Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers แล��วิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

space lord ถามใน สังคมศาสตร์จิตวิทยา · 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

มีความเห็นอย่างไรกับสำนวนที่ว่า "แรกรักน้ำต้มผักก็หวาน"?

สงสัยมานานครัน ว่าความหวานดังสำนวนทีกล่าวมา เป็นความหวานเพราะอารมณ์รัก

หรือหวานเพราะร่างกายหลั่งสารแห่งความสุข หรือหวานเพราะน้ำผักผักจริงๆ

ผมได้รับแรงบันดาลใจจากคำถามเรื่องแกงเขียวหวาน และแกงเลียงที่กำลังหม่ำอยู่ขณะทีตั้งคำถามครับ

อัปเดต:

บรรดาท่านผู้รู้แห่งรู้รอบ เข้ามาตอบแบบไม่ออกทะเลกันเลย มีนิยามที่น่าจดจำมากมาย

ขุนนางฯ ขอต่อายุเพื่ออ่านอีกจักน่อยนะขอรับ

อยากจะยกให้ทุกท่านเป็นเอตทัคคะ จังเลย อิ อิ

อัปเดต 2:

คุณ ta ครับ ผมประเภทรักมิรู้จบ อิ อิ อายุจึงมิถูกจำกัดด้วยวิธีนับทางคณิตศาสตร์ 5555ฯลฯ

16 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • Mor r
    Lv 4
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    เป็นอีกหนึ่งอย่างที่แสดงให้เห็นว่า คนเรามักจะใช้อารมณ์มาเกี่ยวข้องในการยอมรับอะไรๆโดยที่ไม่ตรงตามความเป็นจริงเอาเลย

    คือ ส่วนใหญ่จะไปตามอารมณ์ที่ปรุงรสขึ้นมา (จะเรียกว่ารสทิพหรืออะไรก็ตาม) ซึ่งในความเป็นอารมณ์นี้ มันไม่ค่อยจะนิ่งซะด้วย จะมีเพิ่มมีลดได้ เช่น ช่วงตอนที่(หลง)รักมากๆ อะไรๆที่เกี่ยวข้องกันก็จะเป็นในด้านที่ถูกใจไปหมด แม้แต่สิ่งที่รสชาติตามความเป็นจริงจะไม่เป็นที่ถูกใจเลยก็ตาม

    แต่พอเมื่ออารมณ์นั้นๆเสื่อมลงไป สิ่งที่ปรุงให้เรายอมรับได้กับสิ่งที่เราไม่ได้ชอบใจอยู่เดิม ก็จืดจางตามไปด้วย จากรักมาก ก็กลายเป็นรักเฉยๆ(ความจริงอารมณ์รัก นั้นอาจจะหายไปแล้วก็ได้ แต่ไม่ได้บอกไปตามจริง)

    หากเราได้รับอะไรๆตามความจริง เช่น รักก็รักจริงๆ ไม่ได้หลงรัก , กินขมก็บอกขม , กินหวานก็บอกหวาน ...ฯลฯ ทีนี้ก็จะรักเพราะรัก รักได้นาน ไม่มีรักมากรักน้อย มั่นคงกว่าการหลงรัก ครับ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    "แรกรักน้ำต้มผักก็ว่าหวาน"

    ไม่เกี่ยวกับสารแห่งความสุข

    ไม่เกี่ยวกับรสชาดของน้ำต้มผักจริงๆ

    แต่เป็นเพียงคำพูดเชิงเปรียบเทียบในเรื่องความรักของชายหนุ่มหญิงสาวครั้งเริ่มแรà¸��เปรียบกับปัจจุบัน บางคนก็ใช้เป็นคำตัดพ้อกับคู่รักของตัวเองเมื่อมีพฤติกรรมเปลี่ยนไปและไม่ถูกใจผู้พูด

    ปกติน้ำต้มผักก็มีรสหวานอยู่บ้าง แต่ในชีวิตจริงเราไม่ได้ให้กินน้ำต้มผักที่ไม่ได้ปรุง เป็นแค่คำพูดเชิงเปรียบเทียบ

