ประเพณีเหยียบองุ่นคืออะไรคะ?

ประเพณีเหยียบองุ่นทำขึ้นเพราะเขาจะทำไวน์ค่ะเมื่อสมัยก่อนเครื่อไม้เครื่องมือ เครื่องจักร ยังไม่มีเหมือนสมัยนี้เขาชาวไร่ชาวสวนองุุ่นเลยรวมตัวกันเป็นประเพณีเหยียบองุ่นเพราะจะได้น้ำองุ่นในปริมาณมากเพื่อไปทำไวน์และองุ่นเนี้ยเหมาะกับการทำไวน์มากๆ มีเหตุผลประกอบค่ะ องุ่นเป็นผลไม้ที่มีการนำมาทำเป็นไวน์นานมากกว่า 3,500 ปีมาแล้ว จัดเป็นผลไม้ที่เหมาะแก่การทำไวน์มากกว่าผลไม้ชนิดอื่นๆ ที่เป็นเช่นนี้เพราะองุ่นพันธุ์ที่ใช้ทำไวน์มีคุณสมบัติพิเศษเหนือกว่าผลไม้อื่นหลาย

ประการเป็นต้นว่า มีความหวานหรือน้ำตาลมากเพียงพบแก่การทำไวน์ โดยไม่ต้องเติมน้ำตาลจากแหล่งอื่นลงไป ในองุ่นมีความเป็นกรดพอเหมาะ ไม่จำเป็นต้องปรับกรดอีก กรดส่วนใหญ่ เป็นพวกกรดทาร์ทาริก และกรดมาลิคที่ช่วยให้ไวน์ที่ได้มีความคงตัวดี นอกจากนั้นองุ่นยังมีสารแทนนินมากพอเพียงที่จะช่วยให้ไวน์ที่ได้มีรสชาติเข้มขึ้น และสารแทนนินในองุ่นจะมีความสมดุลกับน้ำตาลและกรดทำให้รสชาติของไวน์ที่ได้มีความกลม

กล่อมอยู่ในตัว ไม่จำเป็นต้องปรุงแต่งอีก ผลองุ่นมีสีแดงเข้มถึงม่วงดำ ดังนั��นจึงสามารถใช้ผลิตไวน์ที่มีสีสวยๆ ตั้งแต่สีเหลืองทอง แดง ชมพู ขึ้นอยู่กับวิธีการหมัก องุ่นเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นรสเหมือนกลิ่นของผลไม้หลายชนิดผสมผสานกันที่หาไม่ได้ในผลไม

้ชนิดอื่น นอกจากนี้องุ่นยังมีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับการเติบโตของยีสต์อยู่เพียงพอ ไม่จำเป็นต้องเติมสารอาหารหรือแร่ธาตุอื่นๆ ลงไป ยีสต์ก็สามารถเปลี่ยนน้ำตาลเป็นแอลกอฮอล์และสารอื่นๆ ได้แล้ว และจากรายงานตอนหลังพบว่าไวน์ที่ทำจากองุ่นจะมีสารช่วยลดไขมันในเลือดได้ด้วย

ก็เป็นเทศกาลของชาวสวิตเซอร์แลนด์ที่นำองุ่นใส่ในถังไม้และก็เข้าไปเหยียบองุ่นในถังไม้นั้นเพื่อนำไปบ่มไวน์

และนำไปบรรจุขวดเพื่อนำออกขาย

ในทวีปยุโรป และสหรัฐอเมริกา มีการปลูกองุ่นเพื่อทำเหล้าองุ่นขายเป็นล่ำเป็นสันมาตั้งแต่สมัยโบราณ เมื่อถึงหน้าร้อนและปลายๆฤดูร้อน เมื่อองุ่นงอมพอที่จะเก็บเกี่ยวแล้ว เขาจะทำการเก็บเกี่ยวมาใส่ถังไม้ใหญ่ๆขนาดสูงประมาณ 5 ฟุต เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 ฟุตหลายๆใบ แล้วเชิญชาวบ้านชาวเมืองมาช่วยกันเหยียบกันให้องุ่นแหลก เนื่องจากมีเวลาน้อยก่อนที่องุ่นจะเน่าเสียก่อน เป็นเรื่องสนุกสนานประจำปี ที่ชาวบ้านชวนกันไปเที่ยว และช่วยกันไปเหยียบองุ่นเพื่อเอาไปคั้นเอาน้ำองุ่นไปทำเหล้า wine พร้อมทั้งไปชิมเหล้าองุ่นที่โรงงานนั้นผลิดออกมาขายให้ด้วย

เมื่อระบบอุตสาหกรรม ได้เจริญก้าวหน้าไปแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องใช้คนปีนเข้าไปในถังเหยียบองุ่นให้ช้ำอีก แต่เนื่องจากประเพณีนี้มีมานานจนกลายเป็นงานประจำปีไป และมีคนไปเที่ยวกันมากมายทุกปี เพื่อจะชิมเหล้าองุ่นกันอย่างไม่อั้น ซ้ำยังมีรายการรื่นเริงอื่นๆสอดแทรกเข้ามาอีกมากมาย แล้วแต่จะมีใครเป็น sponsors เข้าร่วมรายการแต่ละปี

ดูตัวอย่างรายการได้จากลิ๊งค์ที่ให้ข้างล่างได้ ครับผม