Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

จะทำอย่างไรดีหากเป็นไมเกรน?

3 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    โรคนี้ผมเคยเป็น ปวดหัวมาก ขนาดเอามือแตะยังไม่โดนหัวนะ โดนแต่ผมยังเจ็บเลย คือตอนผมเป็นหมอบอกหลอดเลือดมันบวมอะ แค่จับก็เจ็บแล้ว คิดแล้วยังเข็ดเลย ไม่อยากเป็นอีก ตอนนี้ดีขึ้น ไม่ค่อยเป็นแล้ว

    ตอนผมเป็นเคยหาข้อมูลเพื่อดูแลตัวเองเหมือนกัน ตามนี้นะ

    ไมเกรนเป็นอาการปวดศีรษะตุบๆ อย่างรุนแรงโดยเริ่มจากบริเวณใกล้ดวงตาหรือบริเวณขมับข้างใดข้างหนึ่ง ซึ่งจะเกิดขึ้นซ้ำๆ มักพบร่วมกับอาการผิดปกติอื่นๆ อาจเป็นนานถึง 3 วัน จนผู้ป่วยช่วยเหลือตัวเองแทบไม่ได้ วิธีที่ดีที่สุดคือ ค้นหาว่าปัจจัยใดที่กระตุ้นให้เกิดอาการ แล้วหลีกเลี่ยง

    เป็นไมเกรนต้องเลี่ยงอะไร

    ปัจจัยกระตุ้นให้เกิดไมเกรนมีทั้งปัจจัยภายในและภายนอกร่างกาย ที่ควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงมีดังต่อไปนี้

    1. อาหารที่มีสารกระตุ้นอาการเริ่มแรกของไมเกรน เช่น ไนไทรต์ ซึ่งพบในเบคอน ฮอตดอก และเนื้อหมัก ไทรามีน พบในไวน์แดง ตับไก่ อาหารที่ใช้ยีสต์ แทนนิน พบมากในถั่วเปลือกแข็ง น้ำแอปเปิล องุ่น เบอร์รี่ ชา กาแฟ และไวน์แดง ซัลไฟต์ ที่ใช้ในการหมักไวน์และผลไม้แห้ง โมโนโซเดียมกลูตาเมตหรือผงชูรส นอกจากนั้นแล้วยังมีช็อกโกแลต เนยแข็ง อาหารทอด และผลไม้จำพวกส้ม

    2. น้ำตาลในเลือดต่ำ เนื่องจากหิวหรือกินอาหารคาร์โบไฮเดรตขัดขาวมากเกินไป

    3. อยู่ในภาวะขาดน้ำ

    4. ความเครียด และความวิตกกังวล รวมถึงอาการช็อก

    5. นอนหลับหรือพักผ่อนไม่เพียงพอ

    6. อยู่ในที่ที่แสงจ้า หรือได้รับแสงจ้าเกินไป

    7. อยู่ในสถานที่หรือได้รับฟังเสียงดัง

    8. การเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศหรือฤดูกาล อากาศแห้งหรือลมร้อนแห้ง

    9. การเปลี่ยนแปลงระดับฮอร์โมน อาจเนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายหรือการกินยาคุม

    หากหลีกเลี่ยงปัจจัยดังกล่าวแล้ว แต่ยังมีอาการ สามารถเลือกวิธีบำบัดด้วยตัวเองได้หลายวิธี

    การรักษาและการป้องกัน

    ถ้าหากเป็นไม่มากและนานๆ เป็นที ก็ซื้อยาแก้ปวดพวก แอสไพริน พาราเซตามอล ไอบูโปรเฟน รับประทานจะบรรเทาอาการได้ใน 30-60 นาที หรือในบางรายที่อาการรุนแรงอาจจะต้องใช้ แอสไพรินร่วมกับพาราเซตามอล