    ถ้าจะว่า "หวานเพราะอารมณ์รัก" ก็คงได้ครับ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ท่าทางแกงเขียวหวานกับแกงเลียงคงจะอร่อยเอาทีเดียว

    เพราะสิ่งหนึ่งที่ชีวิตเราคุ้นเคยมาก ชอบของใหม่ ๆ

    เวลาได้พบ ได้เจอ ได้สัมผัส ได้ลิ้มรส ได้คลุกคลีกับอะไรใหม่ ๆ มันจะพอง จะพอใจ เป็นความสุขประเภทที่ต้องมีอะไรมากระตุ้น

    เหมือนตอนที่ลิ้นกำลังเพลิดเพลินอยู่กับรสแกง โดยเฉพาะคำแรก ความอร่อยลิ้นจะรุนแรงมาก พอกินกินไปเรื่อย ๆ เคยสังเกตตอนเริ่มอิ่มไหม ตอนนั้น แทบไม่ได้รู้สึกอะไรกับรสแล้ว มารู้สึกเต็ม ๆ ที่ท้องแทน

    น้ำต้มผักเลยหวานแต่คำแรก ๆ

    นานเข้า อะไรเริ่มอิ่มตัว รสชาติจึงขาดหายไป

  • Mulan
    Lv 4
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    แรกรัก เริ่มรัก รักกันใหม่ๆ ก็อยากเอาใจคนรักเพื่อตัวเราเองน่านล่ะจะได้ไม่ผิดหวัง อะไรๆที่ไม่ดีก็มองข้ามไป น้ำต้มผักต้มมะระที่ว่าขมก็เรื่องเล็กแค่บอกว่าหวานซะก็จบ คิดว่าเป็นคำเปรียบเทียบว่ารักกันใหม่ๆก็จะตามใจทุกอย่างแม้จะขัดใจตัวเองบ้างแต่ก็ยอมๆๆๆ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    คิดว่าหวานเพราะ กำลังเห่อเหมือนเด็กๆอยากได้ของเล่น และเหมือนต้องการเอาชนะ พอสมใจแล้วก็หมดความเห่อ แต่บางทีก็ยังรักอยู่ แต่ไม่แสดงออกหรือแสดงออกลดลง เพราะกลัวผู้หญิงได้ใจ เดี๋ยวกลายเป็นลูกแมวเชื่องๆ เสียฟอร์มหมด เลยต้องทำให้หวานน้อยลง แต่บางคนก็รักผู้��¸«à¸à¸´à¸‡à¸™à¹‰à¸­à¸¢à¸¥à¸‡ บางคนก็เบื่อแต่ก็ต้องทน ไม่รู้สิ น่าจะใช่นะคะ

    วันนี้เจอลูกค้า เขาเรียกภรรยาเขาว่า แก ฟังแล้วสะท้อนใจ ไม่อยากว่าคุณผู้ชาย แต่ส่วนใหญ่จะเป็นอย่างนั้น ไม่รู้ว่าทำไม แรกๆทะนุถนอม ดูแล เอาใจใส่ แต่พอนานๆไป ทำไมมันค่อยๆลดลง ไม่มีแม้คำบอกกล่าว หรือเห็นว่าผู้หญิงเป็นของตาย

    อยากบอกว่า ชีวิตเราสั้นนัก จะไปเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ หากวันนี้ยังอยู่ น้ำต้มผักก็หวานได้ตลอดไป หรือจะรอให้ไม่มีคนฟังแล้วคุณจะเสียใจ อิอิ

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    อิอิ แต่ของโรสนึกถึงกับข้าว พวกต้มสับปะรด ต้มหน่อไม้สด ใส่หมู หรือไก่ ต้มจืดมะระ อืม บวปต้มก็หวานทานกับน้ำพริก ข้าวสวยร้อนๆควันกรุ่นๆค่ะ

