คุณ miss "ลืมเรื่องภาวะโลกร้อนไปแล้วหรือยัง?" เปิดได้ 4 ชั่วโมงก็ปิดไปแล้ว รีบร้อนไปไหนครับ?

ผมมีแนวความคิดเล่น ๆ ในการแก้ปัญหาน้ำท่วมของประเทศไทย

รัฐบาลขอกู้เงินจากรัฐบาลญึ่ปุ่น

นำมาเวนคืนที่กว้าง 5 กิโลเมตร เป็นเส้นตรงจากบึงบรเพ็ดถึงสมุทรสาคร

ขุดคลองตรงกลางกว้าง 1.5 กิโลเมตร ลึก 100 เมตร

นำดินที่ได้มาเสริมสองฝั่งที่เวนคืนไว้ให้สูงกว่าระดับน้ำทะเล 8 เมตร

ดินที่เหลือนำไปเสริมปากแม่น้ำเจ้าพระยา ท่าจีน บางปะกง

แล้วทำเขื่อนตลอดแนวปากแม่น้ำ และแนวคลองที่ขุดใหม่

สร้างชุมชนใหม่บนที่ดินที่อยู่สองข้างคลองใหญ่

โดยสร้างที่อยู่อาศัยแนวสูงเพื่อลดความกว้างของเมือง

กรุงเทพยังคงใช้เป็นเมืองท่าต่อไป แต่เมืองหลวงอาจจะย้ายขึ้นไปตามแนวคลองใหม่

การขนส่งสินค้ากรุงเทพ - นครสวรรค์ จะใช้การส่งสินค้าทางน้ำเป็นหลัก

รายได้จะมาจากการขายที่ดินที่พัฒนาแล้วตามแนวริมฝั่งคลองเพื่อมาชำระหนี้

สิ่งที่ได้ฟรีคือ เส้นทางคมนาคม และทางระบายน้ำเมื่อจำเป็นต้องระบาย

แถมได้อภิมหาโปรเจ็คที่ใหญ่กว่าตอนสร้างสนามบินสุวรรณภูมิ รองรับ 30% ของนักการเมืองด้วย

ถ้ากู้เงินจากรัฐบาลจีน เขาอาจให้ขยายคลองไปถึงเชีัยงรายเลยก็ได้

ภัยธรรมชาติมาแรงถ้ารัฐบาลมีสักยภาพที่จะแก้ไขในระยะยาวก็ดีตอนนี้ก็ชิมรางไปก่อน

คงต้องมีการเขียนฝังเมืองใหม่ชัวว์ หลังจากน้ำนี้จะขอดูรัฐบาลอีกที

ยังไม่ลืมค่ะ ช่วงนี้เกิดอุทกภัย ช่วงก่อนเกิดภัยแผ่นดินไหว และสภาพอากาศแปรปรวนทำให้นึกถึงคำเตือนของ ดร.อาจอง เกี่ยวกับภาวะโลกร้อนจากเวปหนึ่งที่น่าตระหนก .....ขออภัยและเสียดายเช่นกันที่รีบปิดหัวข้อคำถามเร็วไป จึงขอบคุณที่กรุณาแสดงข้อคิดเห็น และลงความรู้ต่าง ๆ เพิ่มเติม .....ข้อมูลที่นำมาลงจากเวป http://www.rungnapa-astro.com/SeaLevelRise.php ดร.ให้ไว้ประมาณปี '51 ...ปัจจุบันปี'54 ...ข้อมูลที่ลงไว้เป็นคำเตือน เป็นการคาดคะเนความน่าจะเป็นล่วงหน้า ปัจจุบัน ดร.เองอาจมีข้อมูลใหม่ ๆ ซึ่งดิฉันไม่ทราบก็เป็นได้....ดร.บอกว่าเนเธอร์แลนด์เอง ณ ตอนนั้นตอนที่ท่านไปเยี่ยมเยือนยังว่าเขื่อนที่กั้นน้ำนั้นแทบจะไม่ไหวเพราะระดับน้ำทะเลสูงขึ้น การสูบน้ำออกจากเขื่อนทำได้ลำบาก สถาปนิกเริ่มออกแบบบ้านบนแพกันแล้ว

ตามเวปกล่าวเตือนว่าภายใน 6 ปี ประเทศไทยควรย้ายเมืองหลวง เพราะภายใน 30 ปีข้างหน้านี้ ระดับน้ำทะเลของประเทศไทยจะสูงขึ้น 7 เมตร จากภาวะโลกร้อน

ซึ่งตรงกับแผนที่องค์การนาซา ของ USA ระบุว่าระดับน้ำทะเลในประเทศไทยจะสูงขึ้น 7 เมตร ดังนั้น เมืองหลวงควรอยู่สูงกว่าระดับน้ำทะเล 40-50 เมตร ทั้งนี้กรุงเทพฯ สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึง 1 เมตร เมื่อระดับน้ำทะเลขึ้นมาเกินกว่า 1 เมตร กรุงเทพฯ พร้อมกับจังหวัดสมุทรปราการ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา สระบุรี และลพบุรี ครึ่งจังหวัดจะจมอยู่ใต้น้ำ

ภาวะโลกร้อนจะทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น การเคลื่อนไหวของสภาพอากาศจะเปลี่ยนแปลงอย่างมาก จะทำให้เกิดพายุมากขึ้น

ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ประธานกรรมการอำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ที่ได้ประกาศเตือนเรื่องการเกิดสตอมเซอจ (Storm Surge) หรือคลื่นพายุหมุน ในประเทศไทย ซึ่งปกติจะพบเห็นที่ต่างประเทศ

ปัจจุบัน ธารน้ำแข็งขั้วโลกละลายตัวอย่างรวดเร็ว ทำให้ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น

โลกของเราเต็มไปด้วยน้ำถึง 3 ใน 4 ส่วน

ครึ่งหนึ่งอยู่ในมหาสมุทร แปซิฟิก

ส่งผลให้น้ำหนักของโลกไม่เท่ากัน

เปลือกโลกจะเริ่มเคลื่อนไหว จะเกิดเหตุแผ่นดินไหวมากขึ้น

โดยเฉพาะตามรอยต่อของเปลือก โลก ทะเลอันดามัน ประเทศอินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์

เปลือกโลกร้าวจะทำให้ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกาญจนบุรี เกิดแผ่นดินไหว

เตือนว่าเขื่อนที่ จ.กาญจนบุรี อาจแตกเพราะอยู่ตามแนวที่จะเกิดแผ่นดินไหว

แม้วิศวกรแย้งว่า การออกแบบก่อสร้างเขื่อนทนต่อแผ่นดินไหวได้ 8 ริคเตอร์

แต่สิ่งที่อาจเกิดขึ้นคือการเคลื่อนที่ของดิน

ซึ่งอาจเคลื่อนไปคนละทิศละทาง จึงอาจทำให้เขื่อนแตกได้

และจะส่งผลให้เมืองกาญจน์จมน้ำ แล้วน้ำจะไหลมาสู่ จ.นครปฐม และกรุงเทพฯ ในที่สุด

jijijij :B