Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

?
Lv 5
? ถามใน สุขภาพการแพทย์ทางเลือกใหม่ · 9 ปี ที่ผ่านมา

ใครเคยมีประสบการณ์ฝังเข็มบ้างครับ?

ปวดหัวนอนไม่หลับ อาแป๊ะข้างบ้านแนะนำให้ไปลองฝังเข็ม ใครเคยฝังหรือมีความรู้ด้านนี้แนะนำหน่อยครับ

9 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 9 ปี ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    "ลมปราณ" จะเรียกว่า ชี่(Qi) ก็ได้

    ลมปราณเป็นพลังที่วิ่งตาม "เส้นลมปราณ"

    แต่เสียใจด้วยครับ เส้นลมปราณนี้ดันมองไม่เห็น

    เจ้าหน้าที่วิทยาศาสตร์ ก็มองไม่เห็นแม้อยู่ในศตวรรษ ที่21 ก็ตาม

    ถ้าเคยดูภาพยนต์สารคดีจีนเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว ที่ผลิตในยุค "ม่านไม้ใผ่"

    เรื่อง "วสันต์หรรษา" มีตอนหนึ่งที่แพทย์จีนผ่าตัดโชว์ฝรั่ง

    โดยไม่มีการวางยาสลบ อาศัยเพียงการ "ฝังเข็ม" เท่านั้น

    ผ่าตัดไป ป้อนข้าวให้คนป่วยไปด้วยแบบสดๆ

    ยุคปัจจุบัน (2003) ประเทศอังกฤษมีแพทย์ปริญญา

    ที่ใช้การฝังเข็มรักษาคนไข้ร่วมด้วยประมาณ 2000 คน

    ในปี ค.ศ.1998 ประเทศสหรัฐอเมริกามีแพทย์ปริญญาที่ใช้การฝังเข็มรักษาคนไข้

    ร่วมด้วยกว่า 3000 คน และ องค์การอนามัยโลกหรือ WHO

    ก็ได้ประกาศรับรองผลการรักษาโรคด้วยการฝังเข็มมาแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2522

    ครับ วิชาหมอผี(ลมปราณ) ได้รับการรับรองเสียด้วย

    จะว่าไปเส้นลมปราณ พิสูจน์ว่าไม่มีจริงเห็นจะไม่ได้ เพราะ

    จุดปักเข็มล้วนอยู่ตามแนวเส้นลมปราณทั้งสิ้น

    และเส้นลมปราณควรโล่ง โปร่ง ไม่ติดขัด

    หากมีภาวะติดขัด หรือ ไม่โล่ง จะทำให้ "ปวด"

    "ลมปราณเคลื่อนไหว เลือดย่อมเคลื่อนไหว"

    หรือ กลับกัน ถ้าเลือดเดิน พลัง(Qi) ย่อมเดิน

    กลางคืนแตกต่างจากกลางวัน ตรงที่พลังกลางคืนเป็นภาวะสงบ

    ซ่อมแซม นิ่งสงัด จัดเป็นหยิน แต่เมื่อผิดปกติ คือกลางคืน ไม่มีความสงบ

    ปวด นอนไม่หลับ สาเหตุที่เป็นไปได้ คือ หยินพร่องไม่ควบคุมหยาง

    หรือ มีภาวะการไหลเวียนลมปราณไม่มีประสิทธิภาพ

    การฝังเข็มดีตรงที่ช่วยให้การไหลเวียนพลังปราณดีขึ้น

    ถ้าการปวดและนอนไม่หลับมีเพียงเท่านี้ การฝังเข็มอย่างเดียว

    "เอาอยู่"

    ไม่แน่นะครับอาการแบบนี้ ถ้าปล่อยเป็นโสดนานเกินไป

    ก็อาจจะ "เอาไม่อยู่" ได้ ถ้ารู้สึกว่ากอดหมอนข้างมาแล้วช้านาน

    ก็ควรได้เวลาของ "คนข้างหมอน" บ้าง..เท่าเนี้ย

  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    เคยครับเมื่อครั้งเล่นฟุตตบอลไห้จังหวัดนานมากแล้ว ทางผู้ว่าฯสมัยโน้นท่านเอาหมอจีนมาประจำเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บนักกีฬา..

