รบกวนถามเรื่องช่วงล่างรถยนต์ครับ?

- แบบนี้ใช้เพิ่มเติมจาก คำถามเดิม ก็ได้ครับ

- ไม่ต้องตั้งคำถามใหม่ จะได้ไม่เสียคะแนน

--------------------------------------------------------

- โดยปรกติแล้ว น่าจะเปลี่ยนยางกันฝุ่นเพลา พร้อมๆกันทั้ง๒ข้างเลย แม้จะยังไม่ขาดก็ตาม เพราะอายุการใช้งานก็คงเหลือน้อยแล้ว อีกไม่นาน ก็คงจะต้องกลับไปเปลี่ยนยางกันฝุ่นใหม่อีกข้างหนึ่งจนได้

- การยกรถ ก็ควรทำอย่างสมดุลย์ คือยกทั้ง๔ล้อ

หรือ อย่างน้อยที่สุด ก็ควรยกล้อหน้าทั้ง๒ล้อ ไม่ควรยกตะแคงเพียงข้างเดียว เพราะจะทำให้เกิดแรงกด กดลงที่ล้ออีกข้างหนึ่ง มากกว่าที่ควรจะเป็น

- ถ้ามั่นใจว่า . . เสียงที่ดังนั้น เกิดขึ้นทางด้านตรงข้ามกับที่ยกรถขึ้น ก็แสดงว่า เป็นด้านที่รับแรงกด ในขณะที่ยกรถขึ้น เพื่อเปลี่ยนยางกันฝุ่นที่หัวเพลา นั่นเอง

- ส่วนที่รับแรงกด มีตั้งแต่ ยาง กระทะล้อ น้อทล้อ ลูกปืนล้อ ลูกปืนหัวเพลาเลี้ยว กากบาทที่โคนเพลา(เป็นดาวสามแฉก) ลูกปืนหัวโช๊ก ปีกนก ลูกหมาก และลูกยางต่างๆ รวมไปถึงคานแก้เอียง

- ขอให้สังเกตดูว่า เสียงดังนั้น เกิดจากการหมุน ใช่หรือไม่ . . ถ้าใช่ ก็ควรลองขับถอยหลังดูบ้าง(ทั้งขับช้า และขับเร็วๆ) ว่าเกิดเสียงดัง หรือไม่

- ถ้าถอยหลังแล้ว ไม่ดังเเน่นอน . . เสียงที่ว่านี้ ก็น่าจะเกิดจาก . . ลูกปืนหัวเพลาเลี้ยว(อยู่ในยางกันฝุ่น ด้านล้อ) หรือ กากบาท โคนเพลา(อยู่ในยางกันฝุ่่น ด้านติดกับเครื่องยนต์)

- ถ้าเป็นกรณีย์นี้ ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนชุดลูกปืนหัวเพลาเลี้ยวใหม่นะครับ . . ถามไปใหม่ แล้วจะบอกวิธีแก้ไขให้ได้ครับ

- ถ้าถอยหลังแล้ว ก็ยังดังอยู่ . . ก็ควรไล่ไปจากส่วนที่หมุนก่อน เช่น น้อทล้อ กระทะล้อ ก้ามเบรค/ผ้าเบรค ลูกปืนล้อ ลูกปืนหัวเพลาเลี้ยว(ด้านติดกับล้อ) และกากบาทโคนเพลา(ด้านติดกับเครื่องยนต์) เป็นต้น

- ถ้าไม่ได้ดังจากการหมุน . . ก็ควรไล่ไปตั้งแต่ ลูกปืนโคนโช๊ค ตลอดจนฐานของลูกปืน ว่ามีการ ยุบ/ปริ/ฉีกขาด หรือไม่ . บูชปีกนก . ลูกหมากต่างๆ . รวมไปถึง ลูกยางของคานแก้เอียง เป็นต้น

