Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

ใครรู้จักวิธีดูแลกิ่งเหมยฟ้าบ้าง?

ซื้อมาจากตลาดนัด เป็นแค่กิ่งไม้แห้งๆ คนขายบอกว่าเป็นไม้มงคลมาจากเมืองจีน แค่แช่น้ำไว้แล้วเปลี่ยนน้ำแค่อาทิตย์ละ 1 ครั้งก็พอ ไม่ต้องใส่ปุ๋ย อยู่ในที่ร่ม สลับแดดได้ เราก็เลยซื้อมาลองดู ตอนเอามาเลี้ยงเดือนแรกมันก็ออกดอกออกใบดีอยู่ แต่เดือนถัดมาออกแต่ใบ ไม่มีดอกเลย แถมบางยอด ใบกำลังจะผลิก้กลับแห้งซะงั้น ( พอเด็ดใบแห้งออก ยอดนั้นก็จะมีใบใหม่ผลิออกมาอีก ) ทำไงดี ที่จะให้ออกดอก ผลิใบได้เหมือนเดิม

3 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    ไม้พวกนี้คือไม้ที่อยู่ในเมืองจีน จะเอามาปลุกในเมืองไทย โดยหวังว่าไปซื้อกิ่งมาแล้ว

    ทำการปักชำ ไงก็คงไม่ติดครับ การขยายพันธุ์ไม่สามารถทำได้ในเมืองร้อนอย่างประเทศ

    ไทยครับ แต่สิ่งที่เขาเอามาขายนั้น เขาเป็นประเทศที่หนาว การตัดกิ่งออกมาทำการขาย

    นั้นเ��าจะผ่านกระบวนการฟรีซ กิ่งนั้นมา โดยมันจะเป็นการกระตุ้นเซลล์นั้นให้ยังคงมี

    ชีวิตรอดครับ ซึ่งเมื่อส่งมาเมืองไทย เซลล์ที่ไม่ตายก็เริ่มทำงานแตกดอกออกใบ ได้ไป

    ในระยะนึง แล้วก็หมดไปครับ ส่วนจะอยู่ได้นานหรือไม่ ก็ต้องจำลองสถานการณ์ให้เหมือน

    กับการคงอยู่ตามธรรมชาติที่ประเทศของเขาครับ

    ไงก็หากไม่ออกดอกออกใบแล้วก็ ทิ้งเถอะครับ ไปซื้อมาใหม่ แต่หากซื้อมาแล้วถนอม

    ให้อยู่ได้นานๆก็เอาไว้ในที่เย็นหน่อยประมาณ4-6องศา หรือเท่ากับอุณหภูมิช่องแช่ผักครับ

    แล้วค่อยเอามาแช่น้ำ เมื่อใยเริ่มโรยก็เอาเช้าตู้เย็นใหม่อีกรอบ..ทำซ้ำๆได้สองสามครั้งครับ.

    แหล่งข้อมูล: ป๋าไก่ สมาร์ทตี้-จี
  • ?
    Lv 5
    1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    เขาชอบอากาศเย็นคะ..เจ๊ก็เคยซื้อมา

    แต่ของเจ๊อยู่ได้ประมาณหกเดือน..ไว้ในห้องแอร์

    ก็จะเหลือแต่กิ่งอย่างเดียว

    เจ๊เข้าใจว่าเขาน่าจะเหมือนโกสน

    ถ้าแช่น้ำจะอยู่ได้ระยะหนึ่ง..

    แต่โกสยเราสามารถนำลงดินได้เมื่อมีรากเกิด

    แต่สำหรับกิ่งเหมยไม่มีรากคะ..

    แหล่งข้อมูล: เจ๊
  • 1 ทศวรรษ ที่ผ่านมา

    ต้นเหมย (Ume) หรือบ๊วย ถูกนำมาปลูกที่ญี่ปุ่นจากจีนเมื่อหลายศตวรรษก่อน มีทั้งดอกที่สีสวย และกลิ่นหอมเย็น แต่

    ผลบ๊วยจะมีรสเปรี้ยว จึงนิยมนำไปแปรรูปเป็นบ๊วยดอง (Ume boshi) หรือประกอบอาหาร อาทิ ข้าวปั้นห่อสาหร่ายรูปทรสามเหลี่ยม สอดไส้บ๊วยดอง (Onigiri)หรือสกัด เป็นเครื่องดื่มรสหอมหวานก็อร่อยดี บ๊วยจึงมีบทบาทสำคัญต่อวัฒนธรรมการ

    กินของชาวญี่ปุ่นมาก มีหลายหลากสายพันธุ์ ทั้งดอกชั้นเดียว ดอกซ้อน (Yae Ume) และดอกย้อย (Shidare Ume) กลีบ

    ดอกบ้วยประกอบด้วย 5 กลีบ สีขาว ชมพูอ่อนหรือเข้ม ซึ่งจะส่งกลิ่นหอมเย็นกว่าดอกซะคุระ

    แหล่งข้อมูล: http://fasaiclub.com/simple/?t47.html
ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้