Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

มีวิธีรักษาการปวดไมเกรนให้หายขาดมั้ยคะ?

เวลาปวดมันทรมานจริงๆ

5 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    เมื่อก่อนปวดไมเกรนบ่อยมากค่ะ แทบทุกวันเลย แต่ช่วงนี้ดีขึ้นเยอะ ไม่ค่อยปวดบ่อยเหมือนเดิมแล้ว

    การรักษาให้หายขาดไปเลยฉันก็ยังไม่เคยศึกษาจริงจังนะคะแต่เห็นหลายๆคนที่เป็นไมเกรนเหมือนกัน ส่วนใหญ่แล้วจะไม่มีการรักษาแบบนั้น บางคนไปหาหมอคุณหมอก็จะสั่งยาไมเกรนให้เป็นเหมือนยาแก้ปวดมากกว่า ทานเมื่อปวด ไม่ใช่ยารักษาให้หายขาดอะไรแนวนั้น

    ฉันไปอ่านมาจากเว็ป (ลอกมาเลยนะ) "โดยทั่วไปผู้ป่วยโรคไมเกรนจะไม่มีอันตรายใดๆที่จะก่อให้เกิดการพิการหรือทุพพลภาพตามมาแต่อย่างใด โดยปรกติอาการปวดศีรษะชนิดไมเกรนนี้จะลดความรุนแรงลงเมื่ออายุมากขึ้น โดยเฉพาะเมื่อเลยวัยหมดระดูไปแล้ว จะพบผู้ป่วยไมเกรนน้อยมาก"

    http://www.oknation.net/blog/healthforyou/2009/09/...

    ส่วนวิธีที่ฉันใช้ในชีวิตประจำวันตอนนี้

    1. พยายามลดความเครียด บางครั้งกาีรควบคุมความคิดก็ทำได้ยากกว่าควบคุมการกระทำ โดยเฉพาะฉันเป็นคนคิดมากด้วยยิ่งยากมากขึ้น แต่เคยลองไปฝึกนั่งสมาธิดูก็ช่วยได้นะคะ ตอนแรกๆอาจจะยังเฉยๆแต่ฝึกไปเรื่อยๆแล้วจะทำให้จิตใจเราสงบข��้น ควบคุมได้มากขึ้นค่ะ

    2. พยายามหลีกเลี่ยงตัวกระตุ้น จากประสบการณ์ตัวกระตุ้นต่างจะกระทบกับแต่ละคนมากน้อยไม่เหมือนกัน ที่เคยพบเช่น แสงจ้า อากาศเปลี่ยนหรืออากาศร้อนอบอ้าวมากๆ เสียงดังๆ ทานอาหารไม่ตรงเวลาหรือปล่อยให้หิวมากๆ เหนื่อยเกินไป นอนพักผ่อนไม่พอ นอนผิดเวลา หรือเกิดจากการปวดหัวปกติแล้วไม่ีรีบแก้ไขทนไปเรื่อยๆจะเป็นการปวดไมเกรนได้ด้วย สรุปแล้วน่าจะเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวต่างๆ

    3. ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรง ต่อสู้กับโรคไม่ดีต่างๆได้ แล้วยังเป็นการคลายความเครียดวิธีหนึ่งด้วยค่ะ

    ที่เขียนมาเป็นการหลีกเลี่ยงการปวดไมเกรนค่ะ แต่ถ้าเริ่มปวดไปแล้วบางครั้งจะเริ่มปวดหัวธรรม***่อนยังไม่มากนักพอรู้ว่าเป็นไมเกรนอยู่ก็ไม่ควรฝืนนะคะ ควรนอนหลับพักผ่อนแต่ถ้าอยู่ในสถานก��รณ์ที่ยังนอนไม่ได้ก็อาจจะทานยาแก้ปวดให้หายเลยเพราะว่าทานตอนนี้ยังดีกว่าตอนปวดไมเกรนแล้วจะแก้ยากค่ะ แ่ตุ่้้ถ้าปวดมากแบบไมเกรนแล้วส่วนใหญ่ก็ทำได้แค่นอนในที่มืดๆเงียบๆค่ะ ถ้าปวดจนนอนไม่หลับก็ต้องทานยาแล้วก็นอนค่ะ

