คิดอย่างไรกับการตั้งกฏหมายเอาผิดผู้ปกครองของนศ.ที่ก่อเหตุทำร้ายกันค่ะ?

1.เมื่อเหตุเกิดขึ้นแล้วควรทำอย่างไร ?

2.ควรทำอย่างไรไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก?

.......มิได้เป็นการถามต่อ แต่ตั้งคำถามให้ฉุกคิดว่า หากเป็นผู้มีหน้าที่ต้องรับผืดชอบความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของคนในสังคมโดยส่วนรวมแล้วจะต้องทำอย่างไร ในเมื่อก้มีกฎหมายบังคับไม่ให้กระทำผิดแล้วแต่ก็ยังปรากฏเหตุการณ์ซ้ำซาก โดยกฎหมายก็บังคับใช้อยู่ ขึ้นอยู่กับสถานะของบุคคลเป้นเยาวชนหรือไม่ก็รับผิดกันไปตามที่กฎหมายบัญญัติ อาจจำคุกห��ืออยู่สถานพินิจก็ว่ากันไป

.......แต่นั่นคือ การแก้ไขผู้กระทำความผิด หรือตัดโอกาสหรือจำกัดความสามารถในการกระทำความผิด ก็โดยไปอยู่ในเรือนจำ ในสถานพินิจ หรือประหารชีวิต ซึ่งก็คือโทษที่ได้กระทำความผิดไปแล้ว แต่เด็กที่ก่อเหตุอาจไม่ได้เลวโดยสันดานเป็นเพียง ความคึกคะนอง ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น แต่ผลที่ได้หลังกระทำความผิดมีผลกับเขาไปตลอดชีวิต และการลงโทษดังกล่าวก็มิได้ทำให้การกระทำต่าง ๆ นั้นหยุดลง เนื่องจากเป็นการส่งต่อจากรุ่นพี่ไปสู่รุ่นน้อง รุ่นพี่ไปติดคุกแล้วน้องไม่รู้นี่ว่าชีวิตในคุกในเรือนจำเป็นอย่างไร จึงเห็นว่าเมื่อเกิดเหตุตามข้อ 1 ก็ต้องทำตามกฎหมาย แต่ไม่เกิดผลดีกับเด้กและเยาวชน เพราะคนคุกไม่ได้เป็นที่ยอมรับจริง ๆ ในสังคม

........ตามข้อ 2.เป้นการป้องปรามมิให้เกิดเหตุซ้ำรอยดึงเอาผู้ปกครองเข้ามาเกี่ยวข้องเป็นความผิดด้วย ก็เห็นว่า

เป้นการดี ทำให้ช่องว่างระหว่างครอบครัวแคบลงอีกหน่อยผู้ปกครองจะหันมาดูแลมากขึ้น มิเช่นนั้นตนเองอาจต้องโทษไปด้วย โดยหลักกฎหมายอาญาใครทำผิดคนนั้นรับโทษ ผู้ปกครองก็อาจรับเพียงโทษปรับฐานไม่อบรมสั่งสอนดูแลบุตร ปล่อยให้สังคมเดือดร้อน ผมว่ามันก็น่าจะเป็นการดีอยู่นะ

........รัฐได้ประโยชน์ไม่ปวดหัวกับคนในปกครอง ไม่เสียค่าใช้จ่ายในขณะที่บังคับโทษ.....พ่อแม่ได่ลูกที่ดีไม่หลงทางเดินเข้าคุก.....ประชาชนในสังคมมีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน

........การร่างกฎหมายฉบับนี้นำแนวคิดทฤษฎีในการป้องปรามมาใช้ แทนทฤษฎีแก้ไขผุ้กระทำความผิด หรือตัดโอกาสหรือจำกัดความสามารถในการกระทำความผิดของเด็กหรือเยาวชน ซึ่งทฤษฎีนี้ก็ใช้บังคับอยู่แต่ไม่เกิดผลสำเร็จ

จะยิ่งไปกันใหญ่น่ะซียิ่งเหมือนมีแบ็คในตัวเลย คงต้องถามคนคิดตรงๆไปเลยว่าเป็นคนในปกครองท่านทำบ้างจะทำไงต่อแล้วถ้าเชื่อมั่นว่าไม่มีบอกเพื่อนบ้างน่าจะดีกว่านะ เป็นแค่วิธีคิดเอาตัวรอดโดยเบี่ยงประเด็น หรือจะรอให้ไปเอาผิดถึงหมอทำคลอดเลยละซี....ไปกันใหญ่

ลองสืบสาวไปหาสาเหตุดู...

