Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

FBI ถามใน สุขภาพอื่นๆ เกี่ยวกับสุขภาพ · 9 ปี ที่ผ่านมา

อ่านบทความนี้แล้วคิดว่าไงครับ?

5 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 9 ปี ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    การฝังเข็มรักษาโรคอัมพาตอัมพฤกษ์

    โรคอัมพาตเป็นโรคที่พบบ่อย ผู้ป่วยมักจะมีอาการแขนขาอ่อนแรงซีกใดซีกหนึ่ง จึงนิยมเรียกว่า “อัมพาตครึ่งซีก” ถ้าอาการแขนขาอ่อนแรงมากจนขยับเคลื่อนไหวไม่ได้เลยเรียกว่า "อัมพาต" หากยังพอขยับเคลื่อนไหวได้บ้างเรียกว่า "อัมพฤกษ์" ผู้ป่วยอาจมีอาการชาครึ่งซีก,ปากเบี้ยว,พูดไม่ชัด,กลืนลำบาก,เวียนศีรษะร่วมด้วย ในรายที่เป็นรุนแรงผู้ป่วยอาจหมดสติหรือชักกระตุก และเสียชีวิตไปได้ในเวลา อันรวดเร็ว.

    ทางเลือกใหม่ในการรักษาโรคอัมพาต

    กล่าวสำหรับการแพทย์แผนปัจจุบันแล้วการรักษาโรคอัมพาตยังเป็นเรื่องที่ยากมาก เพราะผลการรักษายังไม่ดีเท่าที่ควรเมื่อเทียบกับโรคอื่นๆหลายโรค จุดหนักของการรักษาทางการแพทย์แผนปัจจุบันจะอยู่ที่การช่วยชีวิตให้รอด และการป้องกันมิให้เกิดอัมพาต ส่วนความพิการของร่างกายที่เกิดขึ้นได้แต่รอการฟื้นตัวของสมองและ ระบบประสาทของตัวผู้ป่วยเองเป็นสำคัญ

    แต่เดิมเราเข้าใจกันว่าระบบประสาทเมื่อเสียหายไปแล้วจะไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ แต่ในช่วง 10 กว่าปีมานี้ วงการแพทย์และวิทยาศาสตร์ได้พบว่า ระบบประสาทและสมองของคนเรามีกลไกในการฟื้นตัวขึ้นมาได้ เมื่อมีการกระตุ้นที่เหมาะสม ซึ่งเรียกคุณสมบัตินี้ว่า “ความยืดหยุ่นของระบบประสาท (Neuroplasticity)” ซึ่งแม้กระทั่งในผู้สูงอายุก็ยังมีกลไกการฟื้นตัวนี้อยู่

    วิธีการฝังเข็มรักษาโรคอัมพาตนั้น ต่างจากการรักษาของการแพทย์แผนปัจจุบัน คือ มันสามารถกระตุ้นให้ระบบประสาทและสมองที่เสียหายมีการฟื้นตัวขึ้นมาได้โดยตรง แทนที่จะเฝ้าแต่รอดูว่า มันจะฟื้นตัวมาได้แค่ไหน

    แพทย์จีนรู้จักใช้การฝังเข็มรักษาโรคอัมพาตอัมพฤกษ์มานานนับกว่าพันปีมาแล้วและมีการค้นคว้าพัฒนามาโดยตลอดในครึ่งศตวรรษที่ผ่านมานี้ แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ได้สนใจค้นคว้าวิจัยเกี่ยวกับโรคนี้เป็นอย่างมากจนสามารถยืนยันได้ว่า ผู้ป่วยอัมพาตที่ได้รับการฝังเข็มรักษาจะสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพร่างกายได้ดีกว่าผู้ที่ไม่ได้รับการฝังเข็ม อีกทั้งยังมีอัตราการตาย,การเกิดอาการแทรกซ้อนน้อยกว่าอีกด้วย

