Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

? ถามใน สุขภาพสายตา · 9 ปี ที่ผ่านมา

อาการเริ่มต้นของโรคปากเท้าเปื่อยเปนอย่างไร?

4 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 9 ปี ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    พ่อแม่จะสังเกตอาการเหล่านี้ได้อย่างไร ? เด็กที่ได้รับเชื้อโรคนี้ จะมีอาการไข้ต่ำๆ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย หลังจากมีไข้ 2-3 วัน เด็ก จะเริ่มเจ็บคอน้ำลายไหล ปฎิเสธอาหารและน้ำ ถ้าให้เด็กอ้าปาก จะเริ่มเห็นมีแผลในปาก และเริ่ม มีผื่นตามมือและเท้า ในอีก 2-3 วันต่อมา

    เด็กๆ จะมีอาการอาเจียน ท้องร่วง ซึม ไม่วิ่งเล่นเหมือนเดิม โรคแทรกซ้อนที่อาจเกิดร่วม กับ HFMD ได้แก่ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ (Aseptic meningitis) และกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (Myocarditis) โรคแทรกซ้อนเหล่านี้ถึงแม้จะเกิดขึ้นไม่มากนักแต่ค่อนข้างจะอันตรายถึงแก่ชีวิต

    ฉะนั้นถ้าพ่อแม่ สงสัยว่าลูกจะเป็นโรคนี้ ให้สังเกตอาการดังกล่าว ถ้าสงสัยว่าจะมีโรค แทรกซ้อน เช่น เด็กมีอาการอ่อนเพลียมาก ซึม ปวดศีรษะ ปัสสาวะน้อย ผิวหนังแห้ง เพลีย หมดแรง ให้รับพาไปหาหมอโดยด่วน

    การรักษา

    สำหรับในแง่ของการรักษาโรคมือ เท้า และปาก เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส จึงไม่มียาฆ่าเชื้อโดยตรง เช่นเดียวกับโรคติดเชื้อไวรัสทั่วๆไป ซึ่งในทางการแพทย์เรียกว่า "การรักษาเฉพาะเจาะจง" specific treatment เช่นถ้าสาเหตุเกิดจาเชื้อโรคก็ใช้ยาที่ออกฤทธิ์ฆ่าหรือทำลายเชื้อก่อโรคนั้นเสีย ดังนั้นการรักษาที่สำคัญ จึงเน้นที่การรักษาตามอาการ และการรักษาประคับประคอง symptomatic and supportive treatment และเฝ้าระวังอาการที่รุนแรงหรือภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นได้ในผู้ป่วยบางราย การใช้ยาลดไข้ acetaminophen or ibuprofen กระตุ้นและดูแลให้เด็กดื่มน้ำและทานอาหารให้ได้ตามปกติ

    ดูเพิ่มที่ลิงค์นะครับ

  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    Pee Pao Napat

    วันนี้นำสาระมาให้เพื่อน ๆ กันค่ะ โรคฮิตกันขณะนี้ค่ะ

    **รุ้ทัน โรคมือเท้าปากเปื่อย***

    โ���คมือเท้าปากเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มักจะเป็นในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบ แต่ก็อาจจะพบในผู้ใหญ่ได้

    โรคมือเท้าปากจะเกิดเชื้อไวรัสกลุ่ม Enterovirus genusซึ่งเชื้อโรคในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย polioviruses, coxsackieviruses, echoviruses, and enteroviruses.

    สาเหตุ

    โรคปากเท้าเปื่อยเกิดจาการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Coxsackievirus โดยต้องประกอบด้วยผื่นที่ มือ เท้าและที่ปาก เริ่มต้นเป็นที่ปาก เหงือก เพดาน ลิ้น และลามมาที่มือ เท้า บริเวณที่พันผ้าอ้อมเช่นก้น ผื่นจะเป็นตุ่มน้ำใส มีแผลไม่มากอายุที่เริ่มเป็นคือ 2 สัปดาห์จนถึง 3 ปีผื่นจะหายใน 5-7 วัน