    หวังว่าที่เขียนมาจะช่วยได้บ้างนะคะ เขียนจากประสบการณ์ที่เคยเป็น เข้าใจจริงๆเลยค่ะว่าเวลาปวดแล้วทรมานขนาดไหน

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ผมเคยเป็นครับทรมานสุดๆ คนรู้จักแนะให้ไปซื้อใบชาเจี๋ยวกู้หลันมาชงกินต่างน้ำผมทานได้ประมาณหนึ่งเดือนเต็มๆทานต่างน้ำเลยครับชงให้เข้มหรือไม่ก็เอาไปต้มเลยครับ ทุกวันนี้ผมยังไม่ปวดอีกเลยครับ รู้สึกร่างกายกระปรี๋กระเปร่าด้วยนอนหลับง่ายหลับสบายครับ ร่างการดีขึ้นครับ ลองทำดูซิครับผมเองลองแล้วได้ผลจึงกล้ามาแนะนำครับ

    แหล่งข้อมูล: คนรู้จักเขาบอกมาครับ
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ไมเกรน

    ผู้ที่มีอาการปวดศีรษะเป็นๆ หายๆ บ่อย โดยที่สุขภาพทั่วไปแข็งแรงดี เพียงแต่บางครั้งเมื่อมีอาการกำเริบจะรู้สึกทรมาน หรือน่ารำคาญอยู่ ๑-๓ วัน เมื่อหายปวดก็เป็นปกติดี มักจะมีสาเหตุจากโรคไมเกรน โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าพบในคนอายุน้อยที่มีอาการปวดที่ขมับข้างเดียว โบราณจัดเป็นโรคลมชนิดหนึ่ง เรียกว่า "ลมตะกัง" โรคนี้แม้จะมีโอกาสเป็นๆ หายๆ เรื้อรังนับสิบๆ ปี แต่ก็ไม่มีอันตรายร้ายแรง ผู้ที่เป็นโรคนี้ หากรู้จักสังเกตว่าแต่ละครั้งที่ปวดมีสิ่งอะไรเป็นตัวกระตุ้น แล้วหาทางหลีกเลี่ยงได้ อาการก็จะห่างหายไปได้

    ชื่อภาษาไทย ไมเกรน, ลมตะกัง

    ชื่อภาษาอังกฤษ Migraine

    สาเหตุ ยังไม่ทราบแน่ชัด สันนิษฐานว่ามีความสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงในการทำงานของระบบประสาทและหลอดเลือดในสมองเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงของสารเคมีในสมองที่มีชื่อว่า ซีโรโทนิน หรือ serotonin (ซึ่งพบว่ามีปริมาณลดลงขณะที่มีอาการกำเริบ) และสารเคมีในสมองกลุ่มอื่นๆ ส่งผลให้เกิดการอักเสบของเส้นใยประสาทสมองเส้นที่ ๕ ที่ เลี้ยงบริเวณใบหน้าและศีรษะ รวมทั้งทำให้หลอดเลือดแดงทั้งในและนอกกà��°à¹‚หลกศีรษะมีการอักเสบ และมีการหดและขยายตัวผิดปกติ หลอดเลือดในกะโหลกจะมีการหดตัวทำให้เปลือกสมองมีเลือดไปเลี้ยงน้อยลง ส่วนหลอดเลือดนอกกะโหลกศีรษะมีการขยายตัว ทั้งหมดนี้นำไปสู่อาการแสดงต่างๆ ของโรคไมเกรน

    โรคนี้สามารถถ่ายทอดทางพันธุกรรม พบว่าประมาณร้อยละ ๖๐-๗๐ ของผู้ที่เป็นไมเกรน มีประวัติว่าพ่อแม่พี่น้องเป็นโรคนี้ด้วย

    เหตุกำเริบ ผู้ป่วยมักบอกได้ว่า แต่ละครั้งที่มีอาการปวดศีรษะจะมีสิ่งกระตุ้นหรือเหตุกำเริบชัดเจน ซึ่งแต่ละคนอาจมีเหตุกำเริบที่แตกต่างกันไป และมักจะมีได้หลายๆ อย่าง เหตุกำเริบที่พบได้บ่อยๆ ได้แก่

