Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

?
Lv 5
? ถามใน การเมืองและรัฐบาลการเมือง · 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

คิดอย่างไรกับเหตุการณ์เมื่อเดือนพฤษภาคม2553แล้วจะมีแนวคิดยกผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย?

8 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    เดี๊ยนคิดว่าไอ้แก่มันเก่งจริงๆเค๊อะ หลอกฟายไปตาย โฮะโฮะ

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    โหดร้าย ,รักษาผลประโยชน์ตัวเองอ้างผลประโยชน์ชาติ ,เอาสถาบันทำ้ร้ายคนอื่น ,ความโมโหทำลายได้ทุกอย่าง,ความเกลียดทำได้ทุกอย่างไม่ว่ารัฐหรือแดง,เห็น ความนิ่งเฉยของนักสิทธิมนุษย์ชน,มากกว่าเหตุการณ์ครั้งก่อน,มันเกิดอะไรกับ ไทย,

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เหตุปัยจัยของปัญหาความขัดแย้งในแต่ละเรื่องแต่ละกรณีอาจจะ

    ซับซ้อน เป็นเรื่องปลีกย่อย แต่เมื่อพูดอย่างกว้างๆ ครอบคลุม ก็หนีไม่

    พ้นตัวการใหญ่ ๓ อย่าง ที่จะต้องรู้ไว้ คือจะแก้เหตุปัจจัยปลีกย่อยจำ

    เพราะข้อไหนเท่าใดก็ตาม จะต้องแก้ให้ถึง ๓ ข้อนี้ด้วย คือปมก่อปัญหา

    ๓ อย่าง คือ

    ๑. ความใฝ่แสวงหาผลประโยชน์ เห็นแก่การเสพบริโภคบำรุง

    บำ เรอ เรียกว่า ตัณหา

    ๒. ความทะยานแสวงอำ นาจ ต้องการความยิ่งใหญ่ ปรารถนาจะ

    ครอบงำ ผู้อื่น เรียกว่า มานะ

    ๓. การยึดติดในความเชื่อ ถือรั้นในลัทธินิยมอุดมการณ์ ที่ไม่เปิด

    กว้างรับฟังใคร และก่อทัศนคติแบบแบ่งแยก เรียกว่า ทิฏฐิ

    ความขัดแย้งระหว่างบุคคล ระหว่างกลุ่มชน ตลอดจนสงคราม

    ระหว่างประเทศ ระหว่างค่าย ระหว่างเผ่าชน ชาติพันธุ์ ระหว่างศาสนา

    ที่มีมาตลอดประวัติศาสตร์ มีจุดก่อปมอยู่ที่ ๓ อย่างนี้ ไม่ว่าจะแก้ไขเหตุ

    ปัจจัยปลีกย่อยอะไรก็ตาม ต้องคอยมองคอยตรวจสอบและแก้ไขตัวการ

    สำคัญ ๓ อย่างนี้ ไม่ให้เข้ามาครอบงำ ถ้าไม่มีตัวการใหญ่ ๓ อย่างนี้

    การแก้ไขกำจัดเหตุปัจจัยปลีกย่อยอื่นๆ ก็ใช้วิธีการที่พูดมาแล้ว กำ จัด

    ปัญหาได้ง่ายขึ้น แต่ถ้าปม ๓ อย่างนี้ยังอยู่ ความขัดแย้งจะยืดเยื่อไม่จบ

    ได้จริง

    -ในการเข้าถึงกันนั้น ถ้าให้ดี ก็ให้มีโอกาสปฏิบัติตามหลักสังคหวัตถุ

    ๔ ให้ครบ คือ มีการให้แก่กันเผื่อแผ่แบ่งปัน พูดกันด้วยปิยวาจา ทำ

    ประโยชน์แก่กัน และมีความเสมอสมานเป็นกันเอง

    เท่าที่พูดมา น่าจะสรุปจุดสำคัญในการแก้ไขความขัดแย้งได้ว่า

    ๑. ไม่ติดอยู่กับความขัดแย้ง หรือตกเป็นทาสของความขัดแย้ง

    แต่เอาประโยชน์จากความขัดแย้งให้ได้ โดยเฉพาะประโยชน์

    ทางปัญญา

    ๒. แกนของปฏิบัติการในการแก้ปัญหาความขัดแย้ง คือ การมี

    เจตนาดี ปรารถนาดีต่อกัน ด้วยเมตตาธรรม มุ่งสู่จุดหมายที่

    เป็นการสร้างสรรค์ และมีปัญญาที่จะดำ เนินการให้เป็นไปตาม

    เจตนาที่ดีนั้น

    ๓. ปฏิบัติการในการขัดแย้งและหาทางยุติความขัดแย้ง ต้องดำเนิน

    ไปอย่างเป็นมิตร สุภาพ จริงใจ และเปิดใจต่อกัน มองทุกคน

    เป็นเพื่อนมนุษย์ ไม่มองแบบแบ่งแยก มุ่งสู่การอยู่ร่วมกัน

    ๔. สร้างบรรยากาศแห่งความสมานฉันท์ ด้วยการให้คนทุกฝ่าย

    เข้าถึงกัน สังสรรค์กันในชีวิตประจำวัน หรือในวิถีชีวิตที่เป็น

    จริง ตามหลักการเอาตัวเข้าสมาน

    ๕. จุดที่เป็นการแก้ปัญหาให้เข้าสู่ความประสานสามัคคี คือให้

    มองเห็นตระหนักในจุดหมายที่กว้างใหญ่เหนือขึ้นไป ซึ่งเป็น

