ระหว่างมีผู้นำแบบ KING กับ ประธานาธิบดี คุณคิดว่าอย่างไรดีกว่า ทำไม..?

ผู้นำเเบบ KING ในปัจจุบันทั่วโลกก็ไม่ค่อยมีอำนาจเท่าไรเเล้วครับ เเต่ประชาชนส่วนใหญ่ยังรักเเละเคารพนับถือ

ในรูปเเบบประชาธิปไตย กษัตริย์ก็สามารถอยู่ร่วมกับรูปแบบการปกครองอื่นๆ นายกรัฐมนตรี หรือ ประธานาธิบดี

รูปเเบบไหนดีที่สุด โดยส่วนตัวคือรูปเเบบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นองค์ประมุข โดยมี นายกรัฐมนตรี หรือ ประธานาธิบดี เป็นฝ่ายบริหารจัดสรรค์งบประมาณ ทรัพยากรอันจำกัดให้เเก่ประชาชนผู้เลือกบุคคลเหล่านั้น โดยผู้บริหารสมควรฟังคำเเนะนำ ตักเตือน ของประชาชน เเละ บุคคลเบื้อสูง โดยไม่ลุเเก่อำนาจ ครับ

ผมขอชื่นชมในคำคามครับ โดยคำถามข้อนี้ เคยถูกหยิบยกขึ้นมาในขณะผมกำลังศึกษาวิชาการเมืองที่สถาบันพัฒนาการเมืองเเละการเลือกตั้ง ก่อนเข้ามาสู่อาชีพนักการเมืองครับ ในความเป็นจริงๆ เเล้วเพื่อนๆนักการเมืองร่วมรุ่นมีความคิดหลากหลายครับ หลายๆคนก็หลุดโลก เเบบเผด็จการบ้าง ไรบ้าง เเต่ตัวผมคิดว่าเเบบที่ผมเเนะนำไปน่าจะเหมาะสมที่สุดนะครับ

จะเป็น King หรือ President ก้ไม่แตกต่างอะไรสำหรับคนไทยที่ยังคงทำตัวเป็น

กบเลือกนาย เพราะในกระแสโลก หลากๆคนชอบเรียกร้องหาระบอบการปกครอง

แบบประชาธิปไตย ทั้งๆที่ คำว่าประชาธิปไตย สำหรับคนไทยหลายๆคน ก็ยังคง

ใช้คำว่าพูดตามๆกันไป และการแสดงออกในความเป็นประชาธิปไตยที่ดูเหมือน

หรือคลับคล้ายคลับคลาว่าเป็นประชาธิปไตย แต่ไม่รู้ว่าใช่ประชาธิปไตยหรือไม่

วันนี้หลายคนไปพาลเหมาเอาว่าระบอบประชาธิปไตยคือสิ่งที่ดีที่สุด แต่ลืมนึกไป

ด้วยเช่นกันว่า ในระบอบการปกครองที่ดี มันไม่มีแต่จะมีคำว่าเลวน้อยที่สุดซะมาก

กว่า

คนไทยหลายคนเห่อไปตามกระแส ที่คิดว่า ประธานาธิบดี คือการเลือกตั้งโดย

ตรงจากคนส่วนใหญ่ของประเทศ ส่วน กษัตริย์คือเป็นเรื่องของการตกทอดใน

ลักษณะของสันตติวงศ์ ที่ไม่ได้ผ่านกระบวนการเลือก แล้วไปพาลเหมาเอาว่า

นี่แหละคือไม่เป็นประชาธิปไตย แบบเอาสีข้างเข้าถูก็ไม่ปาน เพราะในการสืบ

สันตติวงศ์นั้น เป็นเรื่องที่สืบทอดกันมาช้านาน (โยราณราชประเพณี) ในสังคม

ไทย

วันนี้คนไทยต้องคิดให้หนักว่า จะไปตามกระแสโลกนิยม หรือควรยึดหรือสร้าง

แบบอย่างในสิ่งที่ควรเป็นและเหมาะสมที่สุดสำหรับประเทศไทส เชื่อว่าหลายๆ

ครั้ง คนไทยคิดเพียงว่า โลกนี้คือเสรีนิยม ดังนั้น คนส่วนใหญ่เห็นอย่างไรก็

ต้องว่าอย่างนั้น แต่มีคนไทยคนไหนบ้างที่จะฉุกคิดได้ว่า การออกแบบในการอยู่

รอดของสถาบันกษัตริย์ ในช่วงหลังปี 2475 ที่มีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง

ที่ทำให้สถาบันกษัตริญ์ในประเทศไทยค่อยๆลดความสำคัญลง จนเชื่อได้ว่า

อีกไม่ช้าไม่นาน ระบอบการปกตรองของไทยในส่วนของสถาบันกษัตริย์

จะถูกเปลี่ยนผ่านในที่สุด เพราะ ในการลำดับขั้นในส่วนของราชวงศ์นั้นหาก

มีการสมรสกันด้วยฐานันดรที่ต่างกัน ยศฐาบรรดาศักดิ์จะลดลงตาม เช่น

ม.ร.ว.แต่งงานกับ ม.ล. ทายาทที่ออกมาจะเป็น ม.ล. แต่หากม.ล.แต่งกับ

คนสามัญ ยศฐาบรรดาศักดิ์ก็จะหายไป ซึ่งเป็นการกลืนสถาบันกษัตริย์

ลงไปเรื่อยๆจนหมด

แต่ด้วยในการเปลี่ยนผ่านนั้น กลับกลายเป็นการสร้างปัญหาให้กับคน

ไทยที่มีนิสัยอย่างกบเลือกนาย ที่พยายามที่จะรีบ เพื่อให้การเปลี่ยน

ถ่ายนั้นเสร็จสิ้นโดยไวเพราะเชื่อว่ามีอำนาจมืดชักนำหรืออยู่เบื้องหลัง

สถาบันกษัตริย์ ซึ่งแม้นแต่สถาบันเองก็ยังใช้อำนาจมืดเหล่านั้นค้ำ

ราชบัลลังก์ด้วยซ้ำไป

ดังนั้นการมีผู้นำแบบกษัตริย์ หรือ ประธานาธิบดี ไม่ใช่คำถามที่

ต้องการคำตอบว่าอะไรดีกว่ากัน แต่สิ่งที่เป็นคำตอบที่แท้จริงขึ้น

อยู่กับว่า ใครมีความสามารถในการนำที่มากกว่า จริงหรือไม่หละครับ

วันนี้หลายคนเชื่อว่า ม.เมี๊ยวคือผู้นำ ซึ่งการนำของเขาทำได้ดีแต่

จิตวิญญาณของการเป็นผู้นำในการหล่อหลอมคนในชาตินั้น เขายัง

ไม่สามารถครองใจคนทั้งประเทศได้

ชอบประชาธิปไตย ได้ทุกแบบ

อย่าให้แอบ อำนาจลับ จนจับเห็น

ยิ่งเดี๋ยวนี้ มี online ใครก็เป็น

ไม่ต้องเล่น เอาจริงจัง ฟังทุกคน