แนวนโยบายป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง ซ้ำซาก แบบองค์รวม ควรจะมีหลักษณะหลักๆ อย่างไรบ้าง?

ปัญหาที่ท่านถาม......

"แนวนโยบายป้องกันน้ำท่วม น้ำแล้ง ซ้ำซาก แบบองค์รวม ควรจะมีหลักษณะหลักๆ อย่างไรบ้าง?"

อันนี้นักวิชาเกินอย่างผมตอบไม่ได้ แต่รู้สึกได้ว่าฝ่ายนโยบายและแผนทุกรัฐบวมรวมข้าราชการทุกส่วนรู้ดี

แต่ไม่ทำ มันแต่"วัดครึ่ง กรรมการครึ่ง"อย่างที่เห็นๆในประเทศนี้ไงจร้า

แก่งเสือเต้นอยู่ในจังหวัดแพร่ เรื่องที่มีคนต่อต้านเขื่อนก็มีฝ่ายสนับสนุนด้วยนะครับ

“สมควรหรือไม่ ที่จะสร้าง แก่งเสือเต้น แก้ไขปัญหา”

ผู้ที่เดือดร้อนโดยตรงเห็นจะเป็นชาวบ้านเกษตรกรลุ่มน้ำยม ที่ยังคงแบกรับภาระไร่นาเสียหายจากอุทกภัย การผลักดันให้เกิดแก่งเสือเต้นนั้น พวกเขาให้เหตุผลว่า จะช่วยแแก้ปัญหาไม่เพียงแต่เฉพาะน้ำท่วมเท่านั้น แต่ยังช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งด้วยเช่นกัน ภัยพิบัติที่ได้รับผลกระทบในแต่ละปี มีแต่จะทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะจุดที่จะสร้างเขื่อนสามารถจุน้ำได้มาก ช่วยบรรเทาความเสียหายได้มากทีเดียว

หากตัดน้ำส่วนหนึ่งออกจากระบบ เป็นวิธีที่ช่วยให้ระดับน้ำลด และไม่ทำให้เกิดน้ำท่วม

ทั้งแม่น้ำยมเป็นแหล่งน้ำเพียงแห่งเดียวที่ไม่มีแหล่งกักเก็บน้ำต้นทุน ส่งผลให้เกษตรกรในลุ่มน้ำเดือดร้อน ขาดแคลนน้ำอุปโภค บริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ต้องประสบทั้งภัยแล้ง และน้ำท่วมซ้ำซาก อีกกี่สิบปีหากยังไม่มีการแก้ไขปัญหา น้ำก็ยังจะท่วมแบบนี้เช่นเดิม เสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ซึ่งรัฐต้องจ่ายเงินเยียวยาหลายแสนล้านบาท และผู้ที่ไม่เห็นด้วยเป็นเพียงผู้ถูกขัดผลประโยชน์ และคนในพื้นที่ ซึ่งเป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่ออกมาคัดค้าน

เอาเขื่อน VS ไม่เอาเขื่อน

ขณะเดียวกัน บนพื้นที่ไม้สักทองที่เต็มไปด้วยป่าไม้และระบบนิเวศน์ ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่านั้น หากเกิดโครงการสร้างเขื่อนขึ้นมาจริง กลุ่มคัดค้านอย่างเช่น NGO มองว่า จะเป็นการทำลายทรัพยากรธรรมชาติอย่างมหาศาล และที่สำคัญ การสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น จะตอบโจทย์แก้ไขปัญหาน้ำท่วมได้จริงหรือไม่

ย้อนกลับไปเมื่อปีที่ผ่านมา ชาวบ้าน ต.สะเอียบ อ.สอง จ.แพร่ ออกมาประท้วง ไม่เห็นด้วยที่ผู้ได้รับความเดือดร้อนจะนำสถานการณ์น้ำแล้งมาเป็นข้ออ้างและเร่งผลักดันสร้างเขื่อนแก่งเสือเต้น นับว่าเป็นแนวคิดที่ผิดพลาด พร้อมยืนยัน���ะคัดค้านกันไปจนรุ่นลูกรุ่นหลาน