    ..ไม่น่ากลัวและช่วยได้เยอะ ของผมอาการเจ็บบั้นเอวจากการโโดดแย่งโหม่งแล้วก้นกระแทกพื้นไม่หายเป็น2สัปดาห์ตึงๆไม่ดีขึ้น เค้าเลยยกขึ้นเตียงแล้ว นวดด้วยน้ำมันจากนั้นหมุนเข็มเล็กๆตามเอ็นเส้นใหญ่2เส้นทั้งหลังจากล่างสู่บน..ถัดมาหมอก็จะใช้ไฟอ่อนๆจากแบเตอรี่ปล่อยมาตามเส้นเอ็น ทำ3 ครั้งเริ่มเดินได้ดี และหลังจากอาทิตย์กว่าๆก็กลับมาซ้อมได้ปรกติ..

    น่าแปลกตรงการปักเข็มไม่มีเลือดออกหรือเจ็บปวดแต่อย่างใด..

  • Right
    Lv 5
    9 ปี ที่ผ่านมา

    ตัวเราไม่เคยไปฝังเข็ม แต่มีประสบการณ์เกียวข้องกับเรื่องนี้ โดยตัวเราพาคุณแม่ไปฝังเข็มเพื่อรักษาอาการอัมพาตที่เกิดขึ้นตรงใบหน้าซึกขวา ซึ่งคุณแม่เริ่มเป็นมาหลายเดือนไปรักษากับหมอแผนปัจจุบันแล้วไม่ดีขึ้น ได้คนแนะนำ จึงมาหาแพทย์แผนจีนที่โรงพยาบาลหัวเฉียว ซึ่งมีคุณหมอผู้เชียวชาญด้านการรักษาโรคนี้ ทำการรักษาโดยกินยาสมุนไพรจีนประกอบกับการฝังเข็ม การรักษาโดยการฝังเข็มจะนัดให้ไปฝังเข็มทุกสัปดาห์ประมาณเดือนหนึ่ง ปรากฏว่าอาการที่อัมพาตค่อยๆหายไป และหายขาดในที่สุด ในช่วงที่ไปหาหมอจีนนี้มีไปหาหมอแผนปัจจุบันคนใหม่ด้วยแต่ว่าไปหาหมอก็มีให้ยามาทาน ไม่ได้บอกหมอจีนว่ามีไปหาหมอแผนปัจจุบัน จนหมดจากการรักษาแผนแพทย์จีนไปหาหมอที่ศิริราชไปตรวจว่าร่างกายเกี่ยวกับระบบประสาทเข้าเครื่องสแกนก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ก็สบายใจว่าไม่ได้ป่วยเป็นอะไรหายแล้วจริงๆ จากที่คุณแม่เป็นแล้วหายในเวลาไม่นานก็คิดว่าแพทย์แผนจีนมีส่วนสำคัญที่ทำให้คุณแม่หาย เพราะไปฝังเข็มมาคุณแม่ก็บอกว่ารู้สึกใบหน้ามีอาการตอบสนองได้ดีขึ้นโดยลำดับ และหมอจีนก็ว่าต่อไปคุณแม่ต้องระวังเรื่องการโดนลมหรือความเย็นที่ใบหน้า ซึ้งก็จริงเพราะคุณแม่ร้อนง่าย ชอบให้พัดลมเป่าแรงๆตลอด ทุกวันนี้ท่านก็ต้องระวังเรื่องนี้ ไม่อยากเป็นอีก อัมพาตที่ใบหน้าทำให้กินพูดอะไรลำบากและน่ากลัวนะ

    ที่เล่าประสบการณ์ของคุณแม่ที่ไม่สบายมา ก็ไม่ได้หมายความว่าหมอแผนจีนดีกว่า หรือหมอแผนปัจจุบันไม่ดี

    การแพทย์ทั้งสองทางก็มà¸��ข้อเด่น ข้อด้อยได้ จริงๆแล้ว ทางอื่นก็มี เช่นแพทย์แผนไทย แพทย์ทางเลือกอื่นๆ ตรงนี้มีเรื่องคุยได้อีกมาก คิดคุณเซอร์ภพถ้าสนใจคงศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติมได้นะ

