จะมีวิธีไหนบ้าง ที่จะช่วยให้เราอ่านหนังสือแล้วมีความจำที่ดี?

วิธีหนึ่งที่ใช้ได้ดีเสมอ คือ การจดบันทึกสรุปค่ะ การเขียนจะช่วยให้การจดจำนั้นง่ายขึ้นและเร็วขึ้น ลองใช้วิธีการวาดรูป หรือ ทำ Mindmapping เพื่อสรุปสิ่งที่อ่าน จากหลายๆหน้า หลายๆบท เราสามารถสรุปลงมาได้ในกระดาษแผ่นเดียว ลองดูตัวอย่างในเวบบล็อกนี้นะคะ

ตั้งสติให้ดีๆ เวลาอ่าน ค่ะ

ทำสรุปย่อแต่ละย่อหน้าด้วย ยิ่งโอ.

ผมก็อาศัยจดในจดหมายน้อยหรือว่าการดาษโน็ตเล็กๆนะยังพอช่วยได้

เอ..แต่ว่าผมจดไว้ไหนนะ

นอนพักผ่อนเป็นเวลา และเพียงพอนั่งสมาธิ

คนที่มีกิจกรรมต่อไปนี้ตั้งแต่วัยกลางคนจะทำให้ความเสี่ยง (โอกาสเป็นโรค) ความจำเสื่อมน้อยลง 40% ได้แก่ (ข้อ 1-3)

(1). อ่านหนังสือ

(2). เล่นเกมส์ เช่น หมากรุก หมากฮอส ฯลฯ

(3). ทำงานอดิเรกที่ใช้ฝีมือ เช่น ถักไหมพรม (knitting) เย็บผ้าเป็นลวดลายต่างๆ (patchworking = เย็บถักปักร้อย) ฯลฯ

(4). ดู TV น้อยกว่าวันละ 7 ชั่วโมง... จะทำให้ความจำเสื่อมน้อยลง 50% เมื่อเทียบกับคนที่ชม TV นานกว่านั้น

แนะนำวิธีป้องกันสมองเสื่อมอีก 7 วิธีได้แก่

(1). ตรวจเช็คความดันเลือดเป็นประจำ > ถ้าสูง... ต้องรักษาให้ต่อเนื่อง

2). ไม่สูบบุหรี่

(3). ระวังอย่าให้อ้วนหรือน้ำหนักเกิน เพื่อลดโอกาสเป็นโรคเบาหวาน

(4). ตรวจเช็ดไขมันในเลือด หรือโคเลสเตอรอล > ถ้าสูง... ต้องรักษาให้ต่อเนื่อง

(5). ออกแรง-ออกกำลังเป็นประจำ จะทำคราวละนานๆ หรือจะแบ่งเป็นช่วงสั้นๆ แล้วนำเวลามารวมกันก็ได้ > เวลาที่รวมกันควรเป็นอย่างน้อย 30 นาที วันละ 5 ครั้งขึ้นไป

(6). เข้าสังคมพอประมาณ

เมื่อได้ 4+6 = 10 วิธีช่วยความจำดีแล้ว... ต่อไปเป็น 3 วิธีทำความจำเสื่อมได้แก่

(1). ดู TV นานกว่าวันละ 7 ชั่วโมง

(2). ดื่มแอลกอฮอล์ (เหล้า เบียร์ ไวน์ ฯลฯ) หนัก

(3). "เมาแล้วขับ" หรือ "ง่วงแล้วขับ" > เพิ่มเสี่ยงหัวน็อคของแข็ง เช่น พื้นถนน ฯลฯ

1.อ่านตอนที่สมองปลอดโปร่ง หลังจากที่ได้พักผ่อนเต็มที่เช่น ตี3 หรือ ตี4 ข้อดีคือได้พักและเป็นช่วงเวลาที่เงียบมากๆ

2.ในแต่ละบท อย่า เริ่มอ่านตั้งแต่หน้าแรกไปจนหน้าสุดท้ายของบททันที ให้เปิดอ่านดูว่ามีหัวข้ออะไรบ้าง ให้แยกเป็นหัวข้อใหญ่และหัวข้อย่อย

3.อ่านโดยค่อยๆทำความเข้าใจไปเรื่อย อย่างช้าๆ

4.ควรมีกระดาษหรือสมุด สำหรับ short note หรือขีดๆเขียนๆ ลงในหนังสือเลยก็ได้ จะได้ดูง่าย

5.ก่อนอ่านตั้งสมาธิให้ดี ต้องมีฉันทะ คืออยากรู้ในสิ่งที่อ่าน

จากประสบการณ์ของคนอายุสามสิบกว่าๆ ที่ยังอ่านหนังสือเรียนครับ

ขอให้โชคดีน่ะครับ

คุณลองบริหารขา ดูสิครับ กล้ามเนื้อขาเป้นส่วนที่สมองควบคุมยากเป็นพิเศษ ถ้าบริหารในส่วนนี้จึงเท่ากับได้ออกกําลังให้สมองไปด้วย เรี่มจากยืนตัวตรงเท้าชิดกัน ถอยเท้าซ้ายไปข้างหลัง งอเข่าขวาเล็กน้อยแล้วโน้มไปข้างหน้าเล็กน้อย สูดลมหายใจเข้าและออกช้า ๆ ขณะที่หายใจออกให้กดส้นเท้าซ้ายลงบนพื้นพร้อมกับย่อตัวลง หลังเหยียดตรง สูดลมหายใจเข้าแล้ว กลับไปตั้งต้นใหม่อีกครั้ง คราวนี้เปลี่ยนมาทําที่ขาขวาบ้าง ทําข้าล่ะ 3 ครั้ง จะช่วยเพี่มสมาธิ เพี่มความเร็วในการอ่านหนังสือ และยังทําให้กล้ามเนื้อน่องได้ผ่อนคลายอีกด้วย เหมาะสําหรับสาว ๆที่เดินมากหรือต้องยืนครับ ลองทําดูนะครับ

กำหนดเวลาในการอ่าน อ่านเวลานี้ทุกวัน กำหนดสถานที่ สงบเงียบ ทำสมาธิก่อนอ่าน ทำใจให้ปลอดโปร่งสักครู่ แล้วเริ่มอ่าน ไปเรื่อยๆ อ่านวันละเล่ม อ่านหลายๆ รอบ ใช้ปากกามาร์คข้อความขีด อาจสรุปโดยเขียนเป็น mine map ช่วยจำ.....เพิ่มเติมตนเองจะชอบเพ้อฝัน อิ อิ ว่าถ้าศึกษาสำเร็จจะได้รับความพึงพอใจสิ่งใดบ้าง จะช่วยทำให้มีสมาธิ และมุ่งมั่นมากขึ้น สู้ สู้

แบ่งเวลาในการอ่านค่ะ และมีการพักสมองด้วยค่ะ การอ่านแบบมีการบันทึกค่ะ มีสมุดโน๊ตสักเล่ม อ่านแล้วสรุปย่อใจความสำคัญทำให้เราจำได้ค่ะ และสามารถกลับมาอ่านทบทวนได้ค่ะ

...การอ่านหนังสือที่ดีคือต้องมีสมาธิและต้องทำความเข้าใจเนื้อหาของมันได้ แม้ว่าอ่านจบแล้วก็สามารถนึกเนื้อหาได้ว่าเป็นมาอย่างไร และพยายามอ่านหลายๆครั้งครับ แต่อย่าอ่านแบบท่องจำ....!!