    องค์การอนามัยโลกแห่งสหประชาชาติ (WHO) ได้เห็นศักยภาพในการรักษาโรคนี้ด้วยการฝังเข็มจึงจัดให้มีการศึกษาและได้รับรองผลการรักษาโรคอัมพาตด้วย การฝังเข็มมาตั้งแต่ปี พศ.2522 แล้ว

    เดือนพฤศจิกายนพศ.2540 สถาบันสาธารณสุขแห่งชาติของสหรัฐอเมริกาหรือ NIH ก็ได้ยอมรับเช่นกันว่าการฝังเข็มเป็น “วิธีการรักษาร่วมที่มีประโยชน์” และเป็น “ทางเลือกที่สมเหตุผล” ในการฟื้นฟูความพิการจากโรคอัมพาต

    การฝังเข็มจึงเป็นทางเลือกใหม่สำหรับผู้ป่วยโรคอัมพาต……

    เด็กที่เป็นอัมพาตก็สามารถฝังเข็มรักษาได้ และมักจะได้ผลดีกว่าในผู้ใหญ่

    การฝังเข็มรักษาโรคอัมพาตได้อย่างไร

    การฝังเข็มเป็นการใช้เข็มปักลงไปยังจุดปลายประสาท เพื่อกระตุ้นระบบประสาท และระบบฮอร์โมน ทำให้สามารถ

    กระตุ้นให้เซลล์สมองที่เสียหายฟื้นตัวคืนมา

    กระตุ้นให้มีการสร้างวงจรประสาทใหม่ เพื่อทำงานทดแทนเซลล์สมองส่วนที่ตายไปแล้ว

    กระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปยังสมองและทั่วร่างกายมากขึ้น ลดความหนืดของเลือด

    กระตุ้นให้กล้ามเนื้อมีการหดตัว ทำให้กล้ามเนื้อไม่ลีบ และฟื้นกำลังมาได้

    รักษาความพิการบางอย่างที่ไม่อาจใช้การทำกายภาพบำบัดทั่วไปมาฟื้นฟูได้ เช่น การกลืนลำบาก พูดอ้อแอ้ไม่ชัด ปากเบี้ยว อาการชา อาการปวดแสบปวดร้อน ภาวะสมองเสื่อม อาการสั่นกระตุก เป็นต้น

    การฝังเข็มสามารถรักษาอาการกลืนลำบาก พูดจาอ้อแอ้ไม่ชัดของผู้ป่วยอัมพาตได้เป็นอย่างดี

    การฝังเข็มรักษาโรคอัมพาตควรรีบทำให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะเป็น ”โอกาสทอง” ในการรักษาผลการรักษาจะดีมากทีเดียว

    ผู้ป่วยอัมพาตที่มาฝังเข็มรักษาภายใน 1 เดือนแรกนับตั้งแต่เป็นอัมพาตจะได้ผลถึง 80% - ขึ้นไป หากมารักษาในภายหลังก็จะได้ผลการรักษาลดน้อยลงไป เนื่องจากสมองและระบบประสาทเสียหายจนถึงขั้นที่ไม่สามารถเอากลับคืนมาได้แล้วนั่นเอง

    ผู้ป่วยอัมพาตที่เป็นมานานก็สามารถฝังเข็มรักษาได้

    แม้ว่าอาจจะไม่สามารถทำให้เป็นปกติได้ แต่ก็สามารถทำให้ความพิการที่หลงเหลืออยู่นั้นทุเลาลงไปได้ ตัวอย่างเช่น คุณลุงประยงค์เป็นอัมพาตมา 4 ปีเศษ มีอาการแขนซ้ายเกร็งกระตุกอยู่ตลอดเวลา จนไม่สามารถจับถือสิ่งของได้เลย เมื่อมาฝังเข็มรักษาอาการกระตุก สามารถทุเลาลดลงได้ถึง 90%

