ถ้าผ้าขาวหมองคล้ำเป็นสีเทาไปแล้วจะทำอย่างไร?

วิธีแรก..

ผ้าที่เก็บไว้นานจนมีสีหมองคล้ำหรือเหลือง แก้ไขได้โดยเอาน้ำยาล้างจานชนิดใช้กับเครื่องล้างจาน 1 ถ้วย ผสมกับผงฟอกขาว 1 ส่วน 4 ถ้วย ตีให้เป็นฟองในน้ำ เอาผ้าลงแช่สักชั่วโมงแล้วซักตามปกติ น้ำสุดท้ายเติมน้ำส้มสายชูลงไปสัก 1 ส่วน 2 ถ้วย จะทำให้ผ้าขาวสะอาดน่าใช้ยิ่งขึ้น

อีกวิธีกับการทำผ้าขาวที่มีสีมอๆเหลืองๆให้กลับขาวขึ้นคือ เมื่อซักผ้าตากจนแห้งแล้ว ให้ใช้นมสดทาบริเวณที่เป็นสีเหลืองแล้วนำไปซักตากแดดอีกครั้ง สีเหลืองหรือสีมอๆจะค่อยๆจางหายไป

วิธีที่สอง...

คราบเหลืองบนเสื้อขาว

เคล็ดลับในการขจัดคราบวันสุดท้ายนี้ เราก็มีเคล็ดลับในการขจัดคราบเหลืองบนเสื้อสีขาวมาฝากค่ะ

คราบที่เกิดจากการเก็บผ้าไว้ในตู้เป็นเวลานานๆ หรือมีฝุ่นจับ ให้นำผ้าไปต้มน้ำโดยเติมโซดาไบคาร์บอเนตหรือที่เรียกกันว่า "เบ็กกิ้งโซดา" ลงไป แล้วจึงนำมาซักด้วยวิธีธรรมดา คราบสกปรกจะหายไป แล้วคุณก็จะได้เสื้อขาวปิ้งเหมือนใหม่กลับคืนมา

เป็นอย่างไรคะ เคล็ดลับในการขจัดคราบทั้ง 10 คราบ ล้วนแต่เป็นวิธีที่ง่ายแสนง่าย แล้วอุปกรณ์ในการขจัดคราบก็หาได้ไม่ยาก มีเคล็ดลับดี ๆ แบบนี้อีกเมื่อไร เราจะประมวลมาฝากกันอีกนะคะ...

ลองแช่กับน้ำผสมผงซักฟอกสักพักใหญ่ ๆ แล้วนำขึ้นต้มบนเตาสักสิบนาที จึงนำมาขยี้ค่ะ

เพราะสมัยก่อนเวลาซักผ้าสีขาวจะใช้วิธีนี้ค่ะ

เราว่า ลอง"ต้ม"ผ้าขาวนั้นกับ"น้ำส้มสายชู"ไหม ผสมครึ่งต่อครึ่งเลย พอเดือดก็หมั่นกลับผ้านั้นไปมาให้ทั่วถึง..

ทิ้งไว้ให้เเย็น แล้วซัก ด้วยผงซักผ้าหรือน้ำยาซักผ้าอีกครั้ง..

ได้ผลอย่างไร แจงด้วยเด้อค่า..

คำถามคราวก่อน เรื่องปลาฉลาม ผมหาข้อมูลให้อ่านน้อยไปหน่อย งั้นคราวนี้ ลองไปที่นี่

http://www.xmission.com/~westra/greyshir.html <<< ข้อมูลเพียบ 555 หรือไปที่

http://uk.answers.yahoo.com/question/index?qid=201...

http://www.thebudgetfashionista.com/archive/how-to...

ในกรณีนี้คงไม่มีอะไรที่จะดีไปกว่าการใช้ "นํ้ายาฟอกขาว" หรือ "คราม" ไปได้หรอกครับ

เพราะ "นํ้ายาฟอกขาว" จะเป็นสารเพิ่มความสดใสของผ้าที่ในสารซักฟอกส่วนใหญ่ทั่วไปก็มักจะมีสารนี้ผสมมาด้วยเสมอ แต่ปัจจุบันได้มีการทำแยกไว้เพื่อให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจได้มากยิ่งขึ้น และถ้าเป็นผ้าขาวที่เราต้องการให้ดูสดใสมากยิ่งขึ้นไปอีก เราก็ต้องใช้ "คราม" นี่ล่ะ เข้ามาเป็นตัวช่วย ซึ่ง "คราม" นี้เองก็จะเป็นสารเคมีชนิดหนึ่งด้วยเช่นกัน แต่เมื่อผู้ถามมีเงื่อนไขว่า อยู่ที่มัลดีฟหา"นํ้ายาฟอกขาว" กับ "คราม" มาใช้ไม่ได้เลย ก็คงต้องพึ่ง "นํ้าส้มสายชู" กันแล้วล่ะ และคงจะบอกว่าไม่มีอีกก็คงจะไม่ได้แล้ว เพราะมัลดีฟเป็นเมืองท่องเที่ยวเค้าจะต้องมี "นํ้าส้มสายชู" ไว้ใช้ในการประกอบอาหารขายกันเป็นแน่ ทั้งนี้ก็ด้วย "นํ้าส้มสายชู" เป็นประเภทด่างและกรด ที่เป็นสารกำจัดรอยเปื้อนหรือฟอกขาวได้ แต่เหมาะสมที่จะนำมาใช้ในเฉพาะที่เสียมากกว่า แต่ยามคับขันเช่นนี้เราจะนำมาใช้แช่ผ้าขาวที่หมองคลํ้าจนเป็นสีเทากันบ้างก็ไม่น่าจะผิดกติกาแต่อย่างใด ซึ่ง "นํ้าส้มสายชู" นี้จะเป็นสารละลายอย่างอ่อนที่เราสามารถนำมาใช้แทน "นํ้ายาฟอกขาว" ได้อย่างแน่นอน

