พวกเราคิดอย่างไรกับสิ่งเหล่านี้ถ้ามันเป็นจริง?

ไม่เบื่อครับ กับคำถามที่จุดประกายและเป็นประโยชน์เช่นนี้

1) เห็นด้วยกับการแก้ไขปัญหาคนตกงานและการขาดแคลนแรงงาน ด้วยการให้ขึ้นทะเบียน แต่อาจจะต้องมีรายละเอียดปลีกย่อยอีกมากมาย ที่ต้องนำมาพิจารณา อาทิเช่น

เป็นคนตกงานตั้งแต่เรียนจบทางวิชาชีพนั้นมาหรือเปล่า หรือตกงานเพราะเป็นคนเกเรไม่รับผ���ดชอบงาน มาทำงานสาย ขาดงานโดยไม่มีเหตุผลบ่อยๆจึงโดนไล่ออก

เมื่อกรมแรงงาน-ซึ่งเป็นหน่วยกลางรับจัดหางานป้อนให้กับนายจ้าง-และรับจัดส่งคนงาน ส่งคนไปทำงานแล้ว ควรติดตามผลงานด้วยว่า แรงงาน/คนงานโดนเอาเปรียบ(นายจ้างไม่ทำตามกฏหมายแรงงานหรือเปล่า) คนงานทำงานเต็มเม็ดเต็มหน่วยหรือว่า ต้องการแค่เงินช่วยเหลือ ต้องการงานสะดวกสบายหรือเปล่าเป็นต้น

2)เรื่องหนี้สิน ถ้ามีการบันทึกรายละเอียดว่าเกิดการก่อหนี้จากสาเหตุอะไร จะเป็นการป้องกัน การสร้างหนี้กับลูกหนี้รายอื่นๆอีกในอนาคต เช่นการพนัน การใช้จ่ายเกินตัว โดนล่อลวงให้เป็นหนี้ด้วยดอกเบี้ยที่สูงฯลฯ

และควรช่วยเหลือทุกๆคนที่เป็นหนี้ ด้วยวิธีการดังที่คุณเสนอมา คือให้รัฐบาลเป็นเจ้าหนี้แทน โดยรัฐเป็นผู้ได้ดอกเบี่ยตามอัตราที่เป็นธรรม มิใช่ร้อยละ 10(ต่อเดือน) อย่างที่พวกลูกหนี้นอกระบบ โดนกันอยู่

3)แก้ไขกฏหมายเรื่อง "ที่ตาบอด" เพราะประเทศเราจะเดินหน้าพัฒนาไปไม่ได้ ตราบใดที่ปัญหาเรื่องที่ดิน หมายถึงที่อยฝุ่อาศัยและที่ทำกิน โดนปิดล้อมหาทางออกไม่ได้ เรียกว่าที่ตาบอด แค่ทางออกนิดเดียว เจ้าของกรรมสิทธิที่ดินทำกิน/บ้านที่อยู่อาศัย เดินทางเข้าที่ทำกินไม่ได้เพราะ "เจ้าของทาง" ไม่ยอมให้ผ่าน

ต้องเดินทางอ้่อมโลก หรือต้องซื้อที่ทางเดิน ด้วยราคาสูงกว่าราคาปกติ บางครั้งตัดสินปัญหากันด้วยการเอาชีวิตของคนที่ขัดขวาง

น่าจะหาทางออก ให้มีการฟ้องร้อง ไม่ให้คนที่ปิดทางเดินคนอื่นเอาเปรียบได้ แต่ก็ไม่ให้เขาเสียเปรียบ

4)ตั้งหน่วยงานที่มีอำนาจเหนือตำรวจ ใครโดนรีดไถ ให้ร้องเรียนได้ หรือดีกว่านั้น คือจัดให้เจ้าหน้าที่เหนือตำรวจนั้น เดินสายขับรถบรรทุก(ปิ๊กอัพ)ออกต่างจังหวัดเสียเอง เพื่อจัดการกับอำนาจเถื่อน รีดไถตามข้างทาง

ตำรวจทางหลวงดูจะเลื่องชื่อในทางเลว ไม่ว่าถนนของภาคใด

แต่ดีที่สุดคือ ตำรวจไม่ควรจับเอง สอบสวนเอง ตั้งข้อหาเอง ปรับเอง ป้องกันอาชญากรรมเอง

คือไม่ควรมีอำนาจล้นฟ้า แต่เอาเข้าจริงๆ มีแต่เส้น ไม่มีน้ำยาแบบนี้

5)ให้สาธารณสุขออกสุ่มตัวอย่าง ตรวจอาหารตามตลาดหรือร้านอาหารสำเร็จรูป ว่าอาหารมีพิษ มีการปนเปื้อนของสารเคมีหรือไม่ และทุกเดือนต้องมีผลงานนำเสนอต่อสาธารณชนอย่า่งโปร่้งใส ว่าทำงานอะไรบ้างในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ด้วยจำนวนพลากรเท่าไรในหน่วยงาน เพื่อดูอัตราส่วนกำลังคนและผลงาน

6)ถนนไหนในความรับผิดชอบของเทศบาลไหนมีแผงลอยตั้งทำให้เด็ก คนแก่ ต้องมาเดินเบียดรถบรรทุกบนถนน ให้ประชาชนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายได้

7)รัฐบาลสนับสนุนออกค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนตั้งสมาคมรักษาผลประโยชน์ในเรื่องต่างๆ เช่น - สมาคมผู้เสียหายจากถนนเป็นหลุมเป็นบ่อและไม่ได้รับการซ่อมแซมจากผู้รักษาดูแลถนนหนทาง - สมาคมต่อต้านการเผาขยะในบริเวณบ้านของตนเอง - สมาคมผู้ได้รับความเสียหายจากการโกงตาชั่งของพ่้อค้า - สมาคมต่อต้านครูไร้คุณธรรมและไำร้จรรยาบรรณ - สมาคมรับเรื่องร้องทุกข์จากการย่ำยีทางเพศ ที่กระทำต่อเด็กและผู้ปกป้องตนเองไม่ได้.

เป็นต้น

.

ข้อ1.ดี เห็นด้วย

ข้อ2.ไม่ว่าวิธีคิดจะดีแค่ไหนสุดท้ายอยู่ที่คนทำ ไม่ว่าวิธีไหนก็สามารถหาวิธีโกงกินผ่านโปรเจค

ได้เหมือนเดิม

คงแปลกๆดีเหมือนกัน

คุณ "ผงธุลีแห่งจักรวาล" ครับ ตื่นได้แล้ว

เป็นความคิดสร้างสรรค์ดี ตอนนี้ขึ้นอยู่ที่ว่า "เสียงจะดังมากแค่ไหน" ผู้มีอำนาจจะมาดูรึเปล่า อย่างน้อยๆคนในรอบรู้นี้ก็ต้องมีเห็นด้วยแน่ ขอเป็นกำลังใจให้ครับ