เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล สำนวนนี้มีความหมายอย่างไร ?

วันนี้มาน่ากลัวจัค่ะพี่tid

ในสังคมปัจจุบัน ซึ่งเราจะพบว่า มีเจ้านาย หรือเจ้าของกิจการที่อยากให้คนมาช่วยงาน ก็จะพูดจาดี ยอมจ่ายค่าตอบแทนอย่างแพง จ้างเขามาเพื่อให้ได้งาน แต่เมื่อหมดความต้องการแล้ว ก็ผละทิ้งโดยไม่ต้องรับผิดชอบอีกต่อไป มากยิ่งกว่านั้น ถ้าเห็นเขามีความสามารถที่สักวันพร้อมจะกลับมาเป็นคู่แข่งได้ ก็จะต้องหาทางทำลาย หรือหยุดโอกาสของเขา ทำให้เขาไม่มีโอกาสเจริญก้าวหน้าต่อไป

"Butcher the donkey after it finished his job on the mill." ฆ่าลาเมื่อเสร็จงาน (โม่แป้ง) ซึ่งจะตรงกับในภาษาไทยที่ใช้คำพังเพยที่ว่า "เสร็จนา ฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" เขาเอ่ยเป็นคำเตือนใจในการทำงานว่า ให้รู้จักเลี้ยงดูคน ให้่รางวัลแก่คนที่เขาได้ทำงานช่วยเหลือตน แม้จะหมดภารกิจนั้นๆ แล้ว ก็ต้องมีความระลึกถึงความดีต่อกัน ไม่ไปทำร้ายเขา แต่ตรงกันข้ามต้องแสดงน้ำใจตอบ ความเป็นคนเอื้ออารีตอบต่อผู้คนที่เขาได้ช่วยงานตนนั้น ไม่ว่าจะเป็นลูกน้อง หรือลูกจ้าง เป็นคุณธรรมที่สำคั คนที่ทำดีนั้นควรจะได้ีดี และการส่งเสริมคนที่ทำดีมีประโยชน์นั้น แม้คนๆ นั้นจะไม่มีประโยชน์โดยตรงกับเราต่อไป แต่ความระลึกถึงคุณความดีของเขาและให้การตอบแทนอันควรนั้น จะสร้างคุณค่าส่งเสริมให้คนเห็นความสำคัของการทำดี

เหมือนนักการเมืองปัจจุบันหรือเปล่าค่พี่tid น้องจบดีกว่า

การทำนาในสมัยก่อนใช้แรงงานคนและแรงงานสัตว์ เช่น วัว ควายเป็นตัวช่วย เป็นกำลังสำคัญของการทำนา เช่นเดียวกับการทำศึกสงครามที่ต้องแม่ทัพ ทหารเก่ง ๆ เป็นหัวใจหลักในการต่อสู้ แต่เมื่อเราซึ่งเป็นผู้รับผลประโยชน์ ( เช่น เจ้าของที่นา / พระเจ้าแผ่นดิน ) ได้บรรลุวัตถุประสงค์แล้ว สำเร็จแล้ว ก็ไม่ตอบแทนอะไรกับคนที่ทำงานให้กลับกำจัดเสีย เขี่ยให้พ้นทาง ซึ่งอย่างในกรณีขุนพล คงไม่มีใครสั่งกำจัดได้นอกเหนือจากผู้ปกครองแผ่นดินซึ่งเหมือนกับเป็นเจ้านายขุนพลอีกที

การที่เค้าทำเช่นนี้เพราะไม่ต้องการเลี้ยงดูปูเสื่อ ไม่ต้องการตอบแทนความดีอะไร ถ้าหากจะใช้ใคร ทำอะไรก็ค่อยเลือกขึ้นมาใหม่

ถ้ามีทีมงานทำต้องดูว่าทีมนั้น ทำเองหรือเปล่า รึทำตามคำสั่ง ถ้าทำตามคำสั่งก็เข้าข่าย เสร็จศึกฆ่าขุนพลอยู่ดี ถ้าทีมงานทำเอง เขาเรียกตัดแข้ง ตัดขา กำจัดที่หนึ่งซะ ที่สองของเขาจะได้แทนที่

