คนโง่ไม่รู้รสสุภาษิต?

ยังมีความโง่ที่โง่ยิ่งกว่านั้นอีก คือโง่จนถึงขนาดที่ไม่มีปัญญาตั้งคำถามให้เป็นประโยคคำถาม โง่จนน่ารังเกียจน่ารำคาญแถมยังผิดข้อควรปฎิบัติในชุมชนอีก

ความไม่รู้ ไม่ลึกซึ้งกับเรื่องใด

ไม่ควรเรียกเขาว่าคนโง่ค่ะ

คนโง่คือคนที่ชอบเหยียดหยามคนไม่รู้ค่ะ

เพราะคนเราไม่สามารถรู้และไม่รู้ไปหมดทุกเรื่อง...

คนโง่ที่รู้ตัวว่าโง่ ยังพอเรียกได้ว่าเป็นคนฉลาดอยู่บ้าง

อิอิ สงสัยตอนนี้คงมีคนโง่เต็มบ้านเต็มเมืองไทยแล้วหละครับ เพราะเด็กวัยรุ่นสมัยนี้

หลายคนเชื่อว่าไม่รู้ในเรื่องของสุภาษิตไทย แต่ก็เอาเถอะครับ การไม่รู้ไม่ถือว่าโง่

การไม่รับรู้ต่างหากที่เรียกว่าโง่

สำหรับสุภาษิตไทยนั้นเป็นเรื่องของ กุศโลบายของคนโบราณที่ใช้ในการเปรียบ

เปรยหรือเปรียบเทียบ เรื่องราวที่เกิดขึ้น ซึ่งสามารถนำมาเป็นแง่คิดได้เป็นอย่างดี

แต่ก็น่าเสียใจที่ เด็กวัยรุ่นหรือคนหลายคนในสังคมไม่ได้นำเอาสิ่งเหล่านี้มาใช้

แต่ที่น่าเสียใจ ที่มีการเอามาดัดแปลงให้เกิดการวิบัติของสุภาษิตเข้าให้อีก เพราะ

เคยเห็นเด็กๆเอาสุภาษิตมาเล่นกัน คือ เข็นครก (ขึ้นภูเขา) แต่เจาจะบอกว่าเข็ญครก

ทำไมเนี่ย ว๊า..โง่จัง / คางคก(ขึ้นวอ) เป็น คางคกขึ้นไอติม ขี่ช้างจับตั๊กแตน เป็น

ขี้ช้างจับแน่นๆนะน้อง เป็นต้น

สุภาษิต แปลว่า ถ้อยคำ หรือสำนวนที่เปรียบเปรยให้รู้ ซึ่งสืบเนื่องมาแต่โบราณ

คนโง่ คือ คนที่ไม่รู้

รส คือ สิ่งที่แสดงให้รับรู้สัมผัสได้

แปลอีกทีนะครับ คือ คนที่ไม่รู้หรือสัมผัสไม่ได้ ในถ้อยคำสำนวน

ผมว่าก็ยังไม่สามารถไปชี้ชัดว่าบุคคลคนนั้นเป็นคนโง่นะ เพราะคนฉลาดก็พัฒนามาจากคนโง่ เพราะเดิมทีคนฉลาดก็ไม่รู้อะไรมาก่อนเหมือนกัน แต่ที่รู้ก็รู้ได้มาจาก เวลา การศึกษา การค้นคว้า และการพิสูจน์

พี่ป๊อกถามอิหยัง เราไม่เข้าใจ สงสัยเราจะโง่

สั้นเกินไป จนงงครับ

คนโง่ หรือ ฉลาด ก็ไม่อาจ "รู้รส" สุภาษิต ก็มันไม่ใช่ของกินได้ซะหน่อย หุ หุ

เท่าที่เคยได้ยิน สุภาษิตจีน เคยได้ยินอย่างนี้ค่ะ "คนโง่ไม่รู้สุภาษิต คนฉลาดสร้างตัวแม้ไร้เงิน" ...^_^

คนโง่ไม่รู้สุภาษิต คนฉลาดสร้างตัวแม้ไร้เงิน

คนโง่ถามปัญหาหนึ่งนาที คนฉลาดคิดทั้งที่ตอบไม่ได้

คนโง่สะสมเงิน คนฉลาดใช้ให้คุ้มค่า

คนดีมีน้อย คนถ่อยมีมาก

คนชอบเขาว่าเราดี คนชังเขาว่าเราชั่ว

คนฉลาดต้องรู้ว่าตนเองโง่

คนฉลาดไม่พูดมาก คนโง่พูดเป็นฉากๆ

คนใจแคบกังวลทุกเรื่อง คนใจกว้างยอมรับไปทั่ว

สุภาษิต จีนกล่าวไว้ค่ะ..อยากเป็นเช่นไรก็ต้องคิดพิจารณาค่ะ และเลือกที่จะคิด ไม่มีใครถูกผิด แต่อยู่ที่ใครมองมุมใดค่ะ

สุภาศิตจีนกล่าวไว้ว่า = 1.ไม้คดใช้ทำขà��­ เหล็กงอใช้ทำเคียว แต่ คนคดเคี้ยวใช้ทำอะไรไม่ได้เลย

彎曲木用於煉鋼使用一個本地彎但不使用它的繞組。

2. เมื่อ นักการฑูตพูดว่า "ใช่ หรือ อาจจะ" เขามีความหมายว่า "อาจจะ" เมื่อนักการฑูตพูดว่า "อาจจะ" เขามีความหมายว่า "ไม่" เมื่อนักการฑูตพูดว่า "ไม่" เขาไม่ใช่นักการฑูต เพราะนักการฑูตที่ดีจะไม่ปฏิเสธใคร