นำเสนองาน หัวข้อ"พิธีกรรมงานศพ ของศาสนาพุทธ" ให้ชาวต่างชาติ?

จากรายละเอียดที่คุณให้มา เข้าใจว่าน่าจะหมายถถึงพิธีกรรมงานศพของคนไทยที่นับถือศาสนาพุทธ มากกว่าพิธีก��รมงานศพในศาสนาพุทธนะคะ อธิบายโดยสรุปตามที่คุณขอ ตามนี้

๑.เมื่อมีผู้ตาย ญาติจะอาบน้ำหรือทำความสะอาดศพให้สะอาดและแต่งตัวให้ด้วยเสื้อผ้าชุดที่ดีที่สุดหรือชุดที่รักที่สุดของคนตาย อาจมีการแต่งหน้าตามควร แล้วติดต่อสัปเหร่อหรือ จนท.วัด มาจัดการฉีดยาศพ และจจัดการอื่น ๆ เช่นเอาสำลีอุดรูจมูกศพ และมัดตราสังข์ศพ ตามนี้ค่ะ

http://www.youtube.com/watch?v=n0amGet6AbY

๒.แจ้งตายตามกฎหมายกับทางเขต ติดต่อวัด ขอจองศาลาสถานที่จัดงานศพ กำหนดว่าจะสวดกี่วันซึ่งมีตั้งแต่ ๑ - ๗ วัน แล้วเก็บไว้ ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน แล้วเผา ตามฐานะ ความสะดวกของเจ้าภาพหรือการสั่งเสียของผู้ตาย

๓. เมื่อเคลื่อนย้ายศพมาถึงวัด จะมีการตั้งศพทำพิธีที่เรียกว่า รดน้ำศพ ในเวลาประมาณ ๑๖.๐๐ - ๑๗.๐๐ น. เพื่อให้ญาติสนิท มิตรสหายได้มารดน้ำศพ ขออโหสิกรรมแลัะให้อโหสิแก่ผู้ตาย ศพจะวางนอน มีผ้าแพรเพลาะคลุมถึงอก ทอดมือขวาออกมา ให้คนรดน้ำ(เป็นน้ำเปล่า ผสมน้ำอบ โรยกลีบดอกไม้เช่นกุหลาบ และดอกมะลิทั้งดอก) ถ้าผู้ตายเป็นข้าราชการมีตำแหน่ง เป็นคนมีความดีความชอบ หรือมีบุตรเป้นข้าราชการมีตำแหน่ง จะขอพระราชทานน้ำหลวงอาบศพได้

เมื่อถึงเวลาตามควร ราวห้าโมงเย็น หรือญาติมารดน้ำครบแล้ว ก็ให้จนท.วัดบรรจุศพลงโลง ช่วงนี้จะให้ญาติมาดูหน้าผู้ตายเป็นครั้งสุดท้ายเพื่ออำลา จะมีการเอาเงินเหรียญใส่ไปในโลงศพ และมีใส่ปากศพไปด้วย

๔.การสวด จะนิมนต์พระ ๔ รูปมาสวด คืนละ ๔ จบ การสวดจะไม่สวดศพในวันพระ หรือวันนักขัตฤกษ์สำคัญ ถ้าติดเวลานั้น ให้ข้ามไปและสวดทดแทนในวันถัดไป ในการสวดนั้นจะนิยมหยุดพักเมื่อสวดได้ ๓ จบ และจะมาการจัดเลี้ยงอาหารหรือของว่าง แก่ผู้ร่วมงาน เช่น กระเพาะปลา เกี๊ยวน้ำ ก๋วยจั๊บ ขนมอบชากาแฟ (ไม่เลี้ยงของเป็นเส้น ๆ เพราะถือว่าจะมีคนตายต่อ ๆ กัน)เพราะมักสวดในเวลาเย็นหรือค่ำ ๑๘.๐๐ /๑๙.๐๐ /๑๙.๓๐ น. แต่พระภิกษุ ซึ่งจะไม่ฉันอาหารหลังเพล จะถวายเป็นเครื่องดื่มในระหว่างนั้น การสวดรวมช่วงเลี้ยงอาหารจะใช้เวลาประมาณ ๔๐ นาที ในแต่ละคืน

๕. แบบและราคาโลงดูตามนี้นะคะ http://www.soonhuad.com/

๖.ดอกไม้งานศพ คือดอกไม้หน้าศพในวัสวด มีราคาตั้งแต่ ๒๐๐๐ บาทขึ้นไป ดอกไม้จัดแจกัน ดอกไม้ถวายพระ