    โดยทั่วไปแล้วแพทย์จะฝังเข็มรักษาสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ติดต่อกันประมาณ 10 ครั้งถือเป็น 1 ชุดการรักษา แล้วหยุดพักการรักษาประมาณ 1 สัปดาห์เพื่อให้ระบบประสาทมีการปรับตัวไม่ล้าจนเกินไป หากยังไม่หายดีก็จะทำรักษาต่อไปอีก 10-20 ครั้ง ทั้งนี้ขึ้นกับสภาพของผู้ป่วยแต่ละคนที่แพทย์จะต้องพิจารณา

    หากฝังเข็มรักษาครบ 30 ครั้งแล้วอาการไม่ดีขึ้นแสดงว่าระบบประสาทเสียหายมาก ควรหยุดทำการรักษาแต่ถ้าหากผู้ป่วยมีอาการดีขึ้นเป็นลำดับ ควรฝังเข็มกระตุ้นระบบประสาทไปอีกเรื่อยๆ เพราะอาจสามารถฟื้นฟูสมรรถภาพได้อีก ตัวอย่างเช่น ป้ารัตนาเป็นอัมพาตครึ่งซีกจากสมองขาดเลือดมาทำการรักษารวมทั้งหมด 90 ครั้ง สามารถฟื้นฟูสู่สภาพปกติได้ กระทั่งมือข้างอัมพาตสามารถทำงาน ละเอียดถึงกับสนด้ายผ่านรูเข็มได้

    โรคอัมพาตนั้นเป็นโรคที่สลับซับซ้อน แม้ว่าการฝังเข็มจะเป็นการรักษาที่ได้ผลดีมาก แต่ว่าผู้ป่วยยังต้องได้รับการรักษาวิธีอื่นๆร่วมไปด้วย อาทิเช่น

    ใช้ยารักษาโรคที่เป็นสาเหตุพื้นฐานเช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง ไขมันในเส้นเลือดสูง โรคหัวใจ เป็นต้น เพื่อป้องกันมิให้เกิดอัมพาตซ้ำอีก

    ทำกายภาพบำบัด

    การได้รับกำลังใจและความช่วยเหลือจากญาติหรือผู้ดูแล ทำให้ผู้ป่วยมีกำลังใจเข้มแข็ง สามารถยืนหยัด อดทนรักษาเป็นเวลานานได้ เช่นนี้จึงจะทำให้ได้รับผลการรักษาที่ดีได้

    ความคิดคือว่าอัมพาตสามารถรักษาหายได้ค่ะ มันอาจจะขึ้นอยู่กับโชคช่วยดด้วยก็ได้

    แหล่งข้อมูล: www.yanhee.co.th/thaiacpuncture-website/strokes.htm
  • ?
    Lv 7
    9 ปี ที่ผ่านมา

    เป็นทางเลือกที่ดีค่ะ

    เพราะ..................

    เคย " ฝังเข็ม "

    เพื่อรักษา ............อาการปวดข้อ

    ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าจะ ........... หาย ค่ะ

    ก่อนหน้านั้นรักษาที่.........โรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งแถว " ถ. เพชรบุรีตัดใหม่ "

    รักษาตั้งแต่ปวดเล็กน้อย ยิ่งรักษาอากายิ่งแย่

    ทั้งเปลี่ยนหมอ เปลี่ยนยา มาปีกว่า

    จน.............เซ็ง แล้ว..........เลิกรักษาค่ะ

    ทางเลือกสุดท้ายก็คือ.............การฝังเข็ม

    อย่างที่กล่าวมาขั้นต้นค่ะ

    คือ..................

    " หายขาดดดดดดดดดดดดดดด "

    .............ฮึฮึฮึฮึ.............