อะไรทำให้เด็กมีค่านิยมในการแสดงออกด้วยความรุนแรง

การเห็นตัวอย่างรุ่นพี่

ความชินตาชาใจ

ที่สำคัญ เค้าไม่รู้และไม่รู้สึกตัว ว่าเค้ากำลังทำอะไรอยู่

เหมือนปลา ถ้าเวียนว่ายใช้ชีวิตอยู่ในหนองน้ำเน่า ปลาก็คงไม่รู้ว่าที่ที่ตนอยู่คือหนองน้ำเน่า

ดังนั้น การเอาผิดกับใคร ที่ไหน เป็นแค่กระบวนการในการรักษาความสงบเรียบร้อยในสังคมส่วนรวม

ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ต้องมี ต้องทำ

แต่ถ้าจะมานั่งวิเคราะห์ไปมา กันจริงจริง ว่า แล้วการเอาผิด มันช่วยบรรเทาปัญหามั๊ย

ก็ต้องรอดูว่า หลังจากมีการเอาผิดกันแล้ว พฤติกรรมรุนแรง ลดลงหรือไม่อย่างไร

ถ้ากลับไปที่เรื่องหนองน้ำเน่า เราแก้กันยังไง

เราต้องใส่น้ำดีเพิ่มเข้าไปใช่มั๊ย

ให้น้ำดีมากขึ้นมากขึ้น ไปลดความเน่าของน้ำลง

แต่ไม่แน่ใจว่า ปลาที่อาศัยอยู่เดิม จะทนน้ำดีได้มั๊ย เพราะชีวิตเคยชินกับน้ำเน่ามา

อาจต้องมีการสูญเสียอะไรไปในช่วงเปลี่ยนผ่าน ซึ่งจะบอกว่าเป็นอะไร คนตอบก็จนปัญญาค่ะ เพราะยังไม่เกิด

กับการแก้ไขเรื่องการใช้ความรุนแรงในหมู่นักศึกษา ดิฉันว่าเกี่ยวเนื่องโดยตรงกับเรื่องความเชื่อ ค่านิยม พวกเค้านิยมและยึดมั่นในการหาทางออก(ของอะไรก็ไม่รู้) ด้วยความรุนแรง เพราะนั่นคือสิ่งเดียวที่เค้าเคยเห็นมา หรือเปล่า เรา���าจต้องหาวิธีอะไร ที่จะเปิดการรับรู้ของพวกเค้าเหล่านั้น ถึงการแก้ปัญหาด้วยวิถีทางอื่น ที่ดีกว่า สร้างสรรค์กว่า การใช้ความรุนแรง ซึ่งพวกเค้าจะรับฟังมั๊ย เข้าใจหรือไม่ อดทนกับสิ่งใหม่หรือไม่ ก็เป็นอีกปัญหาหนึ่ง

บางที ดีกว่าการหาแพะรับผิด มาหาวิธี ปรับความคิด ปรับความเข้าใจ ปรับทัศนวิสัยการแก้ปัญหา กันใหม่ น่าจะดีไม่น้อย

ไม่เห็นด้วยค่ะ ไม่มีพ่อแม่หรือผู้ปกครองคนไหนต้องการให้ลูกของตนเองเป็นคนเลวหรอกค่ะ ก็อย่างที่เคยบอกแล้วไงคะว่า บางครั้งพ่อแม่ผู้ปกครองไม่ทราบหรอกค่ะ เด็กทำผิดตำรวจจับได้ เรียกครูก่อนเลย และเด็กส่วนมากจะไปบอกรุ่นพี่ บางครั้งยังคิดเลยว่ารุ่นพี่เป็นพ่อแม่พวกเขาหรือไงนะ เด็กรุ่นนี้เห็นรุ่นพี่เป็นใหญ่ สถาบันเป็นใหญ่ ใครด่าพ่อด่าแม่มันยังทนกันได้ แต่อย่าไปด่าสถาบันเขานะเขาจะออกอาการโกรธแค้นอย่างเห็นได้ชัด

