Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

? ถามใน ครอบครัวและความสัมพันธ์ครอบครัว · 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

เคยอยากกลับไปในวัยเด็กๆกันมั๊ยเพราะอะไร?

9 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 1 ทศว��รษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    อยากกลับเป็นวัยเด็ก

    สนุกสนาน ไร้เดียงสา

    ออด อ้อน ทำได้สารพัด ค่ะ

  • ?
    Lv 6
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    อยากกลับไปอยู่ในช่วงวัยรุ่น วุ่นรัก มากกว่า ชีวิตช่วงนั้นดูเป็นสีชมพูไปหมด ทำอะไรก็ดูดี ดูน่ารัก น่าให้อภัยไปซะทุกอย่าง

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เพราะ อย่างนี้ไงคับ...โดน

    แก่ที่สุด

    ถ้านับเฉพาะนักเรียน และไม่รวมผอ. ครูอาจารย์ นักการภารโรง

    ม.6 ก็ต้องแก่ที่สุดในโรงเรียนแน่นอน

    แต่จะแก่ความรู้หรืออยู่นาน

    อันนี้ต้องแล้วแต่ตัวบุคคล

    .

    2

    เครียดทีสุด

    บางคนบอกว่า Entrance ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิต

    แต่ สำหรับ ม.6

    ถึงไม่ใช่ทั้งหมด ก็ เข้าใกล้ทั้งหมดเหมือน

    limit เข้าสู่ x ไม่ใช่ x แต่เข้าใกล้ x ยังไงหยั่งงั้น

    ไหนจะบรรดาครูอาจารย์ ญาติโกโหติกา พ่อแม่พี่น้อง เพื่อนฝูง

    ที่คอยให้กำลังใจ(เชิงกดดัน)อีก

    ม.6ไม่เครียดก็แปลกแล้ว

    .

    3

    ขยันที่สุด

    อยากสูงต้องเขย่ง อยากเก่งต้องขยัน

    เมื่อเครียด อยากเอนท์ติด

    แล้วมานั่งแต่งฟิก วาดรูป สูบอาร์ต เนี่ย มันจะติดมั้ย

    ม.6 มันก็ต้องขยันเซ่

    อ่านเข้าไปๆๆ อ่านให้ตายๆๆ^^

    .

    4

    เก่งที่สุด

    เนื่องจากแก่

    จึงมีโอกาสถูกยัดความรู้ใส่หัวมากกว่าบรรดาศิษย์น้อง

    เนื่องจากขยัน

    กรรมดีนั้นจึงตกอยู่กับผู้กระทำ

    .

    5

    ชีพจรลงเท้าที่สุด

    หมายความว่า มีอันจะต้องเดินทางบ่อยมากๆ

    +ไม่ว่าจะงานราษฎ์

    ไปสอบรับตรงที่แต่ละคณะ ขยันเปิดสอบ

    +ไม่ว่าจะงานหลวง

    ไปสอบแข่งขันทางวิชาการ

    เลยไม่เป็นอันได้อยู่บ้าน และไม่ได้ไปร.ร.กัน

    .

    6

    เรียนพิเศษเยอะสุด

    เมื่อมาถึงม.6แล้ว

    ก็แทบจะเรียนไม่ทันการสอบที่มีมากมายกัน

    แต่ละคนจึงเรียนพิเศษกันอย่างขันแข็ง

    เพื่อจะได้ทันสอบ

    หมดกันไปคนละหลายบาท

    แต่ยังไงเราก็ยังยอมทุ่มทุน

    .

    7

    สิวเยอะที่สุด

    เรื่องสิวๆ ที่ไม่ใชà��ˆà¹à¸„่สิว

    เพราะมันเป็นดัชนีบ่งชี้ความเครียดที่เพิ่มมากขึ้นของม.6

    ด้วยเรื่องนู้น เรื่องนี้ที่ประดังประเดเข้ามา

    ไหนจะเวลานอนที่บั่นทอนไปอ่านหนังสือ

    หน้าบางคนที่เคยใสเลยสิวขึ้นได้่ง่ายๆ

    .

    8

    ตื้นเต้นที่สุด

    ตื่นเต้นอะไรหรือจะสู้ รู้ผลเอนท์

    ม.6ย่อมต้องอยากรู้อยู่แล้ว

    ว่าที่ลงทุนลงแรงไปทั้งหมดน่ะ

    เพียงพอจะซื้อ ประตูสู่อนาคตที่สดใสรึเปล่า

    ตอนประกาศผลรับตรงนี่

    ถึงกับกินข้าวไม่ลงกันเลยทีเดียวเชียว

    .

