ทางออกที่ดีสุดที่จะทำให้คุณไม่เครียดอะไรเลยคืออะไรค่ะ?

โทรหาเพื่อนรู้ใจ ยกหูโทรศัพท์หาเพื่อนรู้ใจสันคนแล้วระบายความรู้สึกให้เพื่อนได้รับรู้ เพราะการมีคนรับฟังและให้คำปรึกษา จะทำให้รู้สึกว่า ไม่ได้แบกปัญหาอยู่คนเดียวในโลก

เขียนไดอารี่ การเขียนไดอารี่เปรียบเสมือนการเปิดประตูอารมณ์ที่ปล่อยให้ความอัดอั้นตันใจต่าง ๆ ได้ไหลลงสู่หน้ากระดาษอย่างเป็นอิสระและเป็นส่วนตัวที่สุด เพราะการถ่ายเทความรู้สึกในใจออกมา จะทำให้จิตใจปรับสมดุลได้เร็วขื้น อีกทั้งระหว่างการเขียนไดอารี่นั้นยังถือเป็นการทบทวนความรู้สึกตัวเองที่ดี ที่สุดด้วย ส่วนข้อดีสุดเลิศอีกข้อก็คือ ไดอารี่เป็นเพื่อนสนิทที่ไว้ใจได้ที่สุด เพราะรับฟังเราเสมอและไม่เคยเอาความลับไปบอกต่อไงล่ะ

ดูภาพยนตร์ ขอแนะนำให้ฉายเดี่ยวแล้วตีตั๋วดูหนังดี ๆ สักรอ��� เพราะการไปดูหนังเนี่ยเป็นวิธีที่เวิร์คที่สุดที่จะปลดปล่อยความรู้สึกให้ ล่องลอยอย่างเป็นอิสระไม่จมอยู่กับปัญหา แถมระบายความอัดอั้นตันใจได้อย่างเห็นผล แต่ต้องถามตัวเองก่อนนะว่ากำลังอยู่ในอารมณ์ไหน เช่น ถ้าอยากร้องไห้ก็ไปดูหนังรักเศร้าเคล้าน้ำตาแล้วก็ร้องไห้ออกมาซะให้พอ หรือถ้าเครียดจัดก็จงไปดูหนังตลกแล้วหัวเราะให้หลุดโลกไปเลย

แก้ปัญหาได้ก็หายเครียด

ปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิต เป็นสาเหตุที่กระตุ้นให้เกิดความเครียดในช่วงที่ยังแก้ปัญหาไม่ได้จะรู้สึกเครียดมาก เมื่อแก้ปัญหาได้แล้ว ความเครียดจะหมดไป เราจึงจำเป็นต้องเรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาที่ถูกต้องเหมาะสมเพื่อจะได้แก้ปัญหาได้ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น

จงละเว้นการแก้ปัญหาแบบต่าง ๆ ต่อไปนี้

1. อย่า...แก้ปัญหาแบบวู่วาม ใช้อารมณ์เป็นใหญ่

2. อย่า...หนีปัญหา

3. อย่า...คิดแต่จะพึ่งพาผู้อื่นอยู่ร่ำไป

4. อย่า...เอาแต่ลงโทษตัวเอง

5. อย่า...โยนความผิดให้ผู้อื่น

จงแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ ใช้เหตุผลและใช้ความคิดพิจารณาให้ถี่ถ้วน โดย

* คิดหาสาเหตุของปัญหาด้วยใจเป็นธรรม ไม่เข้าข้างตัวเอง ไม่โทษคนอื่น

* คิดหาวิธีแก้ปัญหาหลาย ๆ วิธี ถ้าคิดเองไม่ออก อาจปรึกษาผู้ใกล้ชิด หรือผู้ที่มีประสบการณ์มากกว่า

* ลงมือแก้ปัญหาตามวิธีที่คิดไว้ อาจต้องใช้ความกล้าหาญ อดทน หรือต้องใช้เวลาบ้างอย่าได้ท้อถอยไปเสียก่อน

* ประเมินผลดูว่าวิธีที่ใช้ได้ผลหรือไม่ ถ้าไม่ได้ผลก็เปลี่ยนไปใช้วิธีอื่นๆ ที่เตรียมไว้ จนกว่าจะได้ผล

