ชีวิตคืออะไร? ตามหลักการวิทยาศาสตร์ ชีวิตมีองค์ประกอบอะไรบ้างไหม?

ถ้าตามหลักการวิทยาศาสตร์มีคำตอบอยู่แล้วค่ะตามลิ้งค์ด้านล่าง

http://portal.edu.chula.ac.th/lesa_cd/assets/docum...

แต่ถ้าตามความคิดความเชื่อแบบส่วนตั๊วส่วนตัวนะคะ (คริคริ)

คืออะำไรก็ตามที่ดำรงอยู่ได้ด้วยการเบียดเบียนสิ่งอื่นค่ะ

ง่ายๆแม้คนที่ถือศีล ก็ยังต้องกินอาหาร ต่อให้เป็นมังสะวิรัตก็เหอะ กินแต่ผัก พืชผักก็เป็นสิ่งมีชีวิตไม่ใช่หรือคะ

....................................

ชีวิตเป็นสถานะหนึ่งของสิ่งที่มีชีวิต เช่นแมวตัวนี้ยังมีชีวิต แมวตัวนี้ตายแล้วไม่มีชีวิต

คุณภาพคือค่าการวัดระดับมาตารฐานของสิ่งที่มีคุณภาพเช่น คุณภาพของน้ำดีหรือเสีย

ความรักคือความรู้สึกของสิ่งที่มีความรักเช่น มนุษย์ชายหญิง

มีผู้ถามคำถามนี้มานาน อาจนานหลายพันปี ก็เป็นได้

ท่านผู้ถามชวนคุย “ชีวิต” ตามหลักวิทยาศาสตร์ และองค์ประกอบตามหลักวิทยาศาสตร์

ซึ่งผมรู้น้อย แต่เมื่อเห็นว่าท่านให้ตอบได้ตามสบายตามที่คิด จึงค่อยสบายใจขึ้น

ก่อนหน้ายุควิทยาศาสตร์ ได้แก่ยุคศาสนจักรมีผู้ตอบคำถาม “ชีวิต” ไว้มาก

และยังมีก่อนหน้าศาสนจักร ได้แก่ ยุคอาณาจักรมีผู้ปกครองในหลายอู่อารยธรรม

ที่ปกครองแบบ “เจ้ามหาชีวิต” หากผมไปถามคนที่อยู่ในยุคเจ้ามหาชีวิต

ว่าชีวิตคืออะไร คงได้แก่ การทำดีและเป็นคนดี หากผิดไปจากนี้อาจต้อง

“ไร้ชีวิต” ถูกฟันหัวริบเรือน ได้โดยง่าย เมื่อความหมายชีวิตเป็นเช่นนี้

“ชีวิตที่ดี” จึงควรเป็นการเคารพบูชา เทิดทูน กราบกรานสอพลอ

ครับ..นี่เป็น “ชีวิต” เฉพาะด้านเฉพาะส่วนบุคคลเท่านั้น สำหรับชีวิตที่นักวิทยาศาสตร์

หรือนักปราชญ์ ที่แสวงหาความหมา���ลักษณะ General Principles of Life นั้น

ผมห่างไกลมาก คือ กระจ้อยร่อยมาก หากคิดได้คงจะขอ nobel prize กับเขาบ้าง..อะแฮ้ม

ผมจงใจข้ามยุคศาสนจักร มาสู่ยุคปัจจุบัน ชีวิตคืออะไร

อย่างที่บอกคือ ผมแสดงความเห็นได้เฉพาะส่วนเท่านั้น และชีวิตที่ผมรู้จักดีที่สุด

ได้แก่ชีวิตผมเอง ครับ เพราะตอบได้แสนง่าย

ชีวิตผมคือ การมีเงินใช้ อันดับหนึ่ง มีการศึกษาของลูก

มีสุขภาพที่ดีและยามป่วยมีคนรักษา ชุมชนสะอาดน้ำไหลไฟสว่าง ฯลฯ...

เขียนต่อไปคงคล้ายนโยบายพรรคการเมืองแทบทุกพรรค

และผมเชื่อเหลือเกินว่า ชีวิตคืออะไรของผม คงคล้ายกับของผู้คนอีกจำนวนแสนจำนวนล้าน

หากชีวิตของผมและผู้คนทั่วไปเป็นเช่นนี้จริง ย่อมหมายถึง

“ความหมาย” ของคำถามว่า ชีวิตคืออะไร “เปลี่ยน”

เมื่อความหมาย “ชีวิต” เปลี่ยน วิถีชิวิตที่ดีจึง “เปลี่ยน”

เปลี่ยนจาก เซ่นทรวงบูชา กราบกรานสอพลอในยุคอาณาจักร ไปเป็นอย่างอื่น

ครับ..ผมมาถึงบรรทัดจบแล้ว ยอมรับว่าผมคิดเหม่อลอย..

