Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นห���ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้
สงสัยมีคนแอบต่อไฟไปใช้ค่ะ?
อยากเรียนถามผู้รู้ว่า เราจะทราบได้อย่างไรว่า มีคนแอบพ่วงไฟฟ้าของบ้านเราไปใช้หรือเปล่า เราจะตรวจสอบได้อย่างไร คือ ดิฉันเพิ่งย้ายบ้านค่ะ แต่ค่าไฟฟ้าบ้านนี้แพงกว่าที่เดิมเกือบสองเืท่า ทั้งๆที่ขนาดและวิธีการใช้ไฟไม่ต่างกันเลย จึงไม่แน่ใจว่า อาจจะมีการพ่วงไฟ ไปใช้ที่ข้างบ้านค่ะ จะตรวจสอบได้อย่างไรคะ
6 คำตอบ
- T้OYLv 61 ทศวรรษ ที่ผ่านมาคำตอบที่โปรดปราน
- ถ้าเป็นบ้านแฝด หรือ ทาวน์เฮ้า . . ที่มีฝาบ้านติดกัน สามารถต่อไฟจากข้างบ้านไปใช้ได้ง่ายมากเลยครับ . เพราะ ปลั๊กไฟ และ SW จะอยู่ตรงกันด้วย
- ตรวจสอบได้ง่ายๆเลยครับ . . เอาแบบที่ทำได้เอง จากง่าย ไปหายาก นะครับ
1 ) . ก็อย่างที่ว่ากันไว้นั่นแหละ คือ ดึงปลั๊ก ปิด SW ไฟทุกชนิด รวมทั้งปั๊มน้ำ สรุป คือ ทุกอย่างที่ใช้ไฟฟ้า เอาออกให้หมด ถ้ามิเตอร์ ไม่เดิน แสดงว่า ไม่มีการใช้ไฟฟ้า ในขณะนั้น
- แม้ข้างบ้านจะแอบต่อไฟไปใช้ แต่ถ้าเขาไม่ได้ใช้ไฟในเวลานั้น มิเตอร์ก็จะไม่เดิน นะครับ . . กลางวัน ทดลองแล้ว มิเตอร์ไม่เดิน ก็ควรควรทดลองในเวลากลางคืน อีกครั้งหนึ่งด้วย
2 ) . ถ้ามีเพื่อนฝูง หรือ เด็ก ที่ทำโครงงานอิเล็กทรอนิคส์ . . ก็ให้ช่วยเอามิเตอร์ มาวัดให้หน่อย ( เอาปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้า ออกทั้งหมด และ ปิด SW ไฟ ทั้งหมดแล้ว ) . . โดยการยก CUT OUT ใหญ่ที่แผง SW ออก . แล้ววัดที่ปลั๊กไฟ ตรงไหน ก็ได้ . . โดยตั้งค่า โอห์ม ต่ำสุด และ สูงสุด ( วัด สองครั้ง ) . วัดได้เท่าไหร่ จดเอาไว้ . . ถ้าสายไฟสมบูรณ์ 100% ไม่มีรั่ว ไม่มีช๊อต . จะอ่านค่าได้ 0 โอห์ม ทั้ง สองครั้ง . . แต่ถ้าวัด โอห์มต่ำสุด แล้วได้ 0 . วัดโอห์มสูงสุด อ่านค่าโอห์มได้สุงมาก . ก็ยังไม่ต้องกังวล
- ถ้าวัดโอห์ม(วัดความต้านทาน) แล้วขึ้น . . ก็ต้องหา จุดที่มีไฟรั่ว ( ช๊อต ) ต่อไปครับ . ในกรณีย์นี้ จะเกิดขึ้นที่สายไฟครับ
3 ) . ถ้าทุกอย่าง OK . . จึงใช้วิธี ต่ออุปกรณ์ไฟฟ้า เข้าไปทีละตัว ( มิเตอร์ ยังคงเสียบอยู่ที่ปลั๊กไฟ - CUT OUT ยังคงยกออกอยู่ ) . ถ้าตัวไหน ต่อเข้าไปแล้ว ( วัดสเกล ต่ำสุด ) มิเตอร์ขึ้น 0 โอห์ม . ก็ดูที่ตัวนั้นๆ อาจมีการต่อสายผิด หรือ ไฟรั่ว แล้วครับ . ซึ่งอาจเกิดขึ้นเพียงตัวเดียว หรือ หลายตัวพร้อมๆกัน ก็เป็นได้
- หรือ ใช้มิเตอร์ วัดดูที่เครื่องใช้ไฟฟ้าทีละตัว ก็ย่อมได้ . ว่า ช๊อต หรือ ไม่
4 ) . ถ้าทดสอบดังว่าแล้ว มิเตอร์หน้าบ้านก็ไม่เดิน . ใช้มิเตอร์วัดแล้ว ก็ไม่ช๊อต . . ขอให้แจ้งเรื่อง ไปที่การไฟฟ้าฯ ขอให้เปลี่ยนมิเตอร์ใหม่ เลยครับ .
