ยังมีอีกมากเชื่อมั่นอย่างสุจริตใจว่าทักษิณถูกปล้นอำนาจโดยทหารมันมีอะไรมากกว่านั้นหรือเปล่าครับ?

เหตุผลการทำรัฐประหารคือ เผด็จการรัฐสภาครั้งล่าสุดนะ วังวนการคานอำนาจ

ตุลาการล้มเหลว

มันเป็นเรื่องของกิเลสล้วนๆครับ เพราะการสูญเสียซึ่งอำนาจในการปกป้องผลประโชยน์

ของตนเองและพวกพ้อง ที่โดนคนกลุ่มนึงไปแย่งชิงมา (หลายคนอาจมองว่าสมควรแล้ว

แต่หลายคนบอกว่ามันยืนอยู่บนความไม่ถูกต้อง)

ทุกวงการ ทุกสี ทุกเหล่า ทุกองค์กร ล้วนแล้วแต่ มีการคานอำนาจกันทั้งสิ้น แม้นแต่

ในครัวเรือน ในสังคมแห่งประชาธิปไตย ผมยังไม่เคยเห็นลูกคนไหนกล่าวใช้พ่อแม่

ให้ทำงานได้แบบวัวควาย เห็นแต่พ่อแม่ที่อาสาทำเองหรือใช้ลูกซะมากกว่าทั้งสิ้น

การรัฐประหาร ก็เช่นเดียวกัน มันก็มีกลุ่มคนที่สูญเสียอำนาจทางด้านการทำธุรกิจ

จึงต้องลุกขึ้นมาปกป้องด้วยการใช้อำนาจส่วนตัว (ความเชื่อ ความศรัทรา เงิน การชี้นำ

จากคนรอบข้างที่คิดเหมือนกัน)

การใช้กลยุทธ์การแนบอิงโดยการใช้ม๊อตโต้ สร้างตนเองให้อยู่ข้างประชาธิปไตย มัน

ถูกนำมาใช้อย่างต่อเนื่อง เพราะเน้นในเรื่องของรัฐประหาร เน้นในเรื่องของจำนวนนับ

15ล้านเสียงที่เลือกมาแล้วมาสร้างความรู้สึกร่วมว่า นี่คือประชาธิปไตย และหาความชอบ

ธรรมกับจำนวนนับเหล่านี้ ที่เป็นจุดเปราะบางของสังคมไทยที่คนรวยกับคนจนมีสถานะ

ทางสังคมที่แบ่งกันห่างเกินไป

จนวันนี้ 19ล้านเสียงที่เคยสนับสนุนพรรคการเมืองพรรคนี้ โดนลดจำนวนลง ซึ่งตรงจุดนี้

เองก็แสดงอะไรบางอย่างให้เห็นว่า แนวคิดคนไทยเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เพราะจากครั้ง

ที่ผ่านมา พรรคโนเนมอย่าง รักประเทศไทยมีโอกาสสอดแทรกขึ้นมาได้ น่าจะบอกทิศทาง

ของการคิดได้เป็นอย่างดี

หลังๆเห็นมีการระดมพล เช็คชื่อ ตรวจไพร่พล เปิดหมู่บ้าน ก็เพื่อต้องการรักษาสภาพของ

การนำของตนไว้ เพื่อประโยชน์ของตนทั้งสิ้น ส่วนอะไรที่มากกว่านั้นผมว่า คงเกิดขึ้นได้ยาก

เมื่อก่อนอาจคิดแต่ชั่วโมงนี้สถานการณ์มันพลิกผันเยอะไงก็คิดได้แต่คิดหละครับ

ส่วนคำว่าสถาบันสั่งการ นั้นก็เป็นแนวคิดของคนที่เป็นกลุ่มร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายทั้งนั้น

เพราะในกลุ่มของการใช้หุ่นเชิดอย่างทักษิณนั้นบัดนี้ความเป็นเอกภาพมันแตกกันเป็นเสี่ยงๆ

แล้ว ไม่มีใครฟังใคร นับตั้งแต่แม่เหล็กได้เดินกันคนละทางกับแนวทางที่ทักษิณปูไว้ให้เดิน

จนวันนี้ก็มีการเช็คไพร่พล เช็คกำลังรบของแต่ละฝ่ายเพื่อมาห้ำหั่นกันเอง โดยอีกไม่นาน

กลุ่มคางคกก็จะระดมพลเช็คชื่อ ช่วงวันที่ 10ธันวาคม เพื่อการต่อรองกันต่อไป

ผมเชื่อมั่นศาลฎีกาครับ

http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1...

