ประชาธิปไตย!!! ในความรู้สึกของคุณคืออะไร...?

...เราต้องยอมรับข้อเท็จจริงว่า"ประชาธิปไตย"ของคนสองกลุ่มมีความหมายที่ไม่เหมือนกัน...!

เมื่อเป็นเช่นนี้"รัฐบาล"จึงต้องหาแนวทางเพื่อปรับความรู้สึกของคนทั้งสองกลุ่มให้มีความคิดตรงกันให้ได้เสียก่อนว่านิยามของประชาธิปไตยที่คนไทยทุกคนไม่ว่าจะเป็นคนจนคนรวยเด็กผู้ใหญ่ที่เป็นประชาชนของประเทศไทยนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานที่มีกรอบของกฏหมายตัวเดียวกันไม่มีการแบ่งการบังคับใช้กฏหมายเป็น2มาตรฐานอย่างที่บางฝ่ายเข้าใจกันอยู่เหมือนในขณะนี้

ท่านนายกฯอภิสิทธิ์..พยายามชี้แจงและกระทำให้ประชาชนเห็นว่าสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญของประชาชนนั้นสามารถทำได้ แต่การกระทำใดๆต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฏหมายโดยไม่ไปกระทบต่อสิทธิ์ของผู้อื่น ถ้าตราบใดที่การกระทำนั้นๆไปกระทบสิทธิ์ของผู้อื่นก็ถือว่าการกระทำนั้นไม่ถูกต้องและต้องได้รับการแก้ไข ถ้าไม่แก้ไขก็ต้องถูกเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฏหมายเพื่อให้เกิดความถูกต้องต่อสังคมโดยรวมให้เร็วที่สุด ดังเช่นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในระยะเวลาที่ผ่านมาและรัฐบาลก็ได้ใช้กฏหมายพิเศษคือพรกในสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้ใช้อำนาจในการปราบปรามเพื่อให้เหตุการณ์สงบโดยเร็ว และเหตุการณ์ก็ได้เข้าสู่ความสงบชั่วคราวในขณะนี้

สุดท้าย..ประชาชนก็ต้องใช้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีย์ศึกษาเพื่อจะได้เปรียบเทียบกับเหตุการณ์ที่คนอีกกลุ่มได้กระทำไปซึ่งจะเห็นความแตกต่างในบริบทที่ได้กระทำต่อสังคมพอสมควรแต่สุดท้ายก็เกิดเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายต่อส่วนรวมเช่นกัน

..ทั้งสองกลุ่มกระทำไปด้วยความคิดที่แน่ใจว่าคือการกระทำในระบอบประชาธิปไตยเหมือนกัน แต่ต่างกันที่วัตถุประสงค์ของการกระทำและเป้าหมายของผลที่อยากจะให้เกิดขึ้น ซึ่งผู้ที่จะประเมินว่าถูกหรือผิดนั้นก็คือประชาชนส่วนใหญ่ที่ได้รับผลกระทบต่อการกระทำนั้นๆซึ่งจะเป็นผู้ชี้ได้ว่าการกระทำนั้นๆเป็นประชาธิปไตยแท้จริงตามที่ได้เรียกร้องกันหรือเปล่า...?

ประชาธิปไตย คือ การยอมรับความคิดเห็น-ความต้องการ ของคนส่วนใหญ่

ประชาธิปไตย เป็นวิธีการหนึ่งที่คนในสังคมเห็นชอบในแนวทางนี้ ยินยอมพร้อมใจที่จะใช้เป็นวิธีการ นำพาสังคมให้ก้าวไปด้วยดี เป็นแนวคิดที่เลวน้อยที่สุด เค้าว่ากันอย่างนั้น ให้สิทธิเสรีภาพแก่ทุกคนเท่าเทียมกัน ทุกคนมีความเสมอภาค ไม่ว่าจะยากดีมีจน ใหญ่โตหรือต่ำต้อย แต่จะได้รับสิทธิหนึ่งเสียงเท่ากันทุกคน ความเห็นชอบของคนส่วนใหญ่ จะได้รับสิทธิบริหารชาติบ้านเมือง ว่ากันไปตามกฏกติกา ไร้การแทรกแซงใดๆ จึงจะเป็น ประชาธิปไตย จริงๆ

ห้ามลอกมาแปะแบบนี้....ค่อยน่าตอบเนอะ

ประชาธิปไตย สำหรับผมคือ

ไม่ใช้อำนาจปิดปากคนที่ไม่เห็นด้วย

ไม่มีสิทธิว่ากล่าวใครโดยหวังผลเพียงเพื่อให้เกิดความเกลียดชัง เพื่อเป็นการปลุกระดมเพิ่มจำนวนผู้เห็นด้วย

ควรพิจารณาไตร่ตรองว่าเขาผิดเรื่องอะไร..(อย่าเอากฎหมายมาอ้างว่าเขาผิด หรือเขาไม่ผิดเพราะไม่มีกฏหมายบัญญัติไว้ รวมถึงการแก้กฎหมายให้ความผิดกลายเป็นความถูกต้อง รองรับเอาไว้ด้วย)

การชุมนุมเพื่อต่อต้านการกระทำที่ไ่ม่ถูกต้องของรัฐบาล เป็นสิทธิและหน้าที่ของพลเมืองดี ที่จะทำได้

แต่การใช้กำลังปิดสนามบิน ปิดถนน ทำลายทรัพย์สิน ทำร้ายบุคคลให้บาดเจ็บ การบุกรุกสถานที่ราชการ สถานที่ส่วนบุคคล การสร้างความหวาดกลัวด้วยการใช้กำลัง เช่นการทำให้การประชุมระดับประเทศต้องล้มเลิกไป ไม่ใช่ประชาธิปไตย แต่เป็นความผิดทางอาญา

การใช้อำนาจรัฐฯเพื่อสลายการชุมนุมย่อมทำได้ในขอบเขตของกฎหมาย หรือ พรก.(กฎหมายนี้ออกในรัฐบาลก่อนหน้านี้) ถ้าเห็นว่า มีแนวโน้มชัดเจนจะรุนแรง ขยายขอบเขตไปทั่วประเทศ จนอาจจะทำให้เสียทรัพย์สินส่วนบุคคลและเสียเศรษฐกิจของประเทศโดยรวม ย่อมทำได้

ถ้าไม่ทำ อาจจะโดนฟ้องร้องจากประชาชน ว่าเพิกเฉยไม่ปฏิบัติหน้าที่ราชการ

.

ประชาธิปไตยก็คือ อำนาจต้องเป็นของประชาชน

บริหารจัดการและตรวจสอบไ้ด้โดยประชาชนครับ

ไม่ใช้คนเพียงคนเดียว ต้องยอมรับแนวคิดต่างขั้ว

อย่างสันติไม่ใช้ความรุนแรง มีอะไรก็คุยกันในสภา

ไม่ใช่ปิดถนน วางรถแก๊ส ปิดสนามบิน ทะเลาะกันวุ่นวาย

ถ้ารู้ภาษาสันสกฤตสักเล็กน้อยก็ง่าย ๆ ครับ ประชาชนเป็นใหญ่ น่ากลัวมาก ถ้าได้รู้จักประชาชนชาวไทยตอนนี้ น่ากลัวครับ

อืม...นั่นซี่