คำว่า เกิดเป็นคนไทย ต้องรู้กฏหมายไทย คุณคิดว่าเด็กไทยควรเรียนรู้กฏหมายตอนไหน?

ตั้งแต่เกิด

คือแรกๆไม่ใช่กฏหมายแท้จริงนะครับ

แต่เป็นกฏในครอบครัว ระหว่างพ่อแม่ลูก

เช่นเวลาไปไหน อย่าร้องจะเอาโน่นนี่ พ่อแม่ไม่ได้ร่ำรวยมาจากการโกง(นี่หว่า)

อย่าเอาก้อนหินปาใส่รถจากสะพายลอย อย่าเอาตะปูแหย่ปลั๊กไฟเล่น

เมื่อไปโรงเรียนอนุบาลหรือ ป.๑ ก็เรียนรู้กฏของการอยู่ร่วมกัน

จะรังแกเด็กเล็กกว่าไม่ได้ จะรวมหัวกัับเพื่อใหม่ตึ๊บคนอื่นไม่ได้

ครูต้องสอน และถ้าเกิดเหตุ ต้องแจ้งเรื่องให้ทางกระทรวงมหาดไทรู้เรื่อง

เพราะเด็กคนนี้ในอนาคตอาจจะกลายเป็นโจร ที่ตั้งเป็นกฏเหล็กแบบนี้

เพราะเด็กเลวส่วนใหญ่ มาจากพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกให้เป็นโจร

เมื่อเรียนชั้นมัธยมต้น ให้รู้ว่าการกระทำเช่นไรผิดกฏหมาย

จะได้ไม่เสพยาเสพติด ไม่พกพาอาวุธ ไม่ลวนลามเด็กผู้หญิง ไม่ลักโขมย

ไม่อยู่นอกบ้านเกิน ๒๒.๐๐นโดยไม่ผู้ปกคร��งอยู่ด้วย

และสอนกฏหมายให้รู้็ด้วย ว่าตัวเองมีสิทธิขอบเขตขนาดไหน

ไม่มีใครมีสิทธิจับต้องหัวเข่าหรือข้อศอกได้ ถ้าเราไม่อนุญาต

ครูไม่มีสิทธิกดดันด้วยวาจา หรือทุบตีเด็กได้

เด็กมีสิทธิโต้แย้ง และแก้ข้อกล่าวหาของครูหรือผู้ใหญ่

เสริม : เด็กก็ต้องรู้ด้วยว่า ถ้าไม่เรียนก็ต้องออกจา่กโรงเรียน

ไปอยู่สถานฝึกงานอาชีพ เพื่อฝึกวิธีการขุดดินทำสวน ฝึกการกวาดถนน

ฝึกการเสิร์ฟอาหาร ฝึกการเป็นลูกมือแม่ครัวฯลฯ

เป็นการเรียน ซึ่งไม่ต้องใช้สมองมากนัก

เราจะได้ผู้ใหญ่ที่ดีในอนาคต จากการที่เขาเลือกรียนสิ่งที่อยากเรียน

และรู้จักปกป้องสิทธิของเขาเอง ไม่มีตำรวจหรือนักการเมืองรังแกเขาได้

เพราะนักการเมืองและตำรวจก็รู้กฏหมายเพระาเรียนมาไล่ๆกััน

จึงไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำผิดกฏหมาย

แรงงานที่เรานึกว่าเป็นแรงงานขั้นต่ำ ก็จะไม่ได้รับการดูถูกเหมือนเมื่อก่อน

พวกเขาจะได้รับเงินเดือนสูง เนื่องจากเป็นแรงงานมีคุณภาพ

เพราะเด็กที่ไปฝึกงาน เป็นเด็กเสิร์ฟ เป็นคนกวาดถนน เป็นผู้ช่วยแม่ครัว

จะได้รับใบรับรองทุกคนที่เรียนจบ เขาก็รู้สิทธิของเขาว่า

เมื่อเขาทำงานตามหน้าที่ เขาย่อมได้เงินค่าชั่วโมงตอบแทนเลี้ยงชีพได้

โดยไม่ต้องไปปล้นเป็นงานอดิเรก ไม่ใช่จบวิชาชีพอะไรแล้ว

ได้เงินเดือน 5 พันบาท เช่นที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

เห็นด้วยครับ..ที่จะต้องมีหลักสูตรการสอนกฏหมายในโรงเรียน

โดยปรับให้เหมาะกับอายุ และ"สิทธิ"ของเขา

และของคนในสังคมรอบตัวของเขาด้วย

ลิ้งค์การแข่งขันตอบปัญหากฏหมายปีนี้ เมื่อ 9 สค.2553 อ่านยากโขดๆเพราะเล็งเอาแต่พื้นหลังเด่น

ทำให้รู้ว่า บางโรงเรียนมีวิชากฏหมายสอนในชั้นมัธยมปลาย แต่น่าเสียดาย

ทำเวบสวยแต่ไร้ข้อมูล

http://www.okkid.net/blog_journal_detail.php?journ...