    อาการ

    อาการมักจะเริ่มด้วยไข้ เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัวเจ็บคอ หลังจากไข้ 1-2 วันจะเห็นแผลแดงเล็กๆที่ปากโดยเป็นตุ่มน้ำในระยะแรกและแตกเป็นแผล ตำแหน่งของแผลมักจะอยู่ที่เพดานปาก หลังจากนั้นอีก1-2 วันจะเกิดผื่นที่มือและเท้า แต่ก็อาจจะเกิดที่แขน และก้นได้ เด็กที่เจ็บปากมากอาจจะขาดน้ำ

    -ไข้

    -เจ็บคอ

    -มีตุ่มที่คอ ปาก เหงือกลิ้นโดยมากเป็นตุ่มน้ำมากกว่าเป็นแผล

    -ปวดศีรษะ

    -ผื่นเป็นมากที่มือรองลงมาพบที่เท้าที่ก้นก็พอพบได้

    -เบื่ออาหาร

    -เด็กจะหงุดหงิด

    ระยะฝักตัว

    ระยะตั้งแต่ได้รับเชื้อจนกระทั่งเกิดอาการใช้เวลาประมาณ 4-6 วัน

    การติดต่อ

    เชื้อนี้ติดต่อจากการสัมผัสเสมหะ น้ำลายของผู้ที่ป่วย หรือน้ำจากผื่นที่มือหรือเท้า และอุจาระ ระยะที่แพร่เชื้อประมาณอาทิตย์แรกของการเจ็บป่วย เชื้อนั้นอาจจะอยู่ในร่างกายได้เป็นสัปดาห์หลังจากอาการดีขึ้้นแล้ว ซึ่งยังสามารถติดต่อสู่ผู้อื่นได้แม้ว่าจะหายแล้ว

    การวินิจฉัย

    โดยการตรวจร่างกายพบผื่นบริเวณดังกล่าว

    การรักษา

    ไม่มีการรักษาเฉพาะโดยมากรักษาตามอาการ

    -ถ้ามีไข้ให้ยา paracetamol ลดไข้ห้ามให้ aspirin

    -บ้วนปากด้วยน้ำเกลือใช้เกลือ1/2ช้อนต่อน้ำ1แก้วต้องมั่นใจว่าเด็กบ้วนคอได้

    -ดื่มน้ำให้พอ

    โรคนี้หายเองได้ใน 5-7 วัน

    โรคแทรกซ้อน

    ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ coxsackievirus A16 ซึ่งหายเองใน 1 สัปดาห์ แต่หากเกิดจากเชื้อ enterovirus 71 โรคจะเป็นรุนแรงและเกิดโรคแทรกซ้อน

    -อาจจะเกิดชักเนื่องจากไข้สูง ต้องเช็ดตัวเวลามีไข้และรับประทานยาลดไข้

    -อาจจะเกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบและสมองอักเสบได้

    การป้องกัน

    โรคมือเท้าปากจะติดต่อจากคนสู่คนโดยการสัมผัส น้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย รวมทั้งน้ำจากตุ่ม และอุจาระ การลดความเสี่ยงของการติดต่อทำได้โดย

    -ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ

    -หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย

    -หลีกเลี่ยงที่มีคนมาก

    -ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่มีการจับบ่อย เช่น ลูกบิด โทรศัพท์

    ควรพบแพทย์เมื่อไร

    -ไข้สูงรับประทานยาลดไข้แล้วไม่ลง

    -ดื่มน้ำไม่ได้และมีอาการขาดน้ำ ผิวแห้ง ปัสสาวะสีเข็ม

    -เด็กระสับกระส่าย

    -มีอาการชัก

    หมายเหตุ : ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีหากมีอาการต้องสงสัยดังกล่าว

    ที่มา : siamhealth.net

    https://fbcdn-sphotos-a.akamaihd.net/hphotos-ak-sn...

    credit facebook.

  • 6 ปี ที่ผ่านมา

    สังเกตอาการอย่างไร เด็กคนใดเป็น มือ เท้า ปาก?