Here's the other side for balanced presentation.

I'm not any color Thai, just a Thai who don't believe two wrong made it right. If Thailand truely is a democracy, no elected goverment should be deposed by a military coup, it should be done by the law of the land. I expected that from the third world country, not a developing country like Thailand.

We have a long history of corrupted government and power grabbed by the military which turned out to be worse than the preceeding ones. If we are to make progress, we need to learn from the past, make our laws effective for all citizens, and obey the laws of the land from the top down.

The Buddha said if the leaders lead by good example, people will follow, and he did.

พวกชอบค้าความและคิดว่าเงินซื้อได้ทุกอย่างมันจริงบางส่วนแต่ที่ซื้อไม่ได้จริงคือความตายต่อให้มีเงินมากมายขนาดไหนไม่ว่าเหลี่ยมถุงขนมหรือปูแดงนิ่มจังถ้าใกล้ตายต่อให้ขอซื้อชีวิตด้วยเงินกี่ร้อยกี่พันล้านก็ไม่มีทางรอดจากความตายได้แล้วทำไมถึงไม่ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการทำไมต้องใช้เงินใช้พวกมากลากไปถามว่า15ล้านที่พูดกันอยู่ตลอดมันก็แค่25%ของประชากรไทยทั้งประเทศเท่านั้นแล้วคุณคิดว่าอีก75%เขาจะยอมให้ความผิดมันชนะความถูกต้องหรือ

อะไรคือประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ของประเทศไทยกันแน่รึเกิดเป็นประชาชนคนไทยต้องอดทนได้ทุกอย่าง ว่าไงก็ต้องว่าตามเขา...หรืออย่างไร

ขอตอบคนแรกก็แล้วกัน ผมมองแบบไม่สนนักการเมืองแต่มองระบอบการปกครองเป็นหลัก ถ้าเราบอกว่าเราคือประชาธิปไตย การรัฐประหารมันก็คือสิ่งที่แปลกปลอมที่ไม่ควรมี "ประชาธิปไตยคือการเห็นต่างกัน แต่ต้องเคารพมติความเห็นต่างแต่เป็นส่วนใหญ่ และแก้ปัญหาคือการกลับไปฟังประชาชนตัดสินใจ" โลกเขาไปถึงไหนกันแล้ว เราจะเดินถอยหลังไปถึงไหนครับ ( ไม่ว่าคุณจะปฎิวัติใครผมก็จะคัดค้าน)

เข้ามาสนับสนุน คำตอบของคุณ ภพ ครับ เราต้องการเห็นประเทศไทย มีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์

ปัญหาต่างๆ ที่กล่าวมา เป็นเรื่องของโครงสร้างทางสังคม หรือเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล เรื่องนี้ยังเป็นที่ถกเถียงกันอยู่

แต่โดยส่วนตัวเชื่อว่า เป็นเรื่องของโครงสร้างทางสังคม ที่เอื้อให้เกิดบุคคลอย่างเช่น ท่านอดีตนายกทักษิณฯ เพราะขณะนั้นสังคมต้องการพรรคการเมืองที่เข้มแข็ง โดยเชื่อว่าจะสามารถพัฒนาประเทศได้เร็ว และทัดเทียมนานาอารยะ และก็ดูเหมือนว่าจะเป็นอย่างนั้นจริงๆ ด้วย เป็นการพัฒนาทางการเมืองอีกขั้นหนึ่ง ที่นำเรามาถึงจุดนี้อย่างขณะนี้

แต่เมื่อกาลกลับกลายเป็นว่าพรรคการเมืองเข้มแข็งเกินไป ซึ่งเกิดจากระบบขณะนั้น ก็มีกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยออกมาคัดค้าน และดำเนินกระบวนการที่ขัดกับหลักเสรีทางความคิด คือมีลักษณะชี้นำสังคม ต้องยอมรับว่า หรือโดยส่วนตัวผมเชื่อว่าเป็นความบิดเบี้ยวของระบบ ที่ทุกวันนี้ยังหาทางออกกันไม่ได้ การบังคับใช้กฎหมายอย่างยุติธรรม และสากลยอมรับ เท่านั้น จะเป็นทางออกสุดท้ายของประเทศ กฎหมายของเราดีมาก แต่การบังคับใช้ยังด้อยอยู่มาก