สงสัยเรื่องผลทดสอบ การทำงานของตับครับ.?

แปลผลเลือดก่อน คุณมีไขมันชนิด triglyceride ในเลือดสูงมาก ร่วมกับมี HDL ต่ำ มักพบในพวกที่อ้วน หรือไม่ก็เป็นเบาหวาน

ไขมันตัวนี้ไม่ร้ายเท่า cholesterol (คำนวนจากสูตร LDL = chol -HDL-TG/5 แล้ว cholesterol คุณไม่สูง) แต่ก็ทำให้เกิดโรคหลอดเลือดแดงตีบได้เช่นเดียวกัน นอกจากนี้ปล่อยไว้นาน ถ้ามันสูงกว่านี้เกิดตับอ่อนอักเสบได้ (กรณี TG สูงเป็นหลักพัน)

การรักษาใช้ยากลุ่ม fibrate เป็นหลัก ที่แพทย์เลือกใช้คือ gemfibrozil คิดว่า OK ครับ ยาทำให้มีตับอักเสบได้บ้าง แต่ที่จะต้องหยุดยาเรามักถือเกณฑ์ที่ค่า GOT หรือ GPT สูงกว่า 3 เท่าของค่า normal upper limit ที่พบบ่อยกว่าคือเป็นกล้ามเนื้ออักเสบ อาจปวดเมื่อยตามน่องผิดปกติ ทางเลือกอื่นคือ fish oil แต่มักต้องใช้ขนาดสูงมากจนผู้ป่วยทนไม่ไหว

การรักษาอีกข้อที่สำคัญคือ ลดน้ำหนัก หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ปริมาณมาก และคุมเบาหวานให้ดีครับ (ไม่ทราบคุณมีโรคเหล่านี้หรือไม่ถ้ามีก็จัดการซะครับ)

เตือนอีกอย่าง คุมอาหารดี ๆ นะครับ หลังรักษา TG ลดลงก็จริง แต่ total LDL เพิ่มขึ้นดูปริ่ม ๆ แล้ว

สงสัยคือเมื่อตับอักเสบแล้ว จะมีผลอย่างไรต่อไปใช่ไม๊ครับ

ตับอักเสบจะเป็นกันปกติทั่วไปครับ ส่วนมากมักยังไม่แสดงอาการถ้ายังไม่เข้าขั้นรุนแรง แต่ถ้าทราบว่ามีการอักเสบ ในความเห็นของผมนะ สมควรเป็นอย่างยิ่ง ที่จะต้องหาสาเหตุให้เจอ เพราะถ้าปล่อยให้การอักเสบเลยไปถึงขั้นรุนแรงจะอันตรายครับ

การอักเสบที่เกิดจากไขมันเกาะที่ตับ ปลายทางตับจะแปรตัวเป็นพังผืดที่เรียกว่าตับแข็ง สุดท้ายจะทำให้เกิดเป็นมะเร็งตับได้ แต่สาเหตุนี้เมื่อลดไขมันออกไปในระยะแรก ก็แล้วกัน กลับสู่ภาวะปกติได้

ส่วนการอักเสบจากไวรัสก็มีหลายอาการ

ไวรัส A สามารถรักษาให้หายขาดได้

ไวรัส B รักษาไม่หายขาด และผู้เป็นจะกลายเป็นพาหะของโรค พอเป็นๆ หายๆ ก็เป็นมะเร็งได้เช่นกัน

ไวรัส C อันนี้รุนแรงครับ เสียชีวิตได้โดยไม่ต้องเรื้อรังครับ

ผลตรวจเลือดของคุณไม่ได้บ่งชี้การติดเรื่องการตรวจไวรัสตับอักเสบมาด้วย และดูตามค่าแล้วน่าจะมาจากไขมันมากกว่า แต่ยังไม่ได้รุนแรงอะไร ควรจะออกกำลังกายและงดไขมันและอาหารจำพวกเนื้อสัตว์ โดยเฉพาะหนังไก่เว้นไปเลยครับ รวมถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วย เนื่องจากไขมันที่รับประทานเข้าไปจะเป็นส่วนเกินให้ตับต้องทำงานมากขึ้นในการผลิตสารย่อยออกมา พอทำงานมากๆ ก็อักเสบและเดี้ยง พอเข้าใจนะครับ