พรหมวิหาร 4 ข้อสุดท้าย "อุเบกขา" ครับ

เราเองเวลาเครียดหรือคิดอะไรไม่ออก ก็ไปเดินออกกำลังคะ แบบเดินๆๆๆๆๆๆๆไปเรื่อยๆจะเป็นในสวน ในทุ่งนา ทุ่งหญ้า หรือห้างสรรพสินค้า เพื่อเปลี่ยนบรรยากาศค่ะ ,

กลับมาปัญหาก็ยังคงอยู่แต่ไม่เครียดแล้ว ทางออกพอมี แม้จะเห็นลางๆๆ เพราะทุกอย่างแก้ไข ได้อยู่ที่"ใจเรา"เอง..

"ส่วนตัว"คือการมีสติรู้ทันอารมณ์และความคิดของตัวเองค่ะสิ่งเหล่านี้จะมีได้ก็ต่อเมื่อจิตได้รับการฝึกสมาธิ...หลายครั้งที่เครียดและหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ตัวเองจะนั่งอ่านหนังสือพระพร้อมกับสำรวมจิตไปกับทุกบรรทัดของบทสวดมนต์ค่อยๆอ่านไปเรื่อยๆค่ะใจที่ฟุ้งซ่านจะค่อยๆสงบๆแล้วคุณจะรู้สึกว่าอะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด..อ่านหนังสือสวดมนต์เยอะๆมีผลให้สายตาล้า..หลับดีกวาเรา..อิอิ...

ครึ ครึ ครึ..

เป็นการง่าย ยิ้มง่าย ไม่ต้องฝืน

เมื่อชีพชื่น เหมือนบรรเลง เพลงสวรรค์

แต่คน ที่ควรชม นิยมกัน

ต้องใจมั่น ยิ้มได้ เมื่อภัยมา..

วาง..ได้เมื่อไหร่ ก็หายเครียดเมื่อนั้น(ฮา..)

การนั่งสมาธิ เป็นวิธีคลายเคลียดดีที่สุด แต่��¸„นเรานั้นเมื่อมีความเคลียดเกิดขึ้นจริงๆ เหตุผลในตัวคือเป็นกรรมที่เกิดจากการกระทำของเราที่ได้ทำไว้

อ่านการตูน ไม่ก็อุ้มลูกไปเล่น ไม่ก็นั่งกีนกาแฟดูสาวเดีนผ่านไปมา

หยุดคิดครับ! ถ้าไม่คิดก็ไม่เครียดครับ?

นั่งสมาธิ สวดมนต์

ธรรมะช่วยคุณได้ ลองฝึกนั่งสมาธิหรือสวดมนต์จะช่วยให้คุณรู้สึกสงบ มีสมาธิที่แน่วแน่และอาจจะทำให้คุณหายจากความตึงเครียดไปได้โดยไม่รู้ตัว

เขียนไดอารี่ระบายอารมณ์

งานก็หนักเครียดก็เครียดแถมยังระบายให้ใครฟังก็ไม่ได้อีก วิธีที่ดีที่สุดก็คือการเขียนไดอารี่เพราะการเขียนไดอารี่นอกจากจะทำให้ได้รู้ว่าในแต่ละวันคุณทำหรือเจอะเจอกับอะไรบ้างแล้วนั้น ไดอารี่ยังเป็นที่ระบายอารมณ์ได้ดีอีกด้วย เขียนไปเลย เต็มที่ ไม่ต้องยั้ง ไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครรู้ เพราะมันเป็นไดอารี่ส่วนตัวของ��¸„ุณ

ปรับเปลี่ยนทัศนคติ

การมีทัศนคติในด้านลบต่อสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่คุณต้องพบเจออยู่ตลอดเวลาย่อมไม่เป็นผลดีแน่ ๆ ดังนั้น ขอให้คุณได้ปรับเปลี่ยนทัศนคติที่แย่ ๆ กับสิ่งเหล่านั้นซะใหม่ อาทิเช่น หากคุณคิดว่างานนั้นยากทำไม่ได้ก็ขอให้คิดซะใหม่ว่า งานนั้นถือเป็นสิ่งที่ท้าทายต้องลองสู้ดูถึงจะรู้ผลว่ายากจริงหรือไม่