.

อืม..ก็น่าสนใจนะ ควรจะสอดแทรกเข้าไปในหลักสูตรการเรียน

ตั่งแต่ชั้นประถม อย่างน้อยสอนให้รู้จักสิทธิของตัวเอง และจะได้

รับอะไรบ้าง ซึมซับให้เป็นหลักสูตรในตอนมัธยม ถึงตรงนี้เขาน่าจะ

ได้รู้กฎหมายเบื่องต้น กฎหมายชาวบ้านได้แล้ว //

เป็นมาตั้งแต่เกิดแล้วเพราะมันหัวหมอพอที่จะรู้ว่าไม่ร้องจะไม่ได้ดังใจ โตไปมันก็รู้เองแหละยิ่งตอนนี้ดันเป็นสังคมศรีธนญชัยเข้าไปเรื่อยๆแล้วด้วย

น่าจะเริ่มสอนตั้งแต่เด็ก แบ่งเป็นเรื่อง เช่นกฎหมายจราจร ต้องข้ามทางม้าลาย สะพานข้ามถนน เทศบัญญัติ ให้รักษาความสะอาด อย่าทิ้งขยะ บ้วนน้ำลายที่สาธารณะ พอโตหน่อย ขับรถต้องสวมหมวกนิรภัย ต้องมีใบขับขี่ กฎหมายการล่วงเกินทางเพศ ยาเสพติด พออายุ 18 กฎหมายเลือกตั้ง แพ่ง อาญา การขึ้นทะเบียนและการคัดเลือกทหาร แต่ทุกวันนี้คนไทยถูกบังคับให้รับรู้กฎหมายทุกฉบับในประเทศไทย บางฉบับไม่เคยเห็นหน้าค่าตา แต่ต้องปฎิบัติ นักเรียนทุกระดับตั้งแต่ประถมควรสอนกฎหมายเบื้่องต้น กฎหมายกับชีวิตประจำวันของคนไทย ทุกวันถึงมีทนายมาก และพวกทะแนะก็เยอะ ถึงไม่ได้เรียนทางกฎหมายถ้าเรารู้น่าจะเป็นทนายแก้ต่างให้ตัวเองได้ ไม่ต้องเสียเงิน

กฏหมายไทย...อ่อนเกินไป ไว้ใช้สำหรับรังแกคนไม่มีทางสู้

และเอื้อประโยชน์ให้กับพรรคพวกตน มากกว่านะ เอาเถอะ

เมืองไทยมีดีทุกสิ่ง ยกเว้นสิ่งเดียวคือ มีนักการเมืองไทยอยู่

คงจะเรียนรู้ลำบากขนาดผิดเห็นๆยังตะแบงให้ถูกได้เลย มันคงต้องขึ้นอยู่ว่าเป็นคนของใคร...

ความสงสัยลักษณะนี้ เกิดขึ้นในจิตใจมานานแล้วเหมือนกัน และก็เฝ้าสังเกต ติดตามดูวิธีการให้ความรู้ทางด้านกฎหมาย ของบ้านเมืองเรา โดยรวม คิดว่ามีน้อยเกินไป ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทางด้านนี้ เช่น อัยการ ผู้พิพากษา ทนายความ ที่มีการจัดตั้งเป็นองค์กรวิชาชีพทางด้านกฎหมายต่างๆ ควรจะเป็นกำลังสำคัญในการเผยแพร่ความรู้ทางด้านกฎหมายให้กับสังคม เพื่อพัฒนาความรู้ ความเข้าใจ ในการบังคับใช้กฎหมาย ในการปฏิบัติตนในชีวิตประจำวันที่ไม่เป็นการกระทำที่ผิดต่อกฎหมาย จนถือเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันเลย น่าจะช่วยลดปัญหาดังกล่าวได้ระดับหนึ่ง