    โบราณกล่าวไว้ นอกจากคล้องจองกันแล้ว ยังเป็นสัจธรรมด้วยค่ะ น้ำต้มผัก ต้มเสร็จใหม่ๆ หวานจริงๆ ถ้าเลย ณ ช่วงเวลานั้นไป ก็จืดชืด และอาจบูดยังไม่ทันข้ามคืนด้วยซ้ำ ความรักคงจะเหมือนกัน ช่วงแรกๆ โปรโมชั่นอะไรก็ไม่ทันได้ศึกษา ต่างก็รีบคว้าเอาไว้ พอคิด อยากจะเปลี่ยนโปรใหม่ ก็สายไปแล้วนะคะ

  • ta
    Lv 4
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    คุณอายุเท่าไหร่เนี่ย คุณเคยมีความรักรึปล่าวจ๊ะถ้าไม่มีก็อาจจะเข้าใจยากหน่อยแต่คนที่เคยมีความรักมาแล้วจะเข้าใจสำนวนนี้ดี

    ตอนแรกรักน่ะมันเป็นความหวานจากอารมณ์รักและหลงทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมาไง

    น้ำต้มผักมันน่าจะขม เหม็น ไม่อร่อยไม่น่ากิน แต่ถ้ากำลังอยู่ในช่วงรักกำลังหวานแล้วต่อให้มันขมแค่ไหนก็จะบอกว่าหวาน อร่อยจังเลยที่รัก

    เข้าใจมั๊ยเอ่ย

    อย่างเราเนี่ย ตอนแรกก็เรียกเราว่าดาร์ลิ่ง จ๋าจ๊ะ

    ตอนนี้เหรอ ไงอีคก(มาจากคางคก) นางมารร้าย อีแก่

    เซ็งง่ะ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ความช่างเปรียบเทียบ แถมสอดแทรกความเป็นจริงในการสอนสั่งของคนโบราณ เป็นอะไรที่นัทชื่นชมมาตลอด ทุกเรื่องสอดแทรกความจริงที่บางครั้งเราไม่ทันคิดด้วยซ้ำ ว่าเกี่ยวข้องกัน

    ส่วนสำนวนว่า แรกรักน้ำต้มผักก็หวาน ความเห็นส่วนตัว น่าจะเป็นเรื่องของอารมณ์รัก ที่รักกันใหม่ๆทุกอย่างก็สวยงาม หวานไหวไปซะทุกอย่าง น้ำต้มผักเนี่ยน่าจะเป็นน้ำต้มมะระนะค๊ะ ประมาณว่าขมปี๊ด แต่ความรักก็ทำให้รู้สึกว่ารสชาติไม่ขมขื่น...

    แหล่งข้อมูล: ตามน้ำไปเรื่อยค่ะ
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เป็นปี กลับมาทีมีฮือฮา กับปรัชญาคำถามน่ะครับ..จากคำถามผมเข้าใจว่า ทุกๆอย่างจากสำนวนดังกล่าว ล้วนแต่เกิดจาก มโนภาพครับ..

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เป็นสำนวนไทยเปรียบเทียบ ความรักใหม่ๆอะไรก็ดีไปหมด มองไม่เห็นความไม่ดี แต่พอนานๆไป ความรักเริ่มเปลี่ยนเริ่มมีข้อตำหนิเริ่มมีความคิดใหม่ ยิ่งถ้าเกิดความเบื่อหน่ายกันแล้ว คุณจะทำดีเท่าไรเขาก็มองไม่เห็นความดีของคุณสักนิดกลับรำคาญ เบื่อหน่าย และไม่อยากพบเจอ เพราะฉะนั้น ความหวานในที่นี้เป็นอารมณ์รักกัน เป็นคำตอบสุดท้าย

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ก็พอๆกับคำว่าข้าวใหม่ปลามัน อะไรที่ได้ลองชิมครั้งแรกก็ถูกอกถูกใจดูดีไปหมด แต่พออยู่กันไปนานๆเห็นไส้เห็นพุง ก็จะเข้าสำนวนที่ว่า น้ำพริกถ้วยเก่า ของเดิมๆ รสชาดเดิมๆ เริ่มเบื่อเริ่มเซ็ง

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้