ถ้ามีคนมาว่าคุณว่า "มือถือสากปากคาบคัมภีร์"คุณจะรู้สึกยังไง?

ผมขอตอบในส่วนของหัวข้อคำถามนะ ( ในส่วนของรายละเอียดเพิ่มเติม อ่านไม่ค่อยรู้เรื่อง )

ปุถุชน ( คนทั่วไป ) มีกิเลส โกรธ หลง ย่อมโกรธที่มีคนมาด่าว่า ตรงข้ามกับมีคนมาชมเชย

ผมเองก็เช่นกัน ถ้ามีคนมาด่าว่าก็จะรู้สึกโกรธ เสียใจ ( เสียใจที่มีคนไม่ชอบเรา )

แต่หลังจากนั้น ผมก็คงจะคิดว่าอะไรทำให้เขาด่าอย่างนั้น และพยายามลดพฤติกรรมที่ส่อไปในทางที่เขาด่าลง ( ถ้ามี ) เพื่ออนาคตจะได้ไม่โดนด่าอีก

เรื่องอะไรที่เข้ามาทำร้ายความรู้สึกเรา ปล่อยผ่านไปเลยค่ะ ตัวเราเองรู้เท่านั้น ว่าเราเป็นอย่างไร ทำอะไร ในสังคมเรานั้นมีทั้งคนดี และคนไม่ดี เราไม่ได้เป็นแบบนั้นสิ่งที่ไม่ดีจะย้อนกลับไปหาตัวเค้าเอง อย่าเก็บคำพูดของใครๆ ที่ไม่เคยเห็นใครดี มาทำร้ายตัวเราเองเลยค่ะ

ไม่โกรธร็อค...คนถามคงถือคัมภีร์อยู่ในมือขณะทีอมสากอยู่ในปาก ก็เลยอ่านคัมภีร์ไม่ได้

ถ้าอ่านได้ คงไม่กล้าว่าคนอื่นด้วยประโยคนี้หรอก อิอิ

ปากคาบคัมภร์ ก็แปลว่าดีน่ะสิ ส่วนมือถือสาก เอาไว้เขวี้ยงคนปากไม่ดี

ดีไหมเธอ บอกเขาไปอย่างงั้น มั่งก็ดีนะคะ จะได้เป็นการแก้นิสัยคนเราด้วย

ถ้าเป็นผม ผมไม่โกรธหรอก

เพราะคนที่ว่าเราก็ยังไม่รู้ประสา

แค่จะว่าเราก็พูดผิดซะแล้ว

สำนวนจริงนั้นเขาจะว่า"ปีศาจคาบคำภีร์"

หมายถึงคนที่ชอบพูดถึงความดีงามถูกต้อง

ติคนนู้นว่าคนนี้ แนะคนนั้น

แต่ตัวเองทำไม่ได้สักอย่าง

เป็นดั่งเช่นปีศาจ ที่บังอาจสอนศิลธรรม

ส่วนอีกสำนวน คือมือถือสาก ปากถือศิล

ก็เป็นสำนวนเปรียบเปรย คนที่ คอยถือสากไว้เขวี้ยงกบาลคนอื่นที่คิดต่างทำต่างไปจากตน แต่ปากนั้นก็พร่ำบอกฉันเป็นคนดี ไม่ทำอะไรชั่วแบบนั้นหรอก

อย่าไปโกรธเค้าเลยนะครับ

เขาช่างไม่ประสาเอาเสียเลย จริงๆ

โกรธ สิคับ...อยู่ดีดีมาว่า อย่างไม่ให้เหตุผล....

หรือเพราะ เห็นอะไรมา อยากรู้อะไรก็ถามมาสิ จะได้อธิบายได้....

แอบโกรธในใจค่ะ โกรธเสร็จก็มาพิจารณาตัวเองว่าเราเป็นแบบที่เขาว่าไหม

ควรปรับตัวยังไงบ้างเพื่อจะได้อยู่ร่วมกับผู้อื่นโดยไม่สร้างความเดือดร้อนแก่ใครมากนัก

เพราะ "มือถือสากปากคาบคัมภีร์"

น่าจะหมายถึงพูดอย่างทำอย่าง พูดดีมีหลักการแต่มีความประพฤติร้าย

เขาว่า มือถือสาก แสดงว่าเรามือไม่ว่าง เพราะถือสากมันหนักต้องประคองสองมือ

จึงเป็นเหตุให้เขากับเราไม่เคยได้จับมือกัน

ปากคาบคัมภีร์ แสดงว่า ถึงรู้ข้อความในคัมภีร์ก็ไม่สามารถเอ่ยปากสอนหรือพูดออก

มาได้ จึงเงียบเสียไม่ให้ธรรมแก่เขา

สรุปว่า เขาว่าเรากับเขา " ไม่รู้จักกัน "

ช่างมันเถอะ อยู่เฉยๆคนเอาเรื่องมาให้ ใช่จะมีแต่เรานา....

ถอยให้สุดตัวเมื่อคนที่คุยด้วยไม่มีเหตุผล ไร้เหตุผลพูดไปก็ไม่มีเหตุผล .....

ความรู้สึกส่วนตัว

อย่าเก็บเอามาใส่ใจให้ขุ่นมัวเลยค่ะ

จะทำให้เราไม่สบายใจไปเปล่า ๆ

" จำไว้นะ ใครจะพูดอะไรก็ช่างเขา

กรรมมันอยู่ที่ผู้พูด ไม่ใช่อยู่ที่เรา

ไม่ต้องไปรับมาใส่ใจ "

...หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน....

...................................................

น่าจะยิ้มสู้นะครับ"มือถือสากก็คงเห็นว่าเราเก่งงานครัวปากคาบคัมภีร์ก็คงเห็นว่าเราแก่กล้ายุทธจักรไง"คิดดีเข้าไว้และก็ยิ้มหวานๆก่อนพูดกลับไปว่า"ขอบคุณมากค่ะ"ก็แล้วกันนะฮึฮึ

มนุษย์ ก็ปกติ นะล่ะ อะไรทีไม่ถูกใจตัวเอง ก็ตำหนิ

การตำหนิก็มี 2แบบ..พูดได้ยินเสียง

...พูดในใจ

การปลล่อยวางทางธรรมะ..คงใช่ได้ในตอนนี้แหล่ะ..