    9

    บ้ากล้องที่สุด

    อันนี้คิดว่าเป็นทุกคน

    พอใกล้จะเรียนจบ เราก็อยากเก็บความทรงจำดีๆเอาไว้

    ไหนจะรูปสถานที่ต่างๆในร.ร.

    ไหนจะรูปเพื่อน รูปครู

    เพราะไม่รู้จะเจอกันอีกเมื่อไหร่

    เลยต้องระดม ถ่ายๆๆๆๆๆ

    ประมาณว่า มูลค่ากล้องถ่ายรูปทั้งสายชั้นรวมกัน

    แทบจะสร้างห้องสมุดใหม่ให้ร.ร.ได้

    (อันนี้ก็เวอร์ไป)

    .

    10

    แอ๊บแบ๊วที่สุด

    เมื่อ แก่ มาก

    และอยาก ถ่ายรูป มาก

    ก็เลยต้อง แอ๊บ มาก

    เพื่อให้ แบ๊ว มาก

    .

    11

    ซาบซึ้งที่สุด

    งานปัจฉิมนิเทศน์ คงจะรู้กันดี

    ว่า [วินาทีที่จุดจบของอดีตและจุดเริ่มของอนาคตเดินทางมาบรรจบกัน] นั้น

    บรรยากาศมันซาบซึ้งใจ แค่ไหน

    .

    12

    รัก (เพื่อน- ครู - ร.ร.)ที่สุด

    คนเรามักจะรู้ค่าสิ่งใกล้ตัวที่มีอยู่ ก็ต่อเมื่อกำลังจะเสียมันไป

    เพราะว่า จะไม่มีอีกแล้ว

    ถึงได้รู้ว่ารักมากแค่ไหน

    ร.ร.ที่เคยบ่น ก็รู้สึกภาคภูมิ

    อาจารย์ที่เคยนินทา ก็ได้รู้สึกเคารพ

    เพื่อนที่เคยทะเลาะ ก็ได้คืนดี

    เพราะ จะไม่มีอีกแล้ว

    จึงต้องรักษาช่วงเวลาสุดท้าย ให้กลายเป็นความทรงจำที่ดี

    .

    13

    ...คิดถึงที่สุด...

    เพราะรัก จึงคิดถึง

    ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥ ♥

    ไม่มีแล้ว...

    ไม่มีแล้วหัวเกรียนที่เคยตัด

    ไม่มีนัดลอกการบ้านแต่เช้าตรู่

    ไม่มีแล้วไหว้พระหน้าประตู

    ไม่มีคู่นั่งข้างยามเข้าเรียน

    ไม่มีแล้วเสียงหมดคาบที่ดังก้อง

    ไม่มีร้องเพลงชาติแต่เช้าตรู่

    ไม่มีแล้วคนที่คอยประจบครู

    ไม่มีผู้ตบหัวเวลานอน

    ไม่มีแล้วเครื่องแบบที่ภูมิใจ

    ไม่มีใครชวนไปยามปวดฉี่

    ไม่มีแล้วเข้าห้องน้ำนานเป็นปี

    ไม่มีที่ที่เรานั่งข้างกัน

    ไม่มีแล้วเพื่อนฝูงที่เฮฮา

    ไม่มีลาก่อนกลับว่าโชคดี

    ไม่มีแล้วคนที่เรียนด้วยเป็นปี

    ไม่มีชี้ว่านั้นอาจารย์มา

    ไม่มีแล้วคาบว่างอันแสนสุข

    ไม่มีมุกที่ยิงกันกระหน่ำ

    ไม่มีแล้วโต๊ะเก้าอี้ที่ประจำ

    ไม่มีทำเวรห้องตลอดไป

    ไม่มีแล้วห้องเรียนอันอบอุ่น

    ไม่มีลุ้นข้อสอบจนตัวสั่น

    ไม่มีแล้วกินข้าวกันตอนกลางวัน

    ไม่มีมันเหมือนทุกวันที่เคยเจอ

    ต่อไปนี้จะมีแต่...