    สำหรับคุณเซอร์ภพที่ปวดหัวนอนไม่หลับ สาเหตุเกิดจากอะไรพอรู้ไหม ถ้าแก้สาเหตุได้เช่นเครียดอะไร พอหาทางคลายกังวลได้ไหม หรือว่านอนดึกบ่อยๆพักผ่อนไม่พอ อาจปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก็น่าจะดีขึ้น แต่ถ้าไม่รู้ว่าเกิดจากอะไรเป็นบ่อยๆ เรื้อรังน่าจะไปหาหมอแผนปัจจุบันก่อนเพื่อวินิจฉัยว่าเป็นเพราะอะไร จะได้รักษาที่สาเหตุ หรือจะหาหมอจีนก็ตามที่เราพอใจ สำคัญที่ว่าหมอที่เราไปหาเชื่อมั่นได้เพียงไร ก็ควรมีความเชี่ยวชาญ และรักษาพยาบาลกับที่มีมาตรฐาน แต่ประเด็นสำคัญคือที่ไม่สบายนี้เกิดจากอะไร ควรที่เราจะรู้สาเหตุ จะได้แก้ปัญหาตรงจุดและยั่งยืนนะ

  • ?
    Lv 6
    9 ปี ที่ผ่านมา

    ....ไม่เคยฝังเข็ม และไม่มีประสบการ��¸“์ เคยเห็นในทีวีว่ามีการฝังเข็มเพื่อการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ.....อาการปวดหัว จนนอนไปหลับ ถ้าหากไม่ใช่เป็นโรคประจำตัว หรือเกิดจากศรีษะไปกระทบจากภายนอกหมายถึงอุบัติเหตุ....

    .....เป็นเพราะคุณไปฝังประสบการณ์...ฝังรอยร้าว...ฝังปัญหาไว้ในหัว จึงเกิดความเครียด ความกังวล หรือบางทีเหตุการณ์ยังมาไม่ถึง...ก็ไปคำนึงถึงมันก่อนซะแล้ว ทำให้นอนไม่หลับ...เคยเป็นค่ะและก็มีประสบการณ์ด้านนี้มาก...ถึงขนาดต้องฉีดยาแก้ปวดถึงเอาอยู่...ก็คือไม่เกรนรับประทานนะคะ....

    .....วิธีรักษาส่วนตัวจากประสบการณ์....ปล่อยวางค่ะ เมื่อเกิดปัญหา ณ.ขณะนั้นเรารู้ทัน หยุดค่ะอาจไม่ได้ในทันที แต่ก็ค่อยๆหักเหความสนใจ เปลี่ยนไปฟังเพลง เดินเล่น หรือคุยกับใครสักคนที่ทำให้เรารู้สึกดี ลืมเรื่องร้าวรานไปชั่วขณะ ปรับเปลี่ยนอริยาบถ...หากนอนอยู่ ก็รุกขึ้นมานั่งสมาธิ จิตตกสมาธิฟุ้ง...รุกขึ้นเดิน...ถ้าไม่นั่งสมาธิก็หยิบหนังสือมาอ่าน...แป๊บเดียวง่วงแน่นอนค่ะ....

    .....ทุกวันนี้ บางคืนก็ยังเป็นเหมือนกันนอนไม่หลับ....รู้เพราะเรากังวล เพราะเราคิดไปเอง....เมื่อรู้ก็ปล่อยวาง ..ทำใจให้ว่าง...ตัดใจอะไรจะเกิดก็ช่างแล้วก็นอน...เอ้อหลับแฮะ...

