ผู้ใดเคยเจอปรากฎการณ์ตาม กฏของเมอร์ฟี่ บ้าง?

บอร์ดรู้รอบแห่งนี้ก็น่าจะเข้าข่ายตามกฎครับ คือสาระในความใร้สาระ และความใร้สาระคือสาระ ครับ หุหุ

ปูนนี้แล้วเจอจนจะเป็นเรื่องธรรมดาไปเสียแล้ว ค่ะ

ไม่แน่ใจว่า จขกท. จะพูดถึงกฎข้อไหน แต่ดิฉันชอบกฎข้อนี้ค่ะ

กฎของเมอร์ฟี่ (Murphy’s laws) ที่คลาสสิกที่สุดและรู้จักกันดีที่สุดบอกว่า “ถ้าอะไรสามารถเกิดความผิดพลาดได้แล้วละก็มันจะต้องเกิดขึ้นแน่” ........^_^

คิดว่าคนเรา ความคิด ความรู้สึกและจิตใจ กลมกลิ้งไปไม่รู้จบ เรื่องที่เราชอบๆ ถ้าได้พบเจอ เราก็พอใจ ไม่ต่อต้าน ทำให้มีความสุขและผ่านไป แต่เรื่องที่เราไม่ชอบ จะทำให้เราสะดุด และนึกว่า ว่าแล้วเชียว เคยคิดไว้แล้ว ทำไมต้องเจอนะ ทั้งๆที่เราก็เคยคิดสารพัดเรื่อง แต่เรื่องที่เราพอใจ เราจะคล้อยตาม ไม่ต่อต้าน เลยไม่ต้องย้ำคิดวกวน แค่สมใจ สมหวัง สบายใจ แฮ...

ส่วนกฏนี้ อิ อิ คงจะต้องไปค้นหาอ่านบ้างซะแล้วค่า....

อ่านไปอ่านมา ดิฉันว่าถูกทุกข้อค่ะ

เอามาฝากค่ะ เรื่องกฎของเมอร์ฟี่ เผื่อใครไม่ได้อ่าน เพื่อนส่งมาให้ค่ะ

Murphy"s Law กฏมหัศจรรย์

กฏของเมอร์ฟี่ กำเนิดขึ้นครั้งแรกที่ฐานทัพอากาศเอ็ดเวิร์ดส ในสหรัฐฯ ในปี 1949

จากคำพูดเชิงประชดประชันของ ��¸£à¹‰à¸­à¸¢à¹€à¸­à¸(ในขณะนั้น) Edward A Murphy JR.

วิศวกรโครงการ MX981 ของกองทัพอากาศสหรัฐ

โครงการเป็นการทดลองที่ออกแบบขึ้นเพื่อค้นหาว่า ความหน่วง (ความเร่งติดลบ)

มากขนาดไหนที่มนุษย์สามารถทนได้

วันหนึ่งหลังจากผู้กองเมอร์ฟี่พบว่า ช่างเทคนิคต่อวงจรของเครื่องส่งวิทยุผิด

เขากล่าวตำหนิว่า

"If there"s any way to do it wrong, he will."

ถ้ามันมีวิธีไหนก็ตามที่จะทำให้ผิดแล้วละก็ ไ อ้หมอนี่จะทำจนได้

ผู้จัดการโครงการจดคำพูดนั้นลงไปในสมุด และให้ชื่อว่า "กฏของเมอร์ฟี่"

หลังจากนั้นไม่นาน ดร. จอห์น พอล สตั๊ป นายแพทย์ประจำกองทัพอากาศ

และเพื่อนร่วมงานของผู้กองเมอร์ฟี่ ผู้ชึ่งเป็นผู้ทดลองนั่งบนเลื่อนที่ถูกดึงให้หยุด

ที่ความหน่วง 40g (40เท่าของแรงดึงดูดของโลก) กล่าวในงานแถลงข่าวว่า

"สถิติที่ดีในด้านความปลอดภัยของโครงการนี้ เป็นผลมาจากความเชื่ออย่างแรงกล้า

ในกฏของเมอร์ฟี่"

ไม่กี่เดือนถัดมา ผู้ผลิตอากาศยาน หยิบเอากฏของเมอร์ฟี่ ไปใช้อย่างกว้างขวาง

ในงานโฆษณา รวมทั้งถูกตีพิมพ์ในบทความ ข่าว และนิตยสารมากมายและนั่นเอง

ที่กฏของเมอร์ฟี่กือกำเนิดขึ้นในโลก

ต่อมา Murphy"s Law แตกลูกหลานออกมาอีกมากมาย จนพอสรุปได้ดังนี้

Nothing is as easy as it looks.

ทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่เห็น

Everything takes longer than you think.

ทุกอย่างต้องการเวลาในการจัดการมากกว่าที่คุณคิด

Anything that can go wrong will go wrong.

ถ้ามีอะไรที่สามารถผิดพลาดได้ ก็มักจะเกิดความผิดพลาดเสมอ

If there is a possibillity of several things going wrong.

the one that will cause the most damage will be the one to go wrong.

Corollary: If there is a worse time for something to go wrong.

it will happen then.

ถ้าหากมีความเป็นไปได้ที่อะไรบางอย่างจะผิดพลาด ขอให้ระวังไว้เถิดว่าอะไรบางอย่างนั้นมักจะเป็นสิ่งที่ก่อให้เกิดความเสีย หายให้ได้มากที่สุด หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ในช่วงภาวะที่วิกฤตที่สุด ที่ไม่ควรจะเกิดความผิดพลาดเลย ความผิดพลาดมักจะเกิดในตอนนั้น

If anything simply cannot go wrong, it will anyway.