    สำหรับสัญญาณบอกโรค มือ เท้า ปาก นั้น นพ.อิสระ สังฆวะดี กุมารแพทย์ด้านระบบประสาทและสมองในเด็ก โรงพยาบาลพญาไท 3 ได้แนะนำ ให้สังเกตจากอาการแสดง ดังต่อไปนี้

    เริ่มมีไข้ต่ำๆ เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย คอเจ็บ

    อาการที่อาจมีร่วมด้วย คือ มีอาการคล้ายหวัดน้ำมูกไหล ต่อมน้ำเหลืองใต้คางโตและอักเสบท้องร่วง ถ่ายเหลว คลื่นไส้ อาเจียน หลังจากนั้น1-2 วัน ก็จะพบผื่นที่เยื่อบุในปาก มักเกิดที่ลิ้นและในช่องปาก

    ผื่นจะกลายเป็นแผลเล็กๆ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 4-8 มิลลิเมตร

    สุดท้ายจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ และแตกเป็นแผล

    จากนั้นอีกไม่กี่วันผิวหนังก็จะเป็นผื่น มีขนาด 3-7 มิลลิเมตร โดยเฉพาะฝ่ามือ ฝ่าเท้า (มักจะเกิดที่มือมากกว่าที่เท้า) ผื่นจะกลายเป็นตุ่มน้ำใสๆ และในตุ่มน้ำนี้ก็มีเชื้อไวรัสอยู่ด้วย ซึ่งจะยุบแห้งไปเองภายในเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ จะไม่แตกเป็นแผลเหมือนในปาก บางครั้งจะพบบริเวณสะโพกด้วย แต่จะไม่กลายเป็น ตุ่มน้ำ จะเป็นเพียงผื่นแดงๆ นูนๆ เท่านั้น โดยเด็กบางคนอาจจะเป็นโรคนี้ซ้ำได้

    ทั้งนี้ ระยะฟักตัวของโรคมือ เท้า ปาก นั้น อยู่ที่ราว 3-6 วัน หลังได้รับเชื้อจึงจะเริ่มแสดงอาการ โดยกลุ่มที่มีความเสี่ยงมากที่สุดคือ ในเด็กอายุต่ำกว่า 5 ปี โดยเฉพาะเด็กอายุ 6 เดือน – 3 ปี

  • ?
    Lv 6
    9 ปี ที่ผ่านมา

    โรคมือเท้าปากเป็นโรคติดเชื้อไวรัสที่มักจะเป็นในเด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบ แต่ก็อาจจะพบในผู้ใหญ่ได้

    โรคมือเท้าปากจะเกิดเชื้อไวรัสกลุ่ม Enterovirus genusซึ่งเชื้อโรคในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย polioviruses, coxsackieviruses, echoviruses, and enteroviruses.

    สาเหตุ

    โรคปากเท้าเปื่อยเกิดจาการติดเชื้อไวรัสที่ชื่อว่า Coxsackievirus โดยต้องประกอบด้วยผื่นที่ มือ เท้าและที่ปาก เริ่มต้นเป็นที่ปาก เหงือก เพดาน ลิ้น และลามมาที่มือ เท้า บริเวณที่พันผ้าอ้อมเช่นก้น ผื่นจะเป็นตุ่มน้ำใส มีแผลไม่มากอายุที่เริ่มเป็นคือ 2 สัปดาห์จนถึง 3 ปีผื่นจะหายใน 5-7 วัน

    อาการ

    อาการมักจะเริ่มด้วยไข้ เบื่ออาหาร ครั่นเนื้อครั่นตัวเจ็บคอ หลังจากไข้ 1-2 วันจะเห็นแผลแดงเล็กๆที่ปากโดยเป็นตุ่มน้ำในระยะแรกและแตกเป็นแผล ตำแหน่งของแผลมักจะอยู่ที่เพดานปาก หลังจากนั้นอีก1-2 วันจะเกิดผื่นที่มือและเท้า แต่ก็อาจจะเกิดที่แขน และก้นได้ เด็กที่เจ็บปากมากอาจจะขาดน้ำ