ก็ธรรมดาของวัวที่อยู่กับเจ้าพระยานาน้อยกระจอกจ้อยร่อย ไม่จำเป็นต้องมีวัวหลายตัว ทุกหน้านาแม่วัวทะยอยออกลูก มีวัวหนุ่มไถแทนหน้านาต่อไป วัวแก่ก็แกงกินเลี้ยงหรือขายเนื้อเสีย ชีวิตภาคแรกเรียนเป็นวัวไถนาตามประสานักวิชาการทาสหลอกเราให้คิดเป็นเจ้าคนนายคน จนเป็นได้แค่วัวไถนาแล้วฆ่าแกง

คนรุ่นล่าสุดเขารู้จักชีวิตภาค 2 เรียนใหม่ไม่เป็นทั้งวัวทั้งเจ้าของนา เป็นคนกล้าบ้ามหาคุณแหกคอกระบบคิดเ่ก่า สังคมศาสตร์ที่อาจารย์มหาวิทยาลัยรู้จักไม่ใช่ของจริง เป็นวิชาประดิษฐ์ จะไปเอานิยายอะไรกับมัน สังคมศาสตร์เป็นธรรมชาติ ดูต้นไม้ในป่านั่น ยิ่งอยู่กันมาก ๆ ยิ่งอุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องแก่งแย่งยกพวกฆ่ากัน พวกมันไม่ยักจบฮาวาร์ด หรือ อ๊อกฟอร์ด: http;//www.perfspot.com/AesopMice

ทะเลาะกะเจ้านายมาป่าว? ทั้งสองคำถาม เหมือน มีไรกดดัน ในใจ???????????

เสร็จนาฆ่าโคถึก ก็คงต้องรออีกหลายเดือน กว่า จะใช้งานเจ้าโคตัวนี้ ถ้าส่งไปเกิดซะ

จะได้ไม่มีภาระ เลี้ยงดู ฤดูนา ใหม่ ค่อยหาโคตัวใหม่..

เสร็จศึกฆ่าขุนพล ตามไปอ่านข้างบนเหมือนกัน.... แฮะ แฮะ อย่า เครียดน่า

เดี๋ยว เหตุการณ์ นี้ มันก็จะผ่านไปได้เอง ให้คิดว่า เป็นบททดสอบ ความเข้มแข็ง ของจิดใจคุณแล้วกันน่ะ

....ถ้าคุณ ไม่ใส่ใจมาก หมายถึง คุณชนะ

เอาตรงๆนะคุณ ไม่ชอบอ้อมค้อม

ก็แค่ใช้มันทำงานให้เสร็จ แล้วเชือดทิ้งซะ ก็เท่านั้นเอง...ง่ายๆจ้า...

สำนวนนี้ คาดว่าน่าจะมาจาก เรื่องสามก๊ก เข้าใจว่า เมื่อหมดประโยชน์ก็ไม่จำเป็นต้องใช้อีก

"เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" แปลว่า การละทิ้ง ปล��¹ˆà¸­à¸¢à¸›à¸¥à¹ˆà¸° ละเลย ไม่เลี้ยงดู ไม่รู้จักให้รางวัล ไม่มีความระลึกนึกถึง แก่บุคคลที่เคยทำงานให้ ที่ได้ช่วยเหลือตนเอง เมื่อหมดประโยชน์หรือภารกิจงานนั้นๆ แล้ว

ซึ่งยกตัวอย่างมาจากประวัติปฐมจักรพรรดิ์ราชวงศ์หมิง จูเหยียนจาง ถึงกับก่อตั้งหอจัดเลี้ยงขึ้นมาหอนึงแล้วหลอกให้ขุนทัพของตัวเองเข้าไปกินเลี้ยงในนั้นแล้วก็จุดไฟเผา ขุนทัพของตัวเองทั้งหมด แม้แต่ น้องร่วมสาà¸��านขุนพลคู่ใจอย่างฉีต๊ะ ก็ถูกจูเหยียนจาง กำจัดไปในภายหลัง เรียกว่า "เสร็จนาฆ่าโคถึก เสร็จศึกฆ่าขุนพล" อย่างชัดเจนเลยค่ะ