- bhichai kLv 61 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
คุณลองปิดการใช้ไฟทุกแห่งในบ้าน ไฟทุกดวง ตู้เย็นดึงปลั๊กออก ทีวีด้วย ถ้ามีเบรคเกอร์หรือคัตเอาท์ให้ดึงลงเพื่อตัดการจ่ายไฟ แล้วมาดูที่มิเตอร์ไฟหน้าบ้าน ถ้ามิเตอร์ไฟยังหมุนอยู่แสดงว่ามีการใช้ไฟครับ ให้เรียกเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาจัดการได้เลย
แหล่งข้อมูล: ประสบการณ์ - E.V.ELv 51 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
ที่ทุกท่านกล่าวมาข้างบนถูกต้องแล้วค่ะ คือถอดปลั๊ก สับคัตเอาท์ ตรวจสายดิน อีกอย่างที่อยากแนะนำคือให้ช่างไฟมาตรวจสายไฟด้วยว่าสายเก่า/รั่วไหม บางทีมีขี้เกลือจับตัวกินไฟค่ะ ให้ทางการไฟฟ้ามาช่วยเช็กก็ได้ แต่คุ้มและปลอดภัยสำหรับทรัพย์สินและอุบัติภัยไฟไหม้ที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
- ไม่ประสงค์ออกนาม1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
ลองดึงปลั๊กออกและปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดภายในบ้านของคุณ แล้วไปดูมิเตอร์ไฟที่หน้าบ้านคุณว่า ยังเดินอยู่หรือไม่ครับ หากยังเดินอยู่แสดงว่ามีไฟรั่ว ( LEAK ) ซึ่งน่าจะมาจากอุปกรณ์ที่ติดตั้งประเภทฝังใต้ดินเป็นส่วนใหญ่ เช่น สายไฟกริ่งประตู หรือ โคมไฟรั้ว โดยปกติถ้าอากาศร้อนและแห้ง จะมีไฟ Leak น้อย Safe T-Cut จะไม่ค่อยตัด หากวันใดฝนตก อากาศชื้นก็เป็นสื่อนำไฟฟ้า Safe T-Cut จะตัดบ่อยๆ วิธีแก้ไขก็ให้ตัดสายที่เดินอยู่ใต้ดินทิ้งไปเลิกใช้เสียครับ แล้ว เดินใส่ท่อใหม่เกาะข้างกำแพงหรือ บนแนวกำแพง หรือ แนวที่เหมาะสม โดยไม่ฝังใต้ดินครับ จะแก้ปัญหาได้เป็นส่วนใหญ่ ส่วนที่เหลือก็มักจะเป็นการเดินสายฝังผนัง หรือมีสายไฟชำรุดที่แตะติดกับตัวโครงสร้างของอาคารบ้าน เพราะ ผนังปูนหากชื้นก็เป็นสื่อนำไฟฟ้าได้ครับ ผมเคยได้ยินว่า ปัญหานี้การไฟฟ้ามีบริการแก้ไขให้ครับ แจ้งหน่วยงานการไฟฟ้าในพื้นที่ที่คุณใช้บริการอยู่สิครับ หวังว่าคงแก้ปัญหาได้ในเร็ววัน
หลักการของ Safe-T-Cut ใช้หลักการทางไฟฟ้าที่ว่า " กระแสไฟฟ้าไหลเข้าต้องเท่ากับกระแสไฟฟ้าไหลออก " หมายถึง ไฟฟ้าที่ใช้อยู่เมื่อต่อสายไฟเข้ามา จะมีสายไฟ สอง หรือ สามเส้น ขึ้นอยู่กับระบบที่คุณใช้ โดยปกติจะเป็น ระบบสองสาย ( ในสายไฟที่คุณเห็นจะมีลวดตัวนำไฟฟ้าอยู่จำนวน 2 เส้น ) จะมีเส้นหนึ่งเป็น Hot-Line หมายถึงมีไฟ จะเป็นเส้นทางที่กระแสไฟฟ้าไหลเข้ามาสู่การใช้งาน และเส้นที่เหลือคือ Neutral Line จะเป็นเส้นทางสำหรับให้กระแสไฟไหลกลับไป