อะไรก็à¸��ามที่ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่ยอมให้เกิดไม่ได้ ก็มักจะเกิดความผิดพลาดเสมอ

If you perceive that there are four possible ways in which a

procedure can go wrong, and circumvent thes, then a fifth way,

unprepared for, will promptly develop.

ถ้าคุณประเมินว่ามีความเป็นไปได้ 4 อย่างที่จะทำให้เกิดความผิดพลาด

และได้ดำเนินการป้องกันไว้เรียบร้อยแล้ว ขอให้ตระหนักเถิดว่าจะมีความเป็นไปได้อย่างที่

5 ที่จะทำให้เกิดความผิดพลาดโดยที่คุณไม่ได้ป้องกันไว้

Left to themselves, things tend to go from bad to worse.

ถ้าปล่อยให้ทุกสิ่งเป็นไปตามยถากรรม สถานการณ์มักจะเลวร้ายเพิ่มขึ้นเสมอ

If everything seems to be going well, you have obviously

overlooked something.

ถ้าอะไรก็ตามดูดีไปหมด ขอให้ฉุกคิดหน่อยเถิดว่า คุณได้มองข้ามอะไรที่สำคัญไปแล้ว

Nature always sides with the hidden flaw.

ไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์แบบ ทุกอย่งมีข้อบกพร่องเสมอ

It is impossible to make anything foolproof becarse fools are so ingenious.เป็นไปไม่ได้ที่จะทำอะไรที่ทุกคนสามารถเข้าใจได้ถูกต้องและตรงกัน หมด

Whenever you set out to do something, something else must be done first.เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณตั้งใจจะทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง สิ่งที่คุณทำสำเร็จเป็นอันดับแรกก็มักจะมีสิ่งอื่นเสมอ

Every solution breeds new problems.

ทุกคำตอบมักจะสร้างปัญหาใหม่เสมอ

ตัวอย่าง ในชีวิตประจำวัน

ถ้าคุณรื้อชิ้นส่วน ออกมาประกอบใหม่ จะมีน็อตเหลือเสมอ..

เลขเด็ด ที่เราไม่ซื้อ คือเลข

ที่จะออกงวดนั้นและหวยที่เราซื้อมักใกล้เคียงกับ

หวยที่ออก หากได้บวก ลบ คูณ หาร ด้วยเลขอะไรสักตัว หรือกลับหน้ากลับ

หลัง แต่ถ้าเราซื้อ เลขกลับกัน มันจะออก เลขตรง และถ้าเราซื้อ ทั้งสองแบบ

มันจะไม่ออกเลย..

ของใช้ที่เราเห็นทุกวัน จะหายในยามที่เราต้องการใช้มัน..

*****************

Murphy’s Law ใครว่าเพี้ยน

1.กฏแห่งความคลาสสิค

- อะไรที่สามารถเกิดความผิดพลาดได้ล่ะก็.....มันต้องเกิดแน่นอน

2.กฏแห่งความผิดพลาด

- หากความผิดพลาดมีได้แบบเดียว มันจะเกิดในช่วงเวลาที่จะทำให่คุณยับเยินที่สุด

- หากความผิดพลาดมีได้หลายรูปแบบ แบบที่ร้ายแรงที��¹ˆà¸ªà¸¸à¸”จะเกิดก่อน

- ความผิดพลาดทั้งหมด จะเกิดขึ้นไล่ๆกันในคราวเดียว

3.กฏแห่งความเชื่อ

- หากคุณบอกใครสักคนว่าบนฟ้ามีดาวล้านดวง..เขาจะเชื่อ

แต่ถ้าคุณบอกเขาว่าสียังไม่แห้ง..เขาจะแอบลองแตะดูก่อนถึงจะเชื่อ

4.กฏแห่งผู้เชี่ยวชาญ

- ยิ่งมีผู้เชี่ยวชาญมากเท่าไหร่ ความจริงก็จะยิ่งสับสนมากขึ้นเท่านั้น

5.กฏของเวลา

- เวลาจะผ่านไปเร็วเสมอเมื่อคุณมีความสุข

6.กฏของผู้หญิงในฝัน

- มันสมอง x ความงาม x จำนวที่เหลือให้เลือก = ค่าคงที่

ึ7.กฏของการทะเลาะ

- จงอย่าทะเลาะกับคนโง่ เพราคนอื่นอาจแยกความแตกต่างไม่ออก

8.กฎความเป็นไปได้

- ขนมปังทาเนยที่พลัดตกพื้น จะเอาหน้าด้านที่มีเนยคว่ำลงเสมอ

และโอกาสที่เนยตกเปื้อนพรม จะมีมากขึ้นเป็นสัดส่วนกับราคาของพรม

9.กฏแห่งการดูดวง

- หมอดูมักทายหลายเรื่องทั้งดีและเลว แต่เรื่องที่แม่นที่สุดคือเรื่องที่เลวที่สุด

10.กฎแห่งความแม่นยำ

- หากขว้างก้อนหินสะเปะสะปะ มันจะพุ่งตรงเข้าหาวัตถุที่มีราคาแพงที่สุด

11.กฎของหาย

- ของใช้ที่เราเห็นทุกวันจะหายต่อเมื่อเราต้องการใช้มั น

12.กฎของเมธี

- เลขเด็ดที่เราไม่ซื้อ คือเลขที่จะออกงวดนั้น และหวยที่เราซื้อมักใกล้เคียงกับหวย