- การตอบเรื่องเสียงดังนี้ . . นับว่ายากยิ่ง สำหรับการที่ไม่ได้เห็นตัวจริง - เสียงจริง . . แม้แต่ได้เห็น ได้ยินมาเอง ก็ยังนับว่ายากเลยครับ

- มีโอกาสเดาถูก ได้ไม่ถึง ๕๐% ครับ

- ลองสังเกตดูใหม่นะครับ อาจจะดังมาจากด้านที่เปลี่ยนยางกันฝุ่นไป ก็มีโอกาสเป็นได้นะครับ . . ถ้าเป็นแบบนี้ละก็ คนละเรื่องกันเลย ครับ

อาการแบบนี้ค่อนข้างตอบยากนะครับ อีกอย่างจะต้องสังเกตุเสียงให้ดีนะครับว่า ทางที่ดีผู้ที่มีความรู้ด้านนี้จะฟัง และแยกแยะได้ดีกว่า น่าจะกลับไปที่อู่เดิมอีกถ้าสะดวกนะครับ

ที่ว่าสังเกตุและ/หรือแยกแยะ นั้นเพราะว่าเสียงที่แสดงด้วยคำพูดหรืออักษร กับฟังด้วยตนเองนั้นบางทีก็แตกต่างกันนะครับ แม้แต่บางครั้งช่างเองก็จะต้องลองผิดลองถูกนะครับ อาจจะวินิจจัยผิดได้นะครับ เช่น ยางบวม ยางหมดอายุ ช่าง 0 แจ้งว่าเพลาคด ดีว่าไม่ปักใจเชื่อ แวะไปอู่ยาง ช่างยางตอบทันทีที่บอกอาการจบ ว่ายางบวม ยางหมดอายุ

อาจจะใช้วิธี ไปฟังน้ำเสียงของช่างหลายๆที่ ว่าตอบเหมือนกันหรือไม่ ดูท่าทางประกอบด้วยว่า มั่นใจ ฉะฉาน น่าเชื่อถือหรือไม่

ตอนที่คุณหักพวกมาลัยคุณเริ่มจะออกตัวรถหรือขยับรถใช่หรือเปล่า ส่วนมากที่จะดัง คือ

มาจากลูกปืนเพลาขับ และการที่เปลี่ยนยางกันฝุ่น การเปลี่ยนจริงๆจะต้องเปลี่ยนทั้งสองข้าง

และจะต้องเปลี่ยนจาระบีในนั้นด้วย คือถอดทั้งเพลามาล้างและอัดจาระบีเข้าไปใหม่ เพราะอย่างนึงคือจาระบีจะไม่ถูกกัน(คิดง่ายๆคล้ายๆกับเราเอาถ่านก้อนเล็กที่ใส่กับรีโมทต่างๆซิ ถ้าเอาคนละยี้ห้อมาใส่จะเป็นยังไง) จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ลูกปืนเพลาขับ"เจ็ง"(เกิดรอย)แสดงว่าช่างเปลี่ยนแค่ยางอย่างเดียวไม่ถอดล้างแค่ใส่จาระบีนิดนึงก็พอ

bootช่วงล่างเเล้วละมั้งครับ อาจเสื่อมเเล้ว เมื่อก่อนอยู่ในเเนวราบปรกติไมเเสดงอาการ เมื่อยกรถหรือทำให้เลื่อนออกจากเเนวเดิม มันก็อาจไม่เข้าที่หรือชำรุดได้เช่นกัน

ถ้าใช้มานานเเล้วขึ้นเเท่นตั้งศุนย์ดูครับ มีอะไรผิดปรกติมุมช่วงล่างจะฟ้องออกมา ถ้าเป็นรถไม่เก่ามากอาจตั้งศูนย์เเบบชุดใหญ่หน่อย คือถอดประกอบขันช่วงล่างใหม่บนเเท่นตั้งศูนย์เลย

ส่วนตัวไม่ค่อยกล้าขึ้นเท่าไหร่ กลัวจะไม่ใช่ช่วงล่าง มันกลายเป็นรถบิดทั้งคัน เคยเจอมาเเล้ว