ดอกไม้หน้าเมรุเผาศพ และที่คุณถามคือพวงหรีด ก็เป็นการใช้ดอกไม้เพื่อแสดงความเคารพศพ ราคามีตั้งแต่พวงละ ๔๐๐ บาท(ซึ่งจะเล็กหน่อยและใช้ดอกไม้ที่ไม่แพง) ที่สวย ๆ จะราคาตั้งแต่ ๕๐๐ บาทไปจนถึงหลักพัน แต่เดี๋ยวนี้มีพวงหรึดตามคติใหม่ คือจะใช้ของที่นำไปใช้ประโยชน์ได้มาทำหรีด เช่น หนังสือ จานชาม ช้อนส้อม ผ้าห่ม ถือว่าทำทานอุทิศส่วนกุศลแก่ผู้ตาย

๗.การบรรจุศพหลังสวด มีทั้งที่สวดแล้วเผาเลย หรือเก็บ ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน ๑ ปี แล้วเผา ที่เก็บ ๆ ที่วัดมีทำไว้เป็นช่องให้ยกโลงไปบรรจุ ช่วงระหว่งรอเผา จะมีทำบุญเมื่อครบ ๕๐ วัน ๑๐๐ วัน ถือกันว่า หากตายวันเสาร์จะไม่เผาวันอังคาร เพราะเป็นวันแรง

๘. การเผาส่วนมากกำหนดเผาราว ๑๖.๐๐ หรือ ๑๗.๐๐น. มีการเวียนศพรอบเมรุแบบอุตตราวัฏ คือ เวียนซ้าย ซึ่งใช้ในงานอวมงคล มรแจกดอกไม้จันทน์ตามคติการเผาเครื่องหอมในพิธีกรรม ถือกันว่าการรับดอกไม้จันทน์ให้รับเฉพาะของตนเอง ห้ามส่งต่อ ๆ กัน ถ้าผู้ตายมียศศักดิ์จะขอพระราชทานเพลิงศพได้ การเผาจะมีเผาหลอก เผาจริง (เป็นแค่ชื่อพิธีกรรม) เผาหลอกคือ หลังจากที่พระชักผ้าบังสุกุลแล้ว แขกจะนำดอกไม้จันทน์ไปวางที่เมรุ กล่าวอโหสิกรรม ช่วงเผาจริง อาจมีการเปิดโลงให้ดูหน้าครั้งสุดท้านหรือไม่ก็ได้ จากนั้นบรรจุเข้าเตาเผาศพบนเมรุแล้วเผา

ในวันเผา มักมีเลี้ยงเพล มีเทศน์ และอาจมีการแสดงหน้าเมรุ เช่น โขน ละคร ดนตรีไทย

๙.การเก็บกระดูกจะเก็บในวันรุ่งขึ้น จะเก็บตามส่วนสำคัญของร่างกาย คือศีรษะ แขน ขา ลำตัว เก็บกี่ชุดนั้นก็ตามแห่งที่จะนำไปบรรจุ เช่น ใส่โกศไว้ที่บ้าน เอาไปบรรจุที่วัด(มีเป็นช่องแบบต่าง ๆ ให้เลือก) ในฮวงซุ้ยประจำตระกูล ส่วนที่เหลือจะห่อด้วยผ้าขาว เอาไปทำพิธีลอยอังคาร ถือกันว่าเมื่อเผาศพแล้ว จะออกทุกข์ได้

สรุปสุด ๆ แล้ว คงตกหล่นไปเยอะเลย เพราะคุณจะเอาสั้น ๆ มีอะไรถามมั้ยคะ

รายละเอียดในคำถาม ก็มีมากพอแล้ว เพียงแต่จัดเรียง Time Order ให้ดี ก็นำเสนอได้แล้ว

เรื่องของเรื่องคือ หัวข้ออย่างนี้ แปลเป้นปะกิตไหวหรือ จะให้คำศัพท์ คำแสง ระดับไหนเอ่ย

เอ้า ช่วยออกหัวคิดให้นิดนึง เอาเพลงนี้ ไปเปิดคลอเบาๆ ตอนพรีเซ้นท์ นะ

http://www.youtube.com/watch?v=o70KojI4Ma4

เพลงนี้ เป้นเพลงแรกที่ อ. บูช แกสตั้น แห่งวงฟองน้ำ เกิดแรงบันดาลใจ รักเพลงไทยมากๆ

แกมาเมืองไทยครั้ง ได้ยินเพลงนี้ ก้อุทานว่า That a very nice sad song.

แกจึงรีบเดินไปที่มาของเสียงเพลงนี้ ปรากฏว่า มันคือ งานศพในวัดใกล้ๆ พี่พักของแกนั้นเอง

ให้แค่แนวคิดแต่เดี๋ยวฟังคนอื่นอีกทีในรายละเอียด 1. งานศพคนธรรมดา 2. งานศพแบบพระราชทานเพลิง 3.งานศพเจ้านาบชั้นสูง น่าจะแบ่งเอาไว้เพื่อให้งายต่อการนำเสนอ