อยากให้ผู้รักษากฎหมายเมื่อจับเด็กที่ทำผิดได้แล้ว ให้เรียกผู้ปกครองให้มาให้ได้ ถ้าไม่มีผู้ปกครองมารับกลับก็ให้ขังไว้เลย การที่บอกว่าเด็กไม่สามารถจะเข้าไปอยู่ในห้องขังได้เพราะผิดกฎหมายคุ้มครองเยาวชน เลิกซะเถอะค่ะไอ้กฎหมายข้อนี้น่ะ ทีเด็กยังทำผิดแบบผู้ใหญ่ได้เลย การทำโทษก็ต้องเหมือนผู้ใหญ่ได้ เพราะเด็กเดี๋ยวนี้เขาคิดว่าอายุไม่ถึงทำผิดร้ายแรงขนาดไหนก็ยังถูกลงโทษน้อย สถานพินิจน่ะ ต้องสัมผัสถึงจะรู้ มันไม่ใช่อย่างที่เราคิดว่าเด็กเข้าไปแล้วจะสามารถกลับตัวกลับใจได้ ยากค่ะ ในสถานพินิจเขาก็มีรุ่นพี่เหมือนกันนะคะ มีผู้ยิ่งใหญ่จากเด็กที่ตั้งตัวเองขึ้นมา กูเก๋า กูเจ๋ง เข้าๆ ออกๆ อยู่นั่นแหละ

ดิฉันมีลูกชายที่เรียนเทคนิคเหมือนกัน ก็เลยรู้ๆ อะไรมาบ้าง เราคุยกันตลอด เขาก็อยู่ในกลุ่มแบบนี้เหมือนกัน ตีเขาบ้างเขาตีมาบ้าง โดนฟัน โดนแทงมาสารพัด รู้บ้างไม่รู้บ้างว่าเขาไปทำอะไรมา เพราะเราไม่ได้เกาะติดเขาตลอด ขนาดไปรับไปส่งกันนะยังไม่วายที่จะมีเรื่องมาให้กลุ้มใจอยู่เสมอ

เวลาที่เขาไปทำร้ายใครมา ดิฉันนี่แหละเป็นผู้พาเขาไปพบตำรวจ ไปหาคู่กรณี สอนเขาตลอดว่าเราเป็นลูกผู้ชายต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ และอย่าทำอีก ให้คิดว่าถ้าเรามีญาติพี่น้องและใครมาทำแบบนี้บ้างจะคิดอย่างไร แต่จะมีรุ่นพี่รุ่นน้อง มาชวนไปตลอด

ในสิ่งที่เขาเล่าให้ฟังยังเคยคิดว่ามันมีแบบนี้ด้วยเหรือ พี่สอนน้องต้องรักสถาบัน มีการฝึกน้องให้อดทนต่อการถูกกระทืบ ถูกตี เวลาเจออริให้ทำร้าย ถ้าใครนำเอาสิ่งของที่ตีมาจากสถาบันอื่นได้ก็จะเป็นคนเก่ง เข็มขัดบ้าง เสื้อช๊อปบ้าง ดิฉันบอกได้เลยว่าสถาบันน่ะรู้ดีว่าเด็กของตนเองไปทำอะไรมาบ้าง

ร่วมมือกันเถอะค่ะ ผู้ปกครองก็อยากรู้การกระทำของเด็ก สถาบันเมื่อมีอะไรไม่ชอบมาพากลก็บอกกับผู้ปกครองบ้าง ส่วนผู้รักษากฎหมายถ้าเป็นไปได้ก็แจ้งให้ผู้ปกครองทราบด้วยก็จะเป็นพระคุณอย่างยิ่งค่ะ

ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ผู้ปกครองอย่างเราๆ ไม่รู้ มันยิ่งกว่าเรื่องเล่าเช้านี้ หรือเรื่องเด่นเย็นนี้มากนะคะ

ครูเห็นด้วยกับคุณทรง

คิดว่าน่าจะเพิ่มโทษของเด็กประเภทนี้ให้หนักกว่านี้ 2-3 เท่า หรือเทียบเท่ากับโทษของผู้ใหญ่เลย

เด็กๆจะได้กลัวและไม่กล้าทำผิดอีก

ให้ลงโทษเด็กพวกนั้น ให้หนักมากขึ้นก่อนดีกว่าจ้ะ กอหญ้า

ถ้าเป็นไปได้ ในกรณีที่จับตัวคนยิงที่เป็นผู้กระทำได้

และถึงแม้ว่าจะเป็นลูกหลงจากการกระทำนั้น คือพลาดไปและมีผู้เสียชีวิต

เด็กผู้ก่อเหตุจะอ้างว่าไม่มีเจตนาไม่ได้ ควรประหารจ้ะ

มีดีและเสีย พ่อแม่ไม่รู้หรอกว่าวันๆลูกๆไปทำอะไรที่ไหน เพราะลูกๆไม่มีใครบอกว่าไปทำผิดมา เกิดเป็นพ่อแม่ก็ต้อ���รับกรรมไป

ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ เพราะว่า พ่อแม่ผู้ปกครองก็เจ็บปวดกับเรื่องนี้มากพออยู่แล้ว คิดว่า น่าจะเพิ่มบทลงโทษผู้ที่ก่อเรื่องให้หนักกว่านี้น่าจะเหมาะสมกว่าค่ะ

เห็นด้วยกับความเห็นที่ 1 ครับแต่พูดถึงคำว่ากฏหมายในปัจจุบัน

พูดตรงๆนะครับ ประเทศไทยมีกฏหมายเหรอ? มีก็เหมือนไม่มี

เพราะคนมีอำนาจเอาเงินซื้อหมดละและกฏหมายบ้านเราไม่เข็มแข็งเลย ถึงตั้งกฏหมายเอาผิดผู้ปกครองขึ้นมาได้

แต่ไม่จริงจังกับมันไม่บังคับใช้ จะมีกฏหมายไปทำไม สิ่งแรกที่ควรทำผมว่าทำให้กฏหมายของประเทศไทย

เข้มแข็งมากขึ้นกว่านี้อีกมากๆๆๆ ทำให้คนตระหนักถึงความผิดและโทษมากกว่านี้ ลงโทษอย่างจริงจัง

เช่น กรณีฆ่าคนก็จำคุกซะ1ปี-ตลอดชีวิตก็ว่าไป และไม่ให้ประกันตัว ไม่ก็เอาไปเป็นทหารภาคใต้รับใช้ชาติสัก2ปี(เก่งกันดีนัก) ไม่ก็ให้ทำความดีให้สังคมสัก25ข้อ

ไม่ใช่อยู่สถานพินิจไม่กี่วัน เอาเงินไปประกัน(เอาไปยัด)ก็ปล่อยตัวออกมา มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย ตามหลักความเป็นจริงแล้วประชาชนต้องอยู่ในอำนาจ(ใช้คำว่าอยู่ในกำมือ)ของรัฐบาล(แล้วรัฐบาลไหนล่ะ) ไม่ใช่รัฐบาลรัฐบาลเป็นทาสประชาชน

เหมือนเด็กอะ...ใครไม่พอใจอะไรก็ประท้วง ถ้าเทียบกับเด็กก็เหมือนงอแงจะเอานั่นนี่ จะเอาให้ได้...ไม่ได้ก็จะงอแง(ประท้วงเอาให้ได้)ขู่กันไปขู่กันมา ข่มกันเหมือนเด็ก

ทุกวันนี้คนไทยอิสระเสรี มากเกินไป ทำตามใจชอบมากเกินไป เห็นข่าวกันอยู่ทุกวัน มันเริ่มจะเอากันไม่อยู่ละบ้านเรา....จริงมั้ยครับ?