    แหล่งข้อมูล: ประสบการณ์ส่วนตัวค่ะ
  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    ผมไม่เคยมีประสบการณ์ฝังเข็ม (เพราะกลัวเข็ม) แต่พอได้ศึกษา และรับรู้มาว่า ช่วยแก้ไขอาการบางอย่าง เช่น แก้ปวด (ก่อน หลัง หรือระหว่างการผ่าตัด) รวมทั้งปวดหัว ปวดฟัน ปวดกล้ามเนื้อ ปวดกระดูก ที่ไม่เกี่ยวกับการผ่าตัด แก้ความอยาก (บุหรี่ เหล้า ยาเสพติด) ความเครียด และกำจัดความรู้สึกบางอย่างได้

    วิธีนี้ เริ่มต้นมาจากประเทศจีนมานานแล้ว เป็นที่รู้จักดีในประเทศนั้น ตั้งแต่ประเทศจีนได้เปิดประเทศให้กับโลกเสรีเป็นต้นมาจนถึงบัดนี้ ขณะนี้ในสหรัฐ และในยุโรป ได้ออกใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ให้แก่ผู้ที่ได้ผ่านการฝึกอบรมมาแล้วอย่างเป็นกิจลักษณะในการบำบัดด้วยการฝังเข็มได้ และการบำบัดโรคด้วยวิธีนี้ ก็ได้รับความนิยม และความเชื่อถือจากชาวตะวันตกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่ายังเป็นส่วนน้อยอยู่ ครับผม

    แหล่งข้อมูล: http://en.wikipedia.org/wiki/Acupuncture
  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    สาระสำคัญของแพทย์แผนจีนคือ ทำให้เลือดลมในร่างกายไหลเวียนทั่วร่างได้ดี กินอาหารบำรุงร่างกาย การขับถ่ายที่ดีทั้งระบบเลือดและการถ่ายของเสียจากร่างกายในตอนเช้า ให้ร่างกายสมดุลย์แข็งแรงก็จะไม่มีโรคภัย

    องค์การอนามัยโลกรังรองผลการรักษาด้วยการฝังเข็มตั้งแต่ปี 1996 หนึ่งในนั้นคืออาการนอนไม่หลับ

    ซึ่งการฝังเข็มมีความปลอดภัยและมีข้อดีหลายประการ เช่น คลายกล้ามเนื้อมัดที่อยู่ลึกได้ดี การฝังเข็มไม่ทำให้เกิดการติดเหมือนใช้ยา ไม่ทำให้ร่างกายเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลัน เช่น ไม่ทำให้หัวใจเต้นเร็วขึ้นหรือช้าลงจนเห็นได้ชัด

    คลีนิคหมอจีนที่รักษาได้มีหลายแห่ง รวมถึงในโรงพยาบาล เช่น หัวเฉียว วิภาวดี ภูมิพล

    นอกจากการฝังเข็มแล้วยังมีวิธีรักษาที่เรียกว่า กัวซา ที่จะช่วยขับพิษออกจากร่างกายได้

  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    อาจเป็นแค่การกระตุ้นปลายเส้นประสาท อาจจะเหมือนได้ผลในระยะสั้นๆ แต่ว่าต้นเหตุยังไม่ถูกรักษา เส้นประสาททุกส่วนในร่างกาย มีจุดกำเนิดมาจากกระดูกสันหลังทั้งหมด ถ้าบริเวณนั้นมีอะไรผิดปกติ ก็จะทำให้เกิดอาการปวดตรงนั้นตรงนี้ รวมไปถึงนอนไม่หลับ ปวดหัวด้วย คงต้องรักษาที่ต้นเหตุ การหายหรือไม่หาย อาจจะมีอะไรประกอบกันไม่เฉพาะการรักษา แต่ต้องเป็นที่การดูแลตัวเองด้วย หมอบางคนรักษาคนนี้หาย แต่รักษาอีกคนไม่หาย ไม่ดีขึ้น เป็นเรื่องที่ต้องเหมือนเอาตัวเข้าไปทดสอบเอาเอง ไม่ดีก็เปลี่ยนหมอใหม่ได้ ดีขึ้นก็รักษากันต่อไป..

