Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

? ถามใน สังคมและวัฒนธรรมศาสนาและจิตวิญญาณ · 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

อยากทราบว่ารากฐานของศาสนามาจากไหน?

6 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    ถ้ารากฐานของศาสนามาจากความเชื่อ ความกลัว ความสงสัย ความเป็นเหตุเป็นผล ฯลฯ ตามที่นักวิชาการอ้างจริง เมื่อความเชื่อ ความกลัว ความสงสัย ฯลฯ ได้รับการพิสูจน์แล้ว ศาสนานั้น ๆ ก็จะเสื่อมสูญไป เพราะรากฐานอย่างนั้นไม่ใช่รากฐานของธรรมะอันแท้จริงเพราะเป็นการค้นพบด้วยขบวนการทางปัญญาของมนุษย์ เพื่อให้เข้าใจง่าย จะขอเปรียบเทียบดังนี้

    (1) รากฐานของศาสนาระดับโลกธรรม มาจาก ความเป็น “สามัญ” ของธรรมชาติ

    (2) รากฐานของศาสนาระดับโลกุตรธรรม มาจาก ความเป็น “พิเศษ” ของมนุษย์

    (3) รากฐานของศาสนาระดับอมตะธรรม มาจาก ความเป็น “มนุษย์” ของพระเจ้า

    แต่รากฐานของศาสนาที่เน้น “ธรรมะ” (แบบดั้งเดิม) มาจาก“สภาวะที่เป็นเหตุ” โดยทรงไว้ซึ่ง “เหตุ” แห่งคุณความดี ฯลฯ การหยั่งรู้สภาวธรรมแบบนี้ คนโบราณเรียกว่า “สิ่งซึ่งทรงตัวอยู่” (I AM WHO I AM)

    ส่วนรากฐานของศาสนาที่เน้น “ธรรมชาติ” (แบบใหม่) มาจาก “กรรม” และ “ปฏิจจสมุปบาท” การหยั่งรู้สภาวะของโลกตามที่มันเป็นแบบนี้เรียกว่า “ความเป็นเช่นนั้นเอง” (Tathata - Thusness)

    แหล่งข้อมูล: ปริศนาธรรม : แด่ธรรมะซึ่งไม่รู้จัก
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    รากฐานของศาสนามาจาก ความเชื่อ ความกลัว ความสงสัย ความต้องการหาที่พึ่ง หาคำอธิบาย ครับ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    มาจากการศรัทธาในพระพุทธเจ้าและเกิดการรวมตัว และสืบทอดกันต่อ ๆ มา

    จนถึงปัจจุบัน

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    รากฐานของศาสนาต่าง ๆ มาจากมนุษย์ ศาสนาจะเจริญหรือเสื่อม ก็อยู่ที่ความศรัทธาของมนุษย์

    แต่รากฐานของธรรมะนั้นไม่เกี่ยวกับมนุษย์ มนุษย์จะศรัทธาหรือไม่ก็ตาม รากฐานของธรรมะนั้น มีแต่เจริญ ไม่มีวันเสื่อม หรือพูดให้ตรงประเด็นก็คือ ดำรงอยู่ ไม่ได้เจริญ ไม่ได้เสื่อม