หากมีการรั่วไหลของกระแสไฟ ( ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็แล้วแต่ ) ลงสู่พื้นดินได้ จะทำให้กระแสไฟที่ไหลเข้ามานั้นสูญหายไปส่วนหนึ่ง ดังนั้นกระแสไฟที่ไหลกลับออกไปจะไม่เท่ากับที่ไหลเข้ามา Safe-T-Cut ถูกออกแบบมาให้ทำหน้าที่ตรวจสอบว่า กระแสไฟฟ้าที่ไหลเข้ามาสู่สถานที่ใช้ไฟฟ้าแล้วมีกระแสไฟฟ้าไหลออกไปในปริมาณที่เท่าๆ กันหรือไม่ หากไม่เท่า จะสันนิษฐานว่า มีการลัดวงจรทำให้กระแสไฟส่วนหนึ่งไหลลงสู่พื้นดิน ก็จะทำการตัดวงจรไฟฟ้าเพื่อให้หยุดการไหลของกระแสไฟฟ้าเสีย เพราะ สาเหตุที่สำคัญที่ยอมให้เกิดขึ้นไม่ได้คือ กรณีที่ คน เป็นต้นเหตุทำให้เกิดการลัดวงจร ดังนั้นจึงกำหนดให้มีการตัดกระแสไฟฟ้าเสียเมื่อเกิดการลัดวงจรเกิดขึ้น จะเห็นได้ว่า มีการกำหนดค่ากระแสไฟฟ้าที่ยอมให้รั่วไหลได้ หลายขนาด เช่น 5 mA , 10 mA , 15 mA หรือ 20 mA และ Direct (คือต่อตรงโดยไม่ผ่านวงจรการตรวจสอบกระแสไฟฟ้า ) ขึ้นอยู่กับสถาณการณ์ และ สภาพแวดล้อมการใช้ไฟฟ้าในสถานที่นั้นๆ
แหล่งข้อมูล: expert2you.com - ตัว ต.Lv 71 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
ปิดไฟฟ้าทุกดวง ปลดคัตเอาท์ลง แล้วไปดูมิเตอร์ค่ะ ถ้ามีการวิ่งแสดงว่า มีการใช้ไฟฟ้า แจ้งหน้าที่การไฟฟ้าให้จัดการให้ค่ะ
แหล่งข้อมูล: ประสบการณ์ - 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
มีความเป็นไปได้ 3 อย่างครับคุณ Energize...
อย่างแรก : มีการลักลอบต่อไปใช้ ซึ่งเจ้าของบ้านเดิมอาจจะทราบหรือไม่ทราบก็ได้ บางกรณีจะเก็บเงินเป็นรายเดือนกับผู้ที่พ่วงไป วิธีที่จะตรวจสอบคือ หาจุดพ่วงต่อให้เจอ แต่ถ้ารอบๆ บ้านไม่มีผู้ต้องสงสัยที่ใช้ไฟ้โดยไม่มีมิเตอร์เช่นเพิงที่ปลูกชั่วคราว แต่มีไฟใช้ หรือร้านค้าที่เป็นเต็นท์ ก็ไม่น่าจะใช่กรณีนี้
อย่างที่สอง : ไฟฟ้ารั่วลงดิน จะเกิดกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไฟรั่ว แล้วมีสายดินต่อเอาไว้ เช่นเครื่องทำน้ำร้อน หรือตู้เย็น ไฟที่รั่วจะกินค่าไฟมากทีเดียว วิธีที่จะตรวจสอบมี แต่ให้ช่างไฟมาเช็คจะปลอดภัยกว่า
อย่างที่สาม : มิเตอร์ของการไฟฟ้าเสีย มีทั้งเสียแบบกินไฟ และไม่กินไฟ วิธีที่จะตรวจสอบมี แต่ให้ช่างไฟมาเช็คจะดีกว่า
ผมวิเคราะห์ให้ตามที่ทราบโดยที่ยังไม่เห็นพื้นที่จริงนะครับ
- ไม่น่าจะเป็นการลักลอบใช้ การใช้ไฟมากขึ้นเกือบสองเท่าต้องเป็นบ้านหนึ่งหลังเลยนะครับ
- ให้ระวังไฟฟ้ารั่ว ซึ่งเป็นอันตรายอย่างยิ่ง ถ้าไม่มีไฟรั่วก็มิตเตอร์เสียแน่นอนครับ
อย่างไรก็ตามอย่างนิ่งนอนใจ รีบหาสาเหตุให้พบเร็วๆ เถอะครับ