  • ?
    Lv 5
    9 ปี ที่ผ่านมา

    ผมเคยฝังเข็มแบบใช้กระแสไฟฟ้าช่วยกระตุ้น ประกอบการนวด

    รักษาอาการนิ้วล็อค โดยหมอที่เรียนมาจากประเทศจีนโดยตรง

    สัปดาห์ละครั้ง ๆ ละหนึ่งชั่วโมง เพียง 3 ครั้ง ก็หายขาดมาสองปีแล้ว

    เพื่อนผม มีอาการอย่างเดียวกัน ไปรักษาโดยการผ่าตัด

    อยู่ได้หกเดือน ก็กลับเป็นอีก ผ่ามาสองครั้งแล้ว

  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    การฝังเข็มถือเป็นเรื่องของแพทย์ทางเลือก โดยผู้ที่เข้ารับการรักษาถือ

    เป็นทางเลือกอีกทางนึงสำหรับการรักษาโรคบางชนิดหรืออาการ

    โดยประสบการณ์การฝังเข็มโดยตรงแล้วแนะนำว่า ควรเป็นหมอที่มี

    ประกาศนียบัตรรับรองดีกว่า หมอจีนแผนโบราณ

    สืบเนื่องจาก สิ่งที่พบเห็นที่สามารถวัดได้ คือในเรื่องของการที่หมอ

    ประกาศนียบัตร จะทำการวินิจฉัยควบคู่ไปกับศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบัน

    เพื่อให้การรักษาได้ผลยิ่งขึ้น ซึ่งผมเองเคยสัมผัสโดยตรงกับหมอทาง

    ด้านกà¸��รฝังเข็มนี้คือ เขาให้ไปทำการเอ๊กซเรย์สิ่งที่เป็นอาการ มาเพื่อการ

    วินิจฉัยควบคู่ไปกับการรักษาฝังเข็ม ซึ่งก่อนทำการรักษา หมอฝังเข็มที่

    ดีต้องแจ้งให้คนไข้ทราบก่อนว่า มีอะไรบ้างที่รักษาได้ อะไรบ้างที่รักษา

    ไม่ได้ อาทิหมอที่ผมไปรักษาเขาจะบอกว่า โรคที่เกี่ยวกับเลือดลม

    โรคเกี่ยวกับเอ็น การไหลเวียนของเลือดในร่างกาย กลุ่มอาการเหล่านี้

    จะรักษาได้ ส่วนในเรื่องของกระดูก อะไรพวกนี้จะไม่สามารถรักษาได้

    เป็นต้น

    ซึ่งการฝังเข็มเป็นเรื่องของการเปิดและกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด

    เป็นหลัก ดังนั้นหากเป็นเรื่องของการกระตุ้นแล้ว ในยุคสมัยปัจจุบัน

    เขาจะใช้เข็มขนาดเล็กมากปักเข้าไปที่บริเวณผิวหนังแล้วทำการกระตุ้น

    ด้วยไฟฟ้า ดดยจะยึดจากแนวข้องเส้นเป็นหลัก (คล้ายๆการนวดเส้นของ

    ไทยที่มีเส้นเลือดลมที่วิ่งไปตามแนวต่างๆของร่ายกาย) แล้วทำการ

    กระตุ้นไปเรื่อยๆในระยะเวลานึงเพื่อให้เกิดการเดินของเลือดลม โดยหาก

    แพทย์จีนในสมัยโบราณ เขาจะทำการเช็คจากชีพจร (แหม๊ะ) ที่ข้อมือก่อน

    แล้วทำการรักษาด้วยการฝังเข็ม ซึ่งจะแตกต่างกันคือการกระตุ้นด้วยมือ

    กับการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า ดังนั้นหากเราเองไปทำการกระตุ้นด้วยมือ การ

    ไหลเวียนของเลือดจะไม่สม่ำเสมอกว่าการกระตุ้นด้วยไฟฟ้า แต่หากผล

    ที่ได้ของโบราณบางจุดที่เป็นจุดเน้น การกระตุ้นด้วยไฟฟ้าจะสู้มือไม่ได้

    ด้วยเช่นกัน

    ส่วนเรื่องของการรับรองผล ก็มีทั้งประสบผลสำเร็จและไม่ประสบผล

    สำเร็จประมาณเดียวกับการรักษาโรคโดยทั่วไปนั่นแหละครับ เพราะนี่คือ

    แพทย์ทางเลือก โดยหากทำการรักษาด้วยแพทย์ทางเลือกคู่กับแพทย์

    ปัจจุบัน ไงโอกาสที่จะรักษาได้ผลดีจะมีมากกว่าครับ

    แหล่งข้อมูล: ป๋าอิ๊กคิว สมาร์ทตี้-จี
ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้