Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

ทำไมพระต้องฉันท์ในเพลมีที่มาอย่างไร?

4 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 10 ปี ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    เอาคร่าวๆนะ เพราะจำปีไม่ได้เป๊ะๆ

    สมัยพุทธกาล ก่อนนั้นพระยังฉันอาหารได้ทั้งวัน

    จนเวลาช่วงหนึ่ง ประเทศอินเดียเกิดภัยแล้ง ข้าวปลาอาหารหายาก ประชาชนอดอยาก

    และพระภิกษุสมัยนั้นก็ยังเดินบิณฑบาตรขออาหารได้ทั้งวัน จนชาวบ้านนินทาว่าพระภิกษุเอาแต่ขอ ไม่รู้จักสถานการความอดอยาก

    จนคำนินทาเข้าถึงหูพระพุทธเจ้า พระองค์จึงกำหนดสิกขาบท ห้ามภิกษุฉันอาหารหลังเที่ยงไปแล้ว

    จุดประสงค์ของข้อห้ามนี้ เพื่อไม่ให้ชาวบ้านรังเกียจ เพราะศาสนาพุทธเป็นศาสนาใหม่ ไม่ต้องการให้เป็นภาระของชาวบ้าน

    สิกขาบทแต่ละบทรวมทั้งสิ้น227ข้อหรือศิล227ข้อของพระ พระพุทธเจ้ากำหนดจากเสียงนินทาของชาวบ้านทั้งหมด

    ในฉบับพระปฐมสมโพช ได้แสดงถึงความอดอยากนั้นมีมากถึงขนาดที่ว่า พระพุทธเจ้าตรัสว่า ใต้พื้นดินนั้นมีน้ำชนิดหนึ่งคล้ายน้ำผึ้งสามารถเอามาเป็นอาหารได้ พระโมคคัลลาจึงแสดงปฏิหารย์แหวกพื้นดินเอาน้ำผึ้งธรณีมาแจกจ่ายภิกษุด้วยกัน(น้ำผึ้งธรณีคืออะไรก็ไม่รู้เหมือนกัน)

  • คำตอบ สุดหล่อใต้ต้นมะเขือตอบไปแล้ว ขอเข้ามาเพิ่มเติมนิดเดียวค่ะ

    คำว่าฉันเพล หรือฉันในเพล คนมักเข้าใจไปว่าพระท่านจะต้องฉันจังหันเสร็จในเวลาเที่ยงวัน หรือพอเพลปั๊บต้องวางช้อนปุ๊บ ซึ่งจริง ๆ แล้วฉันในเพลนั้น คือท่านเริ่มต้นฉันคำแรกในก่อนเที่ยง หรือก่อนเพล จากนั้นท่านสามารถฉันต่อไปเรื่อย ๆ จนอิ่มพอดี ซึ่งอาจคาบเกี่ยวเวลาเกินไปถึงบ่ายโมง บ่ายกว่าก็ได้ ขอเป็นแต่ให้เป็นการฉันแบบเอกอาสนะ ที่นั่งเดียว คือ ท่านนั่งลงฉันแล้ว ก็ฉันจนอิ่มในคราวเดียวนั้นในที่นั่งเดียวกันนั้น ไม่ใช่ฉันแล้วหยุดพัก แล้วมาฉันต่อใหม่ หรือย้ายที่ฉันต่อที่อื่นอีกค่ะ

    à¹��อวังก็มีด้วยประการฉะนี้

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    10 ปี ที่ผ่านมา

    สมัยก่อนยังไม่มีนาฬิกา วิธีการกำหนดง่ายที่สุดคือฉันท์ ให้เรียบร้อยก่อนพระอาทิตย์จะตรงศีรษะค่ะ เพิ่มเติมนะค่ะ มื้อแรกของวันคือบำรุงสมอง มื้อต่อมาคือบำรุงร่างกายค่ะ มื้อที่สามบำรุงsexค่ะ เมื่อเปนพระแล้วจึงตัดมื้อที่สามออกไปค่ะ เพื่อให้อยู่ในศีลในธรรมค่ะ

    แหล่งข้อมูล: ขอบคุณ อาจารย์ผจญคร่า
  • 10 ปี ที่ผ่านมา

    พระพุทธเจ้าสอนไว้ว่าอาหารเช้า และก่อนเที่ยง(เพล)เป็นมื้อที่ร่างกายต้องการ ส่วนอาหารหลังเที่ยงจะช่วยส่งเสริมให้เกิดกิเลสตัณหาราคะได้ง่ายครับ คุณทดลองดูก็ได้ แต่ต้องเป็นช่วงที่สามีของคุณไม่อยู่นะครับ ไม่งั้นคุณจะบกพร่องต่อหน้าที่นะจะบอกให้

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้