คิดลอยไปว่า เหตุการณ์ทางการเมืองไทย 3-4 ปี มานี้ เป็นผลพวง

จากกความหมายอีกแบบของ “ชีวิต” ที่เปลี่ยนไปจากเดิม ใช่หรือไม่..

ชีวิตคือการเกิดมาตามวงจรของสัตว์และพืช สำหรับคนแล้วจะต้องเกิดขึ้นเพราะความรักของพ่อแม่ ไม่ใช่เพือการสืบเผ่าพันธุ์เพียงอย่างเดียว ฉนันคนเราจึงต้องมีขนบธรรมเนียมประเพณี ศีลธรรม จรรยา จริยาเป็นต้น

ชีวิตในหลักวิทยาศาสตร์ ถ้าวิทยาศาสตร์ หมายความถึงสิ่งเป็นจริงในธรรมชาติ มีอยู่จริง พิสูจน์จับต้อง มองด้วยตาได้ ชีวิตทุก สิ่ง ต้องการปัจจัยพื้นฐาน อาหาร อากาศ ที่อยู่อาศัย สอาด

ชิวิต ถ้าหมายถึง สัตว์มีกระดูกสันหลัง แตกตางจาก ต้นไม้มันก็มีชีวิตเช่นกัน สังเคราะห์ สิ่งรอบข้าง อากาศ อาหาร เหมือนกัน แต่แตกต่างกัน ในกระบวนการ และกลไก

คุณภาพ กับ สิ่งที่มีคุณภาพ แตกต่างกันหรือไม่? หรือว่าเป็นสิ่งเดียวกัน .. ย่อมแตกต่างกันแน่ ไม่มากก็น้อยแต่มันต้องเดินไปด้วยกัน ระหว่างคุณภาพของมนุษย์ ผู้สร้างสิ่งที่มีคุณภาพ ถ้าหมายถึงมนุษย์มีคุณภาพ ทุกคน มนุษย์ มี vision วีชั่น เป็นเข็มทิศ ที่จะทำให้เราทราบจุดหมาย แน่นอน (เกือบแน่นอน) เรามองความสุขความสบายในเบื้องหน้า ทำให้เรามองอนาคต ทำให้ไม่ใช้ชีวิตอย่างไร้สติ เพราะมองเห็นชีวิต อย่างมีคุณภาพ มนุษย์ จึง present สิ่งมีคุณภาพ มารองรับการใช้ ชีวิต เป็น บุคลิกภาพที่ถูกผลักออกมา ในแต่ละคน ละคน ในศาสนา ก็มีมุมมองการดำรงชีวิต ทัศนะ คล้ายๆ กัน แต่่่่

ความรัก ของมนุษย์ พวกนักประพัน กับความรักในแตกต่างกัน สิ่งเดียวกันแต่ถูเรียก เรียกว่าความรัก คือความไคร่ เรามักเรียกว่าความรัก แล้วจบลง ด้วยเพศสัมพันธ์ ผลต่อมาคือหน้าที่ อย่างบิดามารดา มีความรักต่อบุตร

สิ่งที่มีความรัก มักจะเป็น ผู้ไม่หวังผล อย่าง พรเจ้ารักมนุษย์ พระเจ้าไม่ได้หวังอะไรจากมนุุษย์ แต่ชี้ทางว่าควรดำเนินไปทางไหน ในทุกๆ ศาสดาของทุกๆศาสนา ก็ทำแบบนั้นทั้งนั้น และหาคำตอบได้ยาก สิ่งที่มีความรัก จะทำแบบนั้นทำไม

ตอบไปตามความเข้าใจ สติปัญญา ผมมีอยู่น้อย

ชีวิตคือ องค์ประกอบทางเคมี ที่มี H2o เป็นหลัก ซึ่งเป็นการรวมตัวของเซลขนาดเล็กจำนวนมหาศาล แล้วทำปฏิกริยาซึ่งกันและกัน โดยธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ และโลหะ ก่อตัวขึ้นมาเป็นสิ่งมีชีวิต

ถ้ากำหนดไว้ก่อนว่า"สิ่งมีชีวิต (Living thing)" คือสิ่งที่มี"ชีวิต (Life)" ตามการตีความของผม ชีวิต คือ กลไกการนำพลังงานเข้ามาในระบบ โดยพลังงานที่เข้ามานั้นจะถูกนำไปใช้ในการนำพลังงานส่วนอื่นเข้ามาในระบบอีก