    มีแสงสว่างจ้าเข้าตา เช่น ออกกลางแดดจ้าๆ แสงจ้า แสงไฟกะพริบ แสงสีระยิบระยับในโรงมหรสพหรือสถานเริงรมย์ เป็นต้น

    การใช้สายตาเพ่งดูอะไรนานๆ เช่น ดูภาพยนตร์ หนังสือ หรือกล้องจุลทรรศน์ เย็บปักถักร้อย เป็นต้น

    การอยู่ในที่ที่มีเสียงดังจอแจ เช่น ตลาดนัด หรือเสียงอึกทึก (เช่น เสียงกลอง เสียงระฆัง)

    การสูดดมกลิ่นฉุนๆ เช่น กลิ่นสี กลิ่นน้ำมันรถ กลิ่นน้ำหอม กลิ่นสารเคมี ดีดีที ควันบุหรี่ เป็นต้น

    การดื่มกาแฟมากๆ ก็อาจกระตุ้นให้ปวดได้

    ยานอนหลับ เหล้า เบียร์ เหล้าองุ่น ถั่วต่างๆ กล้วย นมเปรี้ยว เนยแข็ง ช็อกโกแลต ตับไก่ ไส้กรอก อาหารทะเล อาหารทอดน้ำมัน ผงชูรส น้ำตาลเทียม สารกันบูด ผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว (เช่น ส้ม มะนาว) ล้วนกระตุ้นทำให้ปวดได้

    การอยู่ในที่ร้อนหรือเย็นเกินไป เช่น อากาศร้อน หรือหนาวจัด ห้องที่อบอ้าว ห้องปรับอากาศเย็นจัด เป็นต้น

    การอดนอน (นอนไม่พอ) หรือนอนมากเกินไป การนอนตื่นสาย (เช่น ในวันหยุดสุดสัปดาห์)

    การอดข้าว กินข้าวผิดเวลา หรือกินอิ่มจัด เชื่อว่าเกี่ยวกับภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำ ซึ่งกระตุ้นให้ปวดศีรษะได้ บางครั้งพบว่à¸�� ผู้ป่วยไมเกรนเมื่อเป็นโรคเบาหวาน (มีน้ำตาลในเลือดสูง) อาการปวดจะหายไป

    การนั่งรถ นั่งเรือ หรือนั่งเครื่องบิน

    อาการเจ็บปวดตามส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

    การเป็นไข้ เช่น ตัวร้อนจากไข้หวัด ไข้หวัดใหญ่

    การออกกำลังกายจนเหนื่อยเกินไป

    ร่างกายเหนื่อยล้า

    ดูเพิ่มที่ลิงค์นะครับคุณหมออธิบายดีมาก

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    จิตนำกาย

    สุขภาพจิตดี สุขภาพกายก็จะดีตามมา

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ที่หายได้ด้วยตัวเองมาสิบกว่าปีแล้วนี่ ฉันฝึกหายใจค่ะ ถ้าคุณรับประทานยา

    ตามที่คุณหมอจัดให้อยู่แล้ว จะลองใช้วิธีนี้เสริมได้

    เวลาสติแตกต้องรีบรวบรวมสติกลับมาหายใจก่อน เพราะถ้าไม่ทำจะปวดอย่างที่คุณก็รู้

    จิบน้ำนิดนึงแล้วหยุดกิจกรรมทั้งหมด เอนหลังหรือเนแต่ควบคุมลมหายใจให้สม่ำเสมอ

    อาจทำให้ง่วงนะคะ คุณต้องพร้อมจะนอน อย่าฝึกตอนขับรถค่ะ

    ลมหายใจจะละเอียดขึ้นเรื่อยๆในความรู้สึกที่สงบ คุณจะค่อยๆหายใจเข้าออกได้ลึก

    ควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้นเรื่อยๆ จากนั้นคุณจะคุ้นเคยกับการคุมลมหายใจและ

    กำจัดไมเกรนออกไปจากชีวิตได้ค่ะ อดทนกับการฝึกนะคะ

ยังคงมีคำถามอยู่ใช���หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้