  • ไม่ประสงค์ออกนาม
    9 ปี ที่ผ่านมา

    เป็นทางเลือกที่คนจำนวนไม่น้อยใช้ค่ะ แพทย์จีนยังมีวิธีอื่นๆอีกเช่น ใช้ สุญญากาศ

    ในการรักษา มีเป้าหมายเดียวกัน ถ้าเทียบกับแผนไทยก็กล่าวถึงไฟธาตุ เช่นกันค่ะ

    ส่วนผลการรักษาจะให้ผลรักษาได้ ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม แต่ละรายคำตอบไม่เหมือนกัน

    บางคนก็เพียงแต่ดีขึ้น ความเหมาะสมจึงขึ้นกับสภาพร่างกายตอบสนองการรักษาแบบ

    ใดค่ะ

  • 9 ปี ที่ผ่านมา

    มันก็เป็นทางเลือกที่ดีไม่ใช่หรือ? สำหรับคนไข้ที่มีจิตใจอ่อนแอ อย่างน้อยก็เป็นความหวังที่จะรักษาให้ดีขึ้นเร็วขึ้นเป็นกำลังใจอย่างหนึ่ง

    แต่คนรุ่นใหม่ๆ อย่างคุณหรือคนหลายๆ คนที่เจอ ต้องการ การพิสูจน์และยืนยันทฤษฎีต่าง ๆ ทางวิทยาศาสตร์ให้ได้ให้แน่นอน อย่าง ดิฉันล้มบาดเจ็บที่สะโพก แต่ไม่ได้ล้ม****** จึงไม่ไปหาแพทย์ปัจจุบัน แต่ไปทำการรักษาที่เรียกว่าการประคบลูกประคบยา ซึ่งก็ไม่ได้เบิกค่ารักษาพยาบาลเพราะเบิกไม่ได้ และไม่มีใบรับรองแพทย์ ก็มีคนถามว่าทำไมไม่รักษาหมอฉีดยา ทานยาแผนปัจจุบัน ที่ไม่ทานอาจเป็นเพราะว่า มีคนเตือนว่ายาแผนปัจจุบันทานมากๆ จะเกิดการเป็นนิ่ว และตับไตจะอ่อนแอ จึงไม่ทานก็คงเป็นเรื่องแปลก

    แต่สำหรับดิฉันเหตุที่เชื่อแพทย์ทางเลือกทั้งของจีน อายุรเวช ยาหม้อของไทยเพราะ ตนเคยเป็นภูมิแพ้ที่เมื่อเป็นไข้หวัดป่วย หรือเครียด หรือแม้กระทั่งแพ้อากาศ ฝุ่นละออง น้องหมาแมว อะไรที่ไม่เคยแพ้อย่างอาหารจู่ๆฏ้แพ้ได้ จะขึ้นที่ผิวเป็นอาการคันที่ไม่มีสาเหตุ เมื่อไม่หายภายใน 2-3 วัน ก็จะเป็นนานเป็นอาทิตย์ และก็จะเป็นติดต่อการไปเรื่อยๆ เดือนเว้นเดือนหรือติดกัน 3 เดือนก็มีแม้ว่า อาการของโรคหวัดหายแล้วก็ตาม จึงไปพบแพทย์ทางเลือกเหล่านั้น และหายจากอาการดังกล่าวจึงเชื่อเรื่องแพทย์ทางเลือกอยู่มาก ตอนที่เป็นเรียกได้ว่า ญาติๆ จะเห็นตามแขนขาเลยทีเดียวจึงพากันแนะนำ แพทย์ทางเลือกให้ อย่างของไทยจะมียาอาบน้ำ อบตัว ของจีนมียาดื่ม

  • 6 ปี ที่ผ่านมา

    โรคอัมพฤกษ์,อัมพาต โรคเส้นเลือดในสมองสโตร์ก (Stroke) จะมีอาการปวดหัวรุนแรง และหมดสติทันที กล้ามเนื้ออ่อนแรง ชาครึ่งซีก พูดลำบาก เสียหลักการทรงตัวและการมองเห็นผิดปกติ

ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้