แต่ถ้าจะให้ดีกว่าเราก็ควรไปหาซื้อ "สารฟอกขาว" ชนิดอื่นในมัลดีฟมาใช้แทนก็น่าจะดีกว่า ซึ่ง "สารฟอกขาว" ที่สามารถนำมาใช้กำจัดรอยเปื้อนหรือฟอกผ้าขาวได้จะมีอยู่ด้วยกันหลายชนิด ซึ่งเวลาใช้ก็จำเป็นจะต้องระมัดระวังให้ดีด้วย เพื่อจะได้ไม่ให้สารเหล่านั้นไปทำลายเนื้อผ้าของเราได้นั่นเอง เช่น

(1) สารฟอกขาวคลอรีน หรือโซเดียมไฮเปอร์คลอไรค์ จะเป็น "สารฟอกขาว" ที่ใช้กันทั่วไปมักใช้กับผ้าฝ้าย ลินิน และไม่ควรใช้กับผ้าไหม หรือผ้าขนสัตว์ เมื่อใช้อย่าทิ้งไว้นาน ควรรีบล้างออกด้วยน้ำแล้วหยดกรดออกซาลิกลงไปที่รอยเปื้อน เพื่อทำให้คลอรีนซึ่งเป็นด่างเกิดความเป็นกลางก่อนนำผ้าไปซักทั้งคืน

(2) โซเดียมเปอร์บอเรตและกรดออกซาลิก เป็นสารที่ใช้กำจัดรอยเปื้อนของสนิมเหล็กและหมึกได้ดี "สารฟอกขาว" ชนิดนี้จัดว่ามีอันตรายน้อยที่สุด แต่ต้องระวังการทำปฎิกิริยากับสีย้อมผ้า และไม่ควรใช้กรดออกซาลิกกับผ้าไหม

(3) โซเดียมไฮโดรซัลไฟล์ เป็นสารกำจัดรอยเปื้อนของรา หมึก สนิมเหล็ก น้ำผลไม้สีโดยใช้โซเดียมไฮโดรซัลไฟล์ 1 ช้อนชา ผสมกับน้ำ 1 แก้ว แล้วให้รีบล้างออก และไม่ควรใช้สารนี้กับผ้าไหม

และ (4) ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ เป็น "สารฟอกขาว" ชนิดอ่อน และสารนี้จะใช้ได้ดีเมื่อใช้แอมโมเนียมาผสมด้วย ซึ่งจะสามารถใช้ได้กับผ้าทุกชนิดกันเลย

และเชื่อว่า "สารฟอกขาว" เหล่านี้ ก็น่าจะหาซื้อได้ไม่ยากนักในมัลดีฟกันบ้างล่ะหน่า...ลองดูสักหน่อยก็แล้วกันนะครับ

แต่ถ้าสนใจในเรื่อง "วิธีการดูแลรักษาเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกาย" มากเป็นพิเศษด้วยล่ะก้อ ก็ลองเข้าไปอ่านดูในลิงค์นี้สักหน่อยก็จะดีนะครับ เพราะเค้าได้เขียนแนะนำอะไรต่างๆไว้เป็นอย่างดีกันเลยล่ะครับ ที่

http://www.board.fortunestars.com/board.php?newsId...

แบบนี้คงต้องใช้วิธีแบบจีนโบราณแก้ขัดไปก่อน

หาก้อนหินสะอาดๆ เอาผ้าวางลงไป แล้วเอาไม้ทุบ

แต่ผลที่ได้ก็คงสู้แบบใช้โอโม่ไม่ได้

มีสบู่ ไหมคับ

ถ้ามี สบู่เหลว เข้มข้นสักนิดผสมน้ำน้อยหน่อย

แช่ผ้าสักสิบนาที แล้วขยี้ให้หน่ำใจ

จากนั้นล้างหลายๆน้ำ แล้วค่อยตากนะคับ...

หากเป็นสบู่ก้อน ก็ขัดทั้งตัวทั้งเสื้อได้เลยคับ

แต่ระวังอาจได้ลายขาวสลับเทามาบ้างนะคับ....

เพราะเมื่อยมือที่ต้องขัดทั้งตัว...

แช่น้ำส้มสายชูอะ เอาป้ายไปที่คราบแล้วซักต่อเลยตามภาพ