เบอร์โทรศัพท์ถือเป็นทรัพย์สินหรือไม่?

สินทรัพย์หรือไม่ ถูกกฏหมายหรือเปล่า ไม่ค่อยมีใครสนใจครับ ถึงแม้จะเป็นสินทรัพย์พวกหากินช่องทางนี้ก็ไม่กลัวกฏหมายต่างๆ

มันเป็นจุดอ่อนของกฏหมายไทยข้อหนึ่งครับ และมันเป็นช่องโหว่และช่องทางหากินของคนบางกลุ่มครับ

เมื่อก่อนต่างประเทศก็มีปัญหานี้เกิดขึ้นกับผู้ใช้เหมือนกันจนต้องออกกฏหมายออกมาปรับเงินหลักแสนและจำคุก(เรียกว่าเอาให้กลัวหัวหดขนลุกกันไปเลย) ปัจจุบันในต่างประเทศผู้ที่จะซื้อซิมการ์ดโทรศัพท์ต้องอายุ18+เท่านั้น(อายุน้อยกว่านั้นพ่อแม่ต้องใช้บัตรประชาชนซื้อให้) และใช้บัตรประจำตัวประชาชนยืนยันเท่านั้นและซิมก็ราคาประมาณ200-1000บาท และ1คนสามารถมีซิมได้แค่1ซิม ถ้าต้องการมีมากกว่านั้นต้องทำอะไรต่างๆหลายขั้นตอนมากๆ(ส่วนมากจะเป็นนักธุรกิจ)

ปัจจุบันไม่มีละครับปัญหาเหล่านี้เพราะต่างประเทศเค้าควบคุมได้แล้ว

แต่ถ้าประเทศไทยยังมีซิมราคา 50 สตางค์(แทบจะซื้อมาหักเล่น)ขายอยู่ละก็ ประเทศเราจะไม่เป็นระเบียบและก็จะเป็นช่องทางหากินของคนบางกลุ่มได้เรื่อยๆๆๆๆ และก็จะมีระเบิดเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา การโทรกวนต่างๆ หรือการเรียกเก็บค่านั่นค่านี้ และอีกหลายๆปัญหา

สาเหตุต่างๆที่เราอาจจะโดนหักค่านั่นค่านี้โดยไม่รู้ตัวเท่าที่ผมรู้และเคยเจอมานะครับหลักๆก็..

- เวลาสมัครสมาชิกเว็ปไซต์อะไรก็แล้วแต่ และมีให้กรอกเบอร์โทรศัพท์

- มีคนเอาเบอร์เราไปใช้ในทางที่ผิด เช่นเอาไปโพสในเว็ป หรืออะไรต่างๆ

- เราไปสมัครสมาชิกบริการอะไรไว้ และบริการนั้นๆมีบริการเสร��มอีกที่ต้องเสียเงิน พวกSMSดูดวง,ข่าว,ผลบอล,ริงโทนต่างๆ และอื่นๆ

และอื่นๆ

วิธียกเลิก คือ โทรไปที่ศูนย์บริการของซิมนั้นๆ แล้วก็ถามพนักงานเกี่ยวกับบริการเสริมทางSMSของเราว่ามีอะไรบ้าง อันไหนที่เราไม่ต้องการก็บอกให้พนักงานยกเลิกบริการให้(บางบริการถ้าจะยกเลิกต้องเสียเงินค่ายกเลิกอีกต่างหาก) หรือบอกไปง่ายๆว่ายกเลิกบริการทุกอย่างที่จะทำให้เราเสียเงินรายเดือน

เป็นครับ

ปัญหาที่เกิดข้างต้นเจ๊เจอมาหมดแล้วคะ

วิธีจัดการนะคะ..ถ้าเผลอกดเข้าไป

ครั้งแรกก้อคงต้องยอมเสียเงินเดือนนั้นไป

แล้วรีบโทรแจ้งยกเลิกบริการนั้นที่ศูนย์บริการลูกค้าของเขาคะ

ส่วนข้อความต่างๆที่ก่อความรำคาญ

ก้อเช่นกันโทรไปที่ศูนย์แจ้งว่าไม่ข้อรับข้อความบริการเหล่านี้

ทั้งสองกรณีคุณต้องจดเบอร์ที่ส่งข้อความมาไว้แจ้งให้เขาด้วยนะคะ

จะมีบางอันที่เขาจะแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการให้ได้เพราะไม่ได้ทำคอนเทคกันไว้

ซึ่งเจ๊ก้อยัง งงอยู่ว่าไม่ได้ทำคอนเทคแล้วเข้ามาใช้สัญญาณกันได้งัยฟะ..

แต่เหตุการณ์จะดีขึ้นตามลำดับคะ..ถ้ายังไม่ดีขึ้น

ไปกรอกแบบฟอร์มที่ศูนย์คุ้มครองผู้บริโภคที่ศาลากลางจังหวัดนั้นๆ

(บางที่จะอยู่ที่ศาลากลาง บางที่ก้อตั้งนอกศาลากลาง

แต่คุณสามารถสอบถามได้ที่กองพัฒนาสังคมจังหวัดถึงที่ตั้งศูนย์คะ)

......โชคดีสำลีแปะหัวคะ...........(เป็นคำลาสมัยวัยรุ่นเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว)

เป็น สักวันจะมีการเอาจริงเอาจังกับเรื่องนี้ (คิดว่านะ)

เป็นทรัพย์สินที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายค่ะ

ดังนั้นถ้าละเมิดต้องเอาผิดได้..แต่ยังไม่มีใครจริงจังสักครั้ง

แต่น่าลองนะคะ