    ไข้

    เจ็บคอ

    มีตุ่มที่คอ ปาก เหงือกลิ้นโดยมากเป็นตุ่มน้ำมากกว่าเป็นแผล

    ปวดศีรษะ

    ผื่นเป็นมากที่มือรองลงมาพบที่เท้าที่ก้นก็พอพบได้

    เบื่ออาหาร

    เด็กจะหงุดหงิด

    ระยะฝักตัว

    หมายถึงระยะตั้งแต่ได้รับเชื้อจนกระทั่งเกิดอาการใช้เวลาประมาณ 4-6 วัน

    การติดต่อ

    โรคนี้มักจะติดต่อในสัปดาห์แรก เชื้อนี้ติดต่อจากการสัมผัสเสมหะ น้ำลายของผู้ที่ป่วย หรือน้ำจากผื่นที่มือหรือเท้า และอุจาระ ระยะที่แพร่เชื้อประมาณอาทิตย์แรกของการเจ็บป่วย เชื้อนั้นอาจจะอยู่ในร่างกายได้เป็นสัปดาห์หลังจากอาการดีขึ้้นแล้ว ซึ่งยังสามารถติดต่อสู่ผู้อื่นได้แม้ว่าจะหายแล้ว

    การวินิจฉัย

    โดยการตรวจร่างกายพบผื่นบริเวณดังกล่าว

    การรักษา

    ไม่มีการรักษาเฉพาะโดยมากรักษาตามอาการ

    ถ้ามีไข้ให้ยา paracetamol ลดไข้ห้ามให้ aspirin

    บ้วนปากด้วยน้ำเกลือใช้เกลือ1/2ช้อนต่อน้ำ1แก้วต้องมั่นใจว่าเด็กบ้วนคอได้

    ดื่มน้ำให้พอ

    งดอาหารเผ็ด หรืออาหารเป็นกรดเพราะจะทำให้ปวด

    โรคนี้หายเองได้ใน 5-7 วัน

    โรคแทรกซ้อน

    ผู้ป่วยส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อ coxsackievirus A16 ซึ่งหายเองใน 1 สัปดาห์ แต่หากเกิดจากเชื้อ enterovirus 71 โรคจะเป็นรุนแรงและเกิดโรคแทรกซ้อน

    ภาวะขาดน้ำ ต้องกระตุ้นเด็กให้รับน้ำให้เพียงพอ หากขาดน้ำรุนแรงจะต้องได้รับน้ำเกลือ

    มีการติดเชื้อซ้ำบริเวณที่เป็นแผล

    อาจจะเกิดชักเนื่องจากไข้สูง ต้องเช็ดตัวเวลามีไข้และรับประทานยาลดไข้

    อาจจะเกิดเยื่อหุ้มสมองอักเสบ

    สมองอักเสบได้ ผู้ป่วยจะเกิดอาการ อาเจียน ซึม และชัก ผู้ป่วยส่วนใหญ่จะหาย

    การป้องกัน

    โรคมือเท้าปากจะติดต่อจากคนสู่คนโดยการสัมผัส น้ำมูก น้ำลาย เสมหะของผู้ป่วย รวมทั้งน้ำจากตุ่ม และอุจาระ การลดความเสี่ยงของการติดต่อทำได้โดย

    ล้างมือให้สะอาดด้วยสบู่และน้ำ โดยเฉพาะเมื่อสัมผัสกับเด็กที่ป่วย

    หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับผู้ป่วย สวมถุงมือเมื่อจะทำแผลผู้ป่วย

    หลีกเลี่ยงที่มีคนมาก

    ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่มีการจับ่อย เช่นลูกบิด โทรศัพท์

    ไม่แบ่งของเล่นกับเด็กปกติ

    ควรพบแพทย์เมื่อไร

    ไข้สูงรับประทานยาลดไข้แล้วไม่ลง

    ดื่มน้ำไม่ได้และมีอาการขาดน้ำ ผิวแห้ง ปัสสาวะสีเข็ม

    เด็กระสับกระส่าย

    มีอาการชัก

    แผลไม่หาย

    แหล่งข้อมูล: ฟัดวา
ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้