    คนที่เป็นบ่อย (มากกว่า 2 ครั้งต่อเดือน) ยาส่วนใหญ่จะเป็นยาที่ใช้เพื่อลดการเกิดและเบาเทาอาการ ไมเกรน เช่น ยากลุ่ม beta-blockers ยากลุ่ม antidepressants ยากลุ่ม Calcium Channel blocker และยาสำหรับอาการไมเกรนโดยเฉพาะ เช่น sumatriptan นอกจากนี้อาจจะต้องพิจารณายาที่จะแก้ไขสำหรับอาการคลื่นไส้อาเจียน และอาการปวดร่���มด้วย

    ยาต่างๆ ที่ใช้มักมีจุดประสงค์เพื่อรักษาและลดการเกิดอาการที่รุนแรงของ ไมเกรน แต่ในผู้ป่วยบางรายก็อาจจะมีอาการข้างเคียงยาที่รับประทาน จึงมีบางสถานพยาบาลแนะนำให้ให้ใช้การรักษาทางเลือกอื่นร่วมด้วย เช่น การฝังเข็ม aromatherapy ฯลฯ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะรักษาด้วยวิธีใดร่วมด้วยก็ตามไม่ควรหยุดยาเพื่อรักษาอาการไมเกรนชนิดใดๆ โดยไม่ปรึกษาแพทย์ก่อน และทางที่ดีก่อนจะใช้โปรแกรมทางเลือกใดๆ ในการรักษาอาการ ไมเกรน ก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ก่อน

    ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร

    แคลซียม และแมกนีเซียม จะช่วยให้บำรุงเส้นเลือดให้แข็งแรงจึงควรที่จะรับประทานสม่ำเสมอสำหรับคนที่มีอาการ ไมเกรน จะช่วยให้ลดความรุนแรงและความถี่ของการเกิด

    Feverfew ก็เป็นพืชที่มีการรายงานว่าสามารถลดอาการอัดเสบและอาการปวดจาก ไมเกรน ได้ดี 5-HTP (5-hydroxytryptophan) ซึ่งเป็นอนุพันธ์ของ กรดอมิโน ก็ช่วยเพิ่มระดับ เซอโรโตนินในสมอง จึงทำให้ลดการเกิด ไมเกรน ได้ดี แต่ก็ต้องรับประทานติดต่อกันจึงจะให้ผลดีในการป้องกันการเกิดอาการ ไมเกรน สำหรับ 5-HTP ต้องระมัดระวังหากรับประทานร่วมกับยากลุ่ม antidepressant ที่เรียกว่า SSRI

    วิตามินบี ก็มีรายงานว่าสามารถช่วยในรายที่มีอาการ ไมเกรน บ่อยได้

    การบรรเทาอาการไมเกรนด้วยตนเอง

    ► ใช้ก้อนน้ำแข็ง หรือกระเป๋าน้ำแข็งปะคบที่ศีรษะ เพื่อช่วยให้เส้นเลือดหดตัวลงและบรรเทาอาการปวด

    ► นอนพักในห้องที่เงียบและมืด

    ► การนวดด้วยกลิ่นหอม ก็จะช่วยผ่อนคลายได้ ส่งผลให้อาการ ไมเกรน บรรเทาลง

    ► จดบันทึกอาการที่เกิดขึ้น เช่น วันเวลา ระยะเวลาที่ปวด อาการอื่นที่เกิดร่วมด้วย ปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิด เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงสาเหตุนั้นๆ เช่น แสง เสียงที่รบกวน รอบเดือน (ในผู้หญิง) แสง อาหารที่รับประทาน และ อื่นๆ

    ► คอยสังเกตอาการก่อนเริ่มมีอาการปวด เช่น อาการหิว ง่วงนอน อ่อนเพลีย แสง เสียงที่รบ

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่าน��า

    แนะวิธีรักษาไมเกรน

    โดยไม่ใช้ยา ใช้น้ำมันสะระแหน่แต่ห้ามกินไวน์

    นายภักดี โพธิศิริ เลขาธิการคณะกรรมการ อาหารและยา (อย.) กล่าวถึงอาการไมเกรนที่พบผู้ป่วยเป็นกันมาก ว่า ไมเกรน คือ โรคปวดศีรษะที่เกิด จากการหดและขยายตัวอย่างผิดปกติของเส้นเลือดแดงบริเวณศีรษะ