    มีแต่ต้องจากกันตามความฝัน

    มีแต่วันต้องไกลหมื่นแสนก้าว

    มีแต่ได้พบกันเป็นครั้งคราว

    มีแต่หนาวเมื่อได้คิดถึงกัน

    มีแต่ผู้แบ่งเบางานพ่อแม่

    มีแต่แคร่คู่ชีวิตที่เลือกไว้

    มีแต่ผู้รักลูกอย่างใส่ใจ

    มีแต่ให้ความสำคัญกับครอบครัว

    มีแต่คนคิดถึงกันตลอด

    มีแต่กอดจากใจแม้ไกลห่าง

    มีแต่โทรหากันเมื่อยามว่าง

    มีแต่ทางที่เราต่างเลือกเดิน

    ลาก่อนนะ ม.6

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    อยากกลับค่ะ ทุกวันเลย

    จะได้ไม่ต้องคิดอะไรมาก

    ร้อนๆแบบนี้จะไปโดดน้ำให้ชุ่มปอดเชียว

  • Singha
    Lv 6
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เคยครับ เพราะเวลาที่ผ่านมา 20 ปี ช่างไร้สาระเสียจริง

    จะไปเก็บเวลานั้น แล้วทำทุกอย่างที่ตัวฉันทำได้

    แต่มันก็สายไปแล้วใช่ไหม แต่ก็ใช่ว่าเลยบ่ายคล้อย

    เวลาของวันนี้ จะไม่สูญเปล่าอย่างเช่นผ่านมา

    กว่าจะพบนิทราของยามราตรียังมีอีกมากมาย

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ไม่เคยอยากกลับไปเลย..ในวัยเด็กจนถึงวัยรุ่นผมทำสิ่งชั่วๆร้ายๆเอาใว้มากมาย..หากกลับไปสู่วัยเด็กอีกความไม่รู้ความไม่มีความรับผิดชอบมันคงติดตามไปให้ทำสิ่งเหล่านั้นซ้ำอีก..หากกลับไปและเอาความคิดความรู้สึกตอนนี้ไปด้วยใด้ผมคงอยากกลับไปมาก..แต่หากกลับไปแล้วความคิดตอนเป็นเด็กกลับไปด้วยคงไม่อยากกลับไปเป็นเด็กอีก..

  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เคยค่ะ..บ่อยๆด้วย...เพราะต้องการหาความบันเทิงให้ชีวิต

    ตอนเด็กๆหลายอย่างเราไม่มีโอกาศได้ทำ...หลายเรื่อง

    มักจะทำบางอย่างแบบเด็กๆเวลาเข้าห้องนอนส่วนตัว

    เช่นเล่นเกมส์,เล่นเนต,เอาของเล่นสะสมมานั่งชื่นชม

    ถ้าออกไปนอกบ้านชอบไปดูตุ๊กตา..ของเล่นเด็กที่เราไม่เคยเล่น

    หรือไม่ก็ไปดูหนังที่ชอบ(คนเดียว)....หนังการ์ตูนก็แอบซื้อà¸��าดูคนเดียวบ่อยๆ

  • komet
    Lv 7
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ไม่อยาก เพราะช่วงวัยเด็กใครๆๆก็ไม่รัก..

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เคยครับ เชื่อว่าใครๆ ก็ต้องเคย

    พี่ป้าง ยังเคยออกเพลง ชื่อ "อยากเด็ก"-ป้าง นครินทร์ กิ่งศักดิ์

    เขาบอกเหตุผลว่า

    เด็ก: สุขเหลือเกิน, วันทั้งวันไม่เคยต้องคิดอะไร, มีความสุขแท้ไม่ต้องตอแหลใคร

    ผู้ใหญ่: เบื่อเรื่องราววุ่นวายหนักหนา, ต้องเจอแต่เรื่องเลวๆ , ยิ่งแก่ยิ่งฝ่อ, จิตใจมันคอยจะหลง, กลัววันสุดท้ายกลายเป็นคนหลงทาง

    แต่ก่อนเคย คงไม่หนีไปจากในเพลงนัก แต่ปัจจุบันเลยวัยรุ่น เลยวัยหลังวัยรุ่นแล้ว

    เห็นแล้วว่า วัยเด็กก็ใช่ว่าดี เพราะมันแค่สุขง่าย สุขไปตามกิเลส แต่มันจะสุขจากการห้ามตัวเองได้เนี่ยมันยากมาก

    ไม่เหมือนผู้ใหญ่ ที่หากห้ามตัวเองจากกิเลสได้ ก็รู้สึกสุขได้

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้