    ประโยชน์ร่วมกันของทุกฝ่าย

    ส่วนการแก้ปัญหาที่ซ้อนลึกลงไป เช่น การขาดความเคารพกฎ

    กติกา-ถือธรรมเป็นใหญ่-ยึดหลักการเป็นมาตรฐานนั้น เป็นคุณสมบัติ

    ของคน ซึ่งจะต้องสร้างขึ้นมาด้วยการพัฒนาคนระยะยาว คือด้วยการ

    ศึกษาอย่างลึก

    ปมก่อปัญหาความขัดแย้งแบ่งแยกอีกระดับหนึ่ง ซึ่งต้องแก้ไขและ

    ระวังไม่ให้ครอบงำ คน ได้แก่ความใจแคบ หรือความหวงแหนกีดกันกัน ที่

    เรียกว่า มัจฉริยะ ๕ อย่าง คือ

    ๑. ความหวงแหนกีดกัน เกี่ยวกับเรื่องที่อยูอาศัย ประเทศ ท้องถิ่น

    ดินแดน

    ๒. การหวงแหนกีดกัน เกี่ยวกับเรื่องพรรคพวก พงศ์เผ่า เหล่ากอ

    หรือชาติพันธุ์ เช่น ethnic groups และ religious groups

    ต่างๆ

    ๓. ความหวงแหนกีดกัน เกี่ยวกับเรื่องลาภ ทรัพย์สมบัติ และผล

    ประโยชน์ต่างๆ

    ๔. ความหวงแหนกีดกัน เกี่ยวกับเรื่องชั้นวรรณะ ผิวพรรณ

    จำ พวก class, caste ตลอดจน colour

    ๕. ความหวงแหนกีดกัน ในเรื่องของวิทยาการ ความรู้ คุณพิเศษ

    วุฒิ ความดีงาม ความก้าวหน้าในทางภูมิธรรม ภูมิปัญญา

    และความสำ เร็จต่างๆ

    ต้องใจกว้างยอมรับความจริงว่า ความขัดแย้งต่างๆ จะแก้ไขได้

    จริง คนต้องสลัดความใจแคบหวงแหนกีดกั้น ๕ อย่างนี้ออกไปให้ได้ ถ้า

    ยังแก้ ๕ อย่างนี้ไม่ได้ ความขัดแย้งในสังคมมนุษย์หรือในโลกมนุษย์ ไม่

    จบแน่นอน การแก้ปัญหาขั้นเด็ดขาดได้ผลจริง หรือรับรองผลได้แบบนี้

    ต้องถามว่า คนจะสู้ไหม ถ้าไม่เอาก็ต้องอยู่ในโลกแห่งความขัดแย้งต่อไป

    ไม่จบ

    แหล่งข้อมูล: สลายความขักแย้ง พระพรหมคุณาภรณ์(ป.อ.ปยุตโต)
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ไม่อยากไปยุ่งกับเรื่องราวเกมส์จิ๊กซอว์แล้วหล่ะ ขออภัย

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    จะเอาอะไรกับนักการเมืองของไทย คิดได้แต่ผลประโยชน์ของตัวเองและพวกพ้อง คิดได้แต่ว่าเลือกตั้งครั้งต่อไปจะได้มีพรรคมีพวก ปากก็ทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อประชาชน จริง ๆ แล้ว ก็เอื้อประโยชน์กันไม่ได้นึกถึงคนที่เขาเดือดร้อน คนที่เขาเสียà��›à¸£à¸°à¹‚ยชน์จริง ๆ กันหรอก

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    แหม ข้าฯ หลอกคนมาตาย และเผาเมือง ยังมีคนยกประโยชน์ให้อีก ไม่มีที่ไหนเหมือนเมืองไทยอีกแล้ว

  • MI1
    Lv 4
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    มีสองประเด็นในคำถามนะครับ ประเด็นแรก คิดอย่างไรกับเหตุการณ์... ก็ต้องตอบว่า พิจารณาจากเหตุที่��¸›à¸£à¸²à¸à¸ มีผู้กระทำชัดเจน และมีผู้ถุกกระทำชัดเจน ครับ ประเด็นที่สอง จะมีแนวคิดยกผลประโยชน์ทั้งสองฝ่าย หากเกิดกรณีนี้ ผลประโยชน์ก็น่าจะตกอยู่กับผู้กระทำนะครับ ผู้ที่รับเคราะห์กรรม ก็ยังเป็นผู้ถูกกระทำอยู่ดี การยกผลประโยชน์ หรือตกเป็นพับแก่ทั้งสองฝ่ายอย่างนี้ ไม่เป็นธรรมต่อผู้ถูกกระทำครับ ขอบคุณครับ

  • ?
    Lv 4
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เขาว่ากันว่าพฤษภาคมเดือนวิปโยค. ดูซิเด็กเผาร.ร.มหิดลฯ ดูต.ย. ผู้ใหญ่เสื้อแดงเขาทำกัน ก็อยากทำตามมั่ง เฮ้อ อนาถใจจัง จริง ๆ แล้วใครผิดก็สมควรได้รับโทษทัณฑ์ที่ตัวเองก่อไว้ เรื่องสำนึกผิดปรองดองคงแยกเป็นอีกเรื่องนึงจึงจะถูก อย่านำมาปนกันเลยนะ เยาวชนไทยอนาคตจะได้รู้จักถูกผิดมากขึ้น ไม่เอาเยี่ยงอย่างในสิ่งไม่ดีค่ะ

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้