (ปกติศูนย์ฟอกไตก็แทบจะทำงาน 24 ชั่วโมงอยู่แล้ว จะเข้าไปใช้บริการต้องรอคนไข้เก่าเลิกใช้ ก็คือเสียชีวิตก่อนนั่นล่ะครับ)

    ว่าแต่เบาหวาน 3 ปีน่ะ ไม่มีทางไตวายหรอกครับ น่าจะเป็นมากว่า 10 ปี หรือไตวายจากอย่างอื่น

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    สำหรับเราๆไม่มีคำตอบนะ แต่ที่เข้ามาเพราะอยากเป็นกำลังใจให้คุณกับปัญหาทุกอย่างที่คุณกำลังเจอ เราเป็นกำลังใจนะ

    แหล่งข้อมูล: คนตอบ
ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้