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ความเชื่อเป็นสิ่งที่สำคัญ. เพราะว่าเมื่อเราเชื่อในสิ่งใด สิ่งนั้นจะมีอิทธิพล และเป็นตัวกำหนดวิถีชีวิตของเรา โดยเฉพาะความเชื่อในเรื่องเกี่ยวกับศาสนา จะเป็นรากฐานของการกำหนดระบบการดำเนินชีวิตของมนุษย์เราทั้งชีวิต และเราก็ได้เห็นแล้วว่า มนุษย์เราควรจะเชื่อในความจริงที่เด็ดขาด และไม่สามารถเอาความคิดของตัวเองหรือมนุษย์คนหนึ่งคนใดมาเป็นมาตรฐาน หรือเอามาตั้งเป็นศาสนาที่แท้จริงที่เด็ดขาดได้เลย เพราะว่ามนุษย์เราไม่สามารถที่จะคิดหรือสร้างสิ่งที่เด็ดขาดออกมาได้ มนุษย์เรามีเพียงเงาและศักยภาพในการเตรียมพร้อมที่จะรับความจริงที่เด็ดขาดเท่านั้น ซึ่งเราทราบว่าผู้ที่เด็ดขาดก็คือ พระเจ้า พระองค์ได้ทรงสร้าง ทรงให้ศักยภาพ ทรงเปิดเผยข้อมูล และวางรากฐานของศาสน��¸²à¸—ี่แท้จริงให้กับมนุษย์เราแล้ว... ดังนั้นถ้ามนุษย์เราจะเชื่อและมอบชีวิตของเราให้กับศาสนาไหน ศาสนานั้นจะต้องเป็นศาสนาที่แท้จริง เป็นมาตรฐานที่เด็ดขาดเพียงศาสนาเดียวเท่านั้น ซึ่งศาสนาที่เป็นศาสนาที่แท้จริงที่เด็ดขาดที่มาจากพระเจ้าผู้ทรงเป็นผู้ที่เด็ดขาดนั้น จะต้องเป็นศาสนาที่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผลสอดคล้องกับความเข้าใจที่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผลแห่งการเข้าใจในเรื่องความจริงที่อยู่ภายในมนุษย์ ทุกประการ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ศีลธรรมหรือหลักข้อเชื่อ และลักษณะของศาสนาประเภทนี้จะมีลักษณะโดดเด่น โดยที่เน้นที่เหตุและผล ความเข้าใจ ไม่ฆ่าความคิดของมนุษย์... ลักษณะของศาสนาประเภทนี้จะเป็นศาสนาที่ไม่สามารถโต้แย้งหรือโต้เถียงได้เลย ไม่ว่าเราพยายามที่จะหาข้อจับผิด หรือพยายามอ้างเหตุผลเพื่อจะขัดแย้ง เราก็จะพบว่าไม่มีทางหาข้อขัดแย้งได้เลย... ลักษณะของศาสนาประเภทนี้เป็นศาสนาประเภทพิพากษามนุษย์ ปิดทางเลือกของมนุษย์ เป็นศาสนาที่ชี้ให้เห็นว่า ขอเพียงแต่เราเป็นมนุษย์ ไม่ใจแข็งกระด้าง ไม่เถียงเพื่อเอาชนะ มนุษย์เราก็ต้องยอมรับว่าลักษณะของศาสนาประเภทนี้ เป็นความจริงที่มีเหตุผลสมเหตุสมผล สอดคล้องกับศักยภาพแห่งการเข้าใจความจริงที่อยู่ภายในตัวของมนุษย์เราจริงๆ และถ้าเราไม่ยอมรับศาสนาประเภทนี้ เราก็เป็นคนที่เด็ดขาดความเข้าใจ ไร้เหตุผล ใจกระด้าง เถียงเพื่อเอาชนะ หรือเป็นคนขลาดจริงๆ... ลักษณะของศาสนาประเภทนี้จะมีหนึ่งเดียว เข้ากับใครก็ไม่ได้ เพราะเป็นความจริงที่เด็ดขาด... ศาสนาประเภทนี้เมื่อนำเข้าตรวจสอบกฎเกณฑ์ของคุณสมบัติของความจริงที่เด็ดขาดในแง่ฝ่ายวิญญาณจะผ่านหมดทุกข้อ ไม่ว่าใครก็ตาม ถ้าถ่อมใจรับศาสนาประเภทนี้ ชีวิตของเขาจà¸��มีการเปลี่ยนแปลงอย่างแน่นอน เพราะศาสนาประเภทนี้จะผลักดันให้เกิดความเชื่อ ซึ่งเป็นความเชื่อที่ไม่ใช่แบบงมงาย แต่เป็นความเชื่อที่ออกมาจากรากฐานของข้อมูลที่มีเหตุผลที่สมเหตุสมผล สอดคล้องกับศักยภาพแห่งการเข้าใจความจริงที่อยู่ในสมองของมนุษย์ทุกคน... นี่เป็นเรื่องจริง เป็นความจริงที่เด็ดขาด ก็คือพระเจ้าที่เป็นผู้ทรงสร้างมนุษย์เราเป็นผู้ทรงให้ศักยภาพแก่เรา และได้ทรงเปิดเผยข้อมูลให้แก่พวกเรา ซึ่งมนุษย์เราไม่มีทางที่จะปฏิเสธได้เลย และการเปิดเผยข้อมูลของพระองค์ต่อมนุษย์เรานั้นมี 2 ข้อมูล คือ ข้อมูลทั่วไป และข้อมูลพิเศษ... ซึ่งข้อมูลทั้งสองประการเป็นความจริงที่เด็ดขาดที่หลังจากมนุษย์เราได้รับข้อมูล ได้ศึกษาแล้ว จะไม่มีทางที่จะโต้แย้งหรือปฏิเสธได้เลย...

  • SATAN
    Lv 6
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ในสมัยคึกดำบรรณคนเรายังอยู่ตามถ้ำ คนเราจะกลัวเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า พอกลายมาเป็นคนป่าก็จะกลัวภูติผีปีศาจ เลยต้องหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ คนเราโดยธรรมชาติแล้วมีพฤติกรรม คือ กืน นอน แล้วก็เสพกาม วกไปวนมา จึงมีศาสดาเกิดขึ้นมากมาย ทั้งเจ้าลัทธิต่างๆ แต่ไม่มีใครหลุดพ้นได้ เพราะไปสุดโต่งเกินไป อัตตะกิละมหานิโยค หรือสุขเกินไป สุขกิละมหานิโยค พระพุทธองค์ผ่านมาหมดแล้วแต่ไม่หลุดพ้น จึงต้องเดินสายกลาง จึงพบทางสว่าง

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้