"คนคนนั้นอาจเป็นได้แค่นั้น" จริงหรือ ?

คุณ tid ทำให้คิดถึงศิลปการชิงอำนาจ

การที่เราทั้งสองได้พลาดพลั้งเสียเสียแล้ว และมองเห็นว่าทิ้งเวลาไปอย่างไร้ค่าแล้วนั้น ฉันคิดว่า ยังมีโอกาสที่ตัวคุณจะทบทวนเพื่อ

ยกโทษได้ไหม ไม่มีอะไรที่จะเลวร้ายกว่ามิตรภาพที่เริ่มจืดจาง

บางคนจึงยอมตายไปกับมิตรภาพค่ะ

ถ้าเป็นฉันนะคะ จะตายคือเราต้องว่างจากกันและกันสักระยะเพื่อให้ฉันได้ก้าว

แต่เราไม่ได้จากกัน ยังดูแลกันเสมอ ไม่รู้ว่าอธิบายอย่างนี้จะเข้าใจเปล่านะคะ คิด++นะคะ

ไม่ต้องโทษใครดีไหมครับ ถัาสิ่งที่ทำไปมันเกิดมาจากความจริงในตัวตนที่มี ง��¸±à¹‰à¸™à¸„วามจริงก็คือความจริงครับ อิอิ คนบางคน...จะได้มาด้วยเล่ห์เหลี่ยมหรือมารยาอะไรก็ตาม ...ผมเชื่อว่ามันก็แค่ความสุขแค่ชั่วขณะครับ...

อดีตเป็นบทเรียน ปัจจุบันคือความจริง อนาคตคือความหวัง

คิดว่าถ้าผ่านช่วงเวลาที่ทุกข์ได้ ได้ทบทวนตนเอง อยู่กับปัจจุบันสักระยะ คิดถึงอนาคต มองโลกอย่างมีความหวัง เราก็คงเปลี่ยน ไม่ได้เป็นเพียงแค่นั้น เขาจะแค่ไหนเราก็ไม่อาจทราบได้ บังคับเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ แต่ตัวเราสามารถเปลี่ยนได้ พัฒนาได้ มุ่งมั่นพยายามได้ มิใช่เพื่อเขาแต่เพื่อตัวเราเอง วันหนึ่งเมื่อผ่านพ้นไป หันกลับมาดูก็จะรู้สึกว่าขอบคุณจริงๆ ขอบคุณอดีตที่ผ่านมา ให้เราได้เรียนรู้ มีลมหายใจอยู่ทุกวันนี้

ในโลกของการ " ทำงาน "

มีการ " ชิงไหว ชิงพริบ "

กันอยู่ตลอดเวลาค่ะ

ถ้าเราเป็นคน

ที่รู้ไม่ทัน

" เล่ห์เหลี่ยม " ของคนอื่น

...ยิ่งแย่ค่ะ...

ขนาดบางคน

ยอมที่จะ " เหยียบหัวเพื่อน ๆ "

เพื่อเลื่อน " ตำแหน่ง "

ก็มีมาแล้วค่ะ

ทำหน้าที่ของเรา

ให้ " ดีที่สุด " พอแล้วค่ะ

คนอื่น

จะ "เล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว "

อย่างไรช่างเค้า

พยายามดูให้ออกก็พอค่ะ

คุณก็ทราบดังที่ผมทราบ ว่าพระเจ้าจัดเตรียมหนทางเอาไว้

ให้มนุษย์อย่างเราๆ แต่ละคนต่างกันไป

พระเจ้าอวยพรนะครับ

ตอบไปเดี๋ยวจะหาว่าโม้ค่ะ....เป็นคนสบายๆ ก็จริง

เราโสดเราก็เปิดใจศึกษาได้ค่ะ ถ้าจะมีคนโสดเข้ามา

แต่ถ้าดูแล้วมีลับลมคมใน ไม่ชัดเจน อึมครึม ไม่โปร่งใส อ้างนั่นอ้างนี่

ก็ไม่ไปเสียเวลาด้วยหรอกค่ะ ไม่ชอบเล่นเกมส์ ไม่ใช่ผู้ชำนาญการ ไม่เอาขอบายค่ะ

เหมือนคำกล่าวที่ว่าอย่าเล่นกับไฟค่ะ

คนเราต้องรู้จักมองโลกตามความเป็นจริงค่ะ อะไรที่ดูแล้วน่าเคลือบแคลงสงสัย

ก็อย่าไปใส่ใจค่ะ คนน่ารั��¸ สัตย์ซื่อ ที่จะภักดีและคู่ควรกับหัวใจเรา เค้ารอเราอยู่ค่ะ

เป็นกำลังใจให้นะคะ.....ส่วนคนนั้น ใครทำกรรมอะไรไว้ ก็จะรับผลกรรมของเค้าเองค่ะ สู้ สู้

จริงแท้แน่นอน อย่าได้โทษใครเลยคิดเสียว่ามันเป็นกรรม ถ้าคิดได้แล้วจงไปตามฝันของคุณตามที่ใจคุณปรารถนา..ไม่มีใครที่จะห้ามเราได้ถ้าเราจะ....

คุณ..tid..สาเชื่อว่าทุกสิ่งถูกกำหนดด้วยชะตาในทางพุทธศาสนา

แต่ในทางขอคุณคงเป็นพระเจ้าอวยพร..ดังนั้นทุกปัจจัยที่เกิดล้วนมีเหตุทั้งสิ้น

แล้วจึงเกิดผลตามมาเฉกเช่นปลูกต้นไม้ก็ต้องมีทั้งใบและผล

ดังนั้นไม่ว่าเล่ห์เหลี่ยมหรือไหวพริบ

เป็นเหตุทั้งสิ้น

ผลที่ตามมาคือ การพลาดพลั้ง..

ดังนั้น...สิ่งที่ทำได้เพียง...ระวังอย่าให้เกิดอีกจ้า

ไม่ควรต้องโทษใครทั้งสิ้นค่ะ

ผู้รู้นั้น ก่อนจะรู้ ก็มาจากไม่รู้มาก่อน

เหมือนเด็กน้อย หรือตัวเราเองในวันนี้

เราจะเดินได้คล่องอย่างวันนี้หรือ

ถ้าวันโน้น...เราไม่ล้มแล้ว ลุก ล้มแล้ว ลุก ล้มอีก ก็แค่ลุกขึ้นมา

การกล่าวโทษใครหรือเหตุการณ์ใดว่าผิด ว่าเสียหาย ไม่เคยช่วยให้อะไรดีขึ้นมา

เพราะเป็นการมองกลับไปเพื่อจมอยู่ในนั้น

แต่ธรรมชาติมนุษย์ ย่อมมองไปข้างหน้าค่ะ ก็ดวงตาเราไม่ได้อยู่บนใบหน้าหรอกหรือ

หากมนุษย์เกิดมาเพื่อมองกลับไปข้างหลัง ดวงตาเราก็ต้องไปอยู่บนแผ่นหลังแล้วสิเนอะ

ไม่ใช่ว่า ไม่ให้มองย้อนนะ ย้อนเถิด เพื่อเดินหน้าอย่างสง่าผ่าเผย

เช่นนั้นแหละ

เวลาไม่ผ่านไปอย่างไร้ค่าหรอก อย่างน้อยมันก็บอกให้เรารู้ว่าค่าของการรอเป็นอย่างไร