    ผู้ที่เป็นไมเกรนจะมีอาการปวดศีรษะตุบๆตามชีพจร ปวดอยู่ข้างเดียว บางครั้งอาจสลับข้าง น้อยรายที่พบว่าจะปวดศีรษะ 2 ข้างพร้อมกัน บางรายมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน มือสั่น มือไม้ เย็น รู้สึกไวต่อแสงสว่างและเสียงด้วย ซึ่งอาการปวดศีรษะที่เป็นอาจคงอยู่เป็นชั่วโมง เป็นวัน หรือนานเป็นเดือนก็มี ไมเกรนส่วนใหญ่จะพบว่าเป็นปัญหาของวัยรุ่น และคนหนุ่มสาวมากกว่าคนสูงอายุหลายเท่า

    นายภักดีกล่าวว่า สำหรับสาเหตุและกลไกการเกิดอาการของไมเกรนยังไม่เป็นที่เข้าใจกันดีนัก จึงยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ มีเพียงแค่ยาบรรเทา หรือป้องกันอาการปวดได้ โดยอาจรับประทานยากลุ่มบรรเทาปวด เช่น ยาพาราเซตามอล ฯลฯ ซึ่งเป็นยาที่ทุกครอบครัวมักมีอยู่ประจำบ้าน

    นายภักดีกล่าวต่อว่า ยังมีวิธีการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกัน ลด และบรรเทาอาการปวด โดยไม่ต้องพึ่งยาด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้ ประการแรก ต้องพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ไม่นอนดึกจนเกินไป เพราะหากพักผ่อนน้อย นอกจากจะกระตุ้นให้เกิดอาการปวดศีรษะไมเกรนแล้ว ยังจะไปกระตุ้นให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้ออีกด้วย

    ประการที่สอง ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เช่น การเดินเร็ว การเต้นแอโรบิก หรือการว่ายน้ำ เป็นต้น โดยทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาทีติดต่อกัน ประการที่สาม ต้องมีการควบคุม หรือวิธีการขจัดความเครียด โดยการหาเวลานั่งพัก หลับตา หยุดคิดเรื่องราวต่างๆ และผ่อนคลายกล้ามเนื้อ หรือการทำสมาธิ ฝึกกำหนดลมหายใจเข้า-ออก อย่างมีสติ

    ประการที่สี่ ควรระมัดระวังเรื่องอาหารการกิน ต้องกินอาหารที่มีประโยชน์ อย่าอดอาหาร และควรหลีกเลี่ยงอาหารที่กระตุ้นไมเกรน จำพวกแอลกอฮอล์ โดยเฉพาะไวน์แดง รวมทั้งหลีกเลี่ยงผงชูรส เนย นม ช็อกโกแลต กล้วยหอม ผลไม้ประเภทส้ม กาแฟ และชา

    ประการที่ห้า หลีกเลี่ยงการอยู่ในสภาพแวดล้อมที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดไมเกรนได้ เช่น สถานที่ที่มีแดดจัด อากาศร้อน เสียงดัง ไฟกะพริบ หรือหลีกเลี่ยงกลิ่นที่รุนแรง เช่น กลิ่นน้ำหอม และกลิ่นบุหรี่ เป็นต้น ประการที่หก งดการสูบบุหรี่

    และประการสุด ท้าย หากเกิดอาการปวด ควรลดหรือบรรเทาอาการปวดไมเกรน โดยรีบใช้ น้ำแข็งประคบ โดยนำผ้าขนหนูห่อก้อนน้ำแข็งไว้ แล้วนำมาลูบช้าๆ บริเวณที่ปวด ก็จะทำให้ รู้สึกดีขึ้นได้ หรือจะใช้ น้ำมันสะระแหน่นวดบริเวณที่ปวด

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ลอง สอบถามคุณหมอดูก็ได้นะ พอดีเราก็ใช้เว็บนี้บ่อยๆ เหมือนกัน

    http://www.vejthani.com/web-english/talkto-dr/inde...

    โชคดีค่ะ

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้