ถ้าเจ้านายมอบหมายงานให้เยอะ แปลว่าให้เพราะเห็นว่าทำได้ หรือว่ากลั่นแกล้งค่ะ (งานเยอะค่ะตอนนี้)?

คำถามนี้เคยเกิดขค้นในใจผมมาประมาณยี่สิบกว่าปีแล้ว เรื่องเจ้านายชอบใช้งาน

ผมเองทีแรกก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมคนอื่น���ีตั้งเยอะตั้งแยะกลับไม่ใช่ อะไรอะไรก็มา

ลงแต่ตรู ซ้ำร้าย เจ้านายให้พนักงานจัดโต๊ะให้นั่งด้านหน้าเจ้านายซะอีก

พอเราลงมือทำงาน ท่านเจ้าประคุณก็จะเรียกขอปรึกษาหารือ พอหันกลับมาทำ

งานเจ้าประคุณก็เรียกอีก แบบกะว่าไม่ให้ตรูทำอะไรได้ประมาณนั้นเชียว จน

ในที่สุด ตัวเราก็ต้องเข้าสู่โหมดการทำงานล่วงเวลาเข้าให้เพราะเวลาปรกติ

ทำอะไรไม่ได้มาก แต่นึกว่าจนแล้วจนรอด ท่านเจ้านายก็มักจะแสดงความขยัน

ออกมา โดยแสดงสปิริตกลับบ้านพร้อมกับลุกน้องเข้าให้ โดยในระหว่างการ

ทำงาน โอ้วมายกอต ท่านเจ้านายก็เรียกไปนั่งคุยแบบให้งานไม่ได้ทำเลยเชียว

แต่ผมได้รับผลตอบแทนเป็น การเล่ากลยุทธ์สามก๊กให้ฟัง โดยในทีแรกก็ไม่เข้าใจ

หรอกก็อาศัยฟังๆไป กะว่าพล่ามๆเข้าจะได้จบๆไป

จนในที่สุดการแตกหักก็มาถึง โดยไอ้เราก็เริ่มโวยวายในอีกหลายวันต่อมาเรื่อง

ที่ไม่มีโอกาสในการทำงาน แต่ในที่สุดเจ้านายก็เรียกไปเสวนาโต๊ะกลมเรื่อง

ดังกล่าว โดยสอนเราว่า

การทำอะไรใดๆก็ตามต้องมีสตินึกรู้ การมีสมาธิในการทำงานคือสิ่งสำคัญ จิตใจ

ที่จดจ่ออยู่กับงานอย่างจะมีสมาธิ จะทำให้งานเสร็จได้ ดังนั้นไม่แปลกอะไรที่ท่าน

เจ้ายายเรียกเราไปใช้แล้วปล่อยให้เรากลับมาทำงาน โดยกะว่าจะฝึก สติและปัญญา

ให้เราทีเดียวเชียว โดยท่านก็ฝึกแบบนี้ให้ผมมาโดยตลอด ทั้งป้อนงาน ส่งงาน

ใช้ทำงานมากมาย แม้นกระทั่งให้ไปอบรมแทนท่านก็มี

จากวันนั้นถึงวันนี้ผมมีกิจการเป็นของตนเอง สมารถเผชิญชีวิตในสังคมการ

แข่งขันได้อย่างสมบูรณ์แลัวอย่างนี้จะไม่ให้ผมขอบคุณเจ้านายได้อย่างไรหละครับ

ที่อย่างน้อยวันนี้ ท่านก็ให้สิ่งที่เป็นสิ่งที่เรียกว่าวิเศษที่สุดอย่างนึงสำหรับผม ไงก็

อยากให้ท่านเจ้าของกระทู้นิ่งซักนิดแล้วลองปฎิบัติดูไปนะครับ วันนี้อาจมองไม่เห็น

แต่อนาคตกาล คำพูดของผมคงอาจเข้าไปอยู่ในโสตประสาทของคุณบ้างก็ได้ครับ

คงต้องดู ที่เหตุผล คนทั้งสอง

เจ้านายต้องการผู้ช่วย อำนวยผล

ลูกน้องเก่ง เจ๋งนี่นา น่าฝากตน

หรืองานหล่น จากเบื้องสูง จูงกันมา

สมัยนี้ ดูผลงาน มิใช่หรือ

เนื้องานคือ ตัวบ่ง ส่งคุณค่า

ใช่แต่งสวย รวยคำ ดั่งทำมา

ต้องตั้งตา ทำจริง สิ่งที่ควร

มองในแง่ที่ดีก่อนเขาอาจมองหาคนอื่นๆที่ไม่ไว้ใจทำให้จึงได้เลือกคุณ ในทางตรงกันข้ามคุณดูงานที่ได้รับมอบหมายให้ประเมินดูว่างานเหล่านั้นเป็นงานที่สำคัญมากน้อยขนาดไหนสำหรับองค์กรหากดูแล้วว่าไม่ติดอันดับที่จะทำให้องค์กรได้รับประโยชน์เลยนั่นแหละมองไปในทางลบได้เลยครับ หากไม่ต้องการให้ปัญหาใหญ่มากขึ้นก็ทำๆไปเถอะครับเสร็จเมื่อไหร่ก็ชั่งหัวมันหัวเผือกไปเถอะ

ไม่เรียกว่ากลั่นแกล้ง

คุณควรดีใจนะคะ ที่เจ้านายมอบหมายงานให้ นั่นแสดงถึงว่าเจ้านายไว้ใจคุณค่ะ

เจ้านายเห็นว่าทำได้สิจึงให้ทำ จะแกล้งทำไม

แต่บางทีถ้าเจ้านายไม่รู้ก็ควรบอกว่ามีงานค้างอยู่ งานที่มาใหม่อาจจะทำให้ช้าหน่อย

หรือว่าเราต้องวางแผนให้เจ้านาย แบบว่าจัดการแทน ได้รับอาญาสิทธิให้รับผิดชอบเรื่องนี้ ก็เสนอแผนให้เจ้านายดู ขอมีสิทธิขอแรงเพื่อนร่วมงาน หรืออะไรที่จะขอให้งานของเจ้านายสำเร็จได้ ไม่ใช่ให้เราทำคนเดียว อย่างนี้ถ้าไม่จัดการก็แย่ หนักเองโดยที่มีคนอื่นๆที่ควรเข้ามาช่วย หรือแบ่งเบา เจ้านายน่าจะโอเคนะ

จริงๆแล้วถ้าคิดในแง่ดีแล้ว เจ้านายของคุณอาจจะเห็นในความสามารถจึงไว้ใจให้คุณทำงานมากๆ (ถ้าทำงานดีอาจจะได้เลื่อนขั้นเร็วนะคะ)

ครึ ครึ ครึ

มองได้หลายแง่น่ะ..คุณ

ให้แล้วสะบัดตูด ให้แล้วใครรับผิดชอบ ให้เพื่อสร้างทายาท

การเป็นหัวหน้าคน ต้องผ่านร้อนผ่านหนาว ตั้งมากมาย

การรับผิดขอบงาน หมายถึงข้อมูลมากมายที่ต้องผ่าน(Understand)และจำไว้(Memory & Remember)

แม้นเป็นการให้แล้วสะบัดตูด ผู้ได้ประโยชน์ก็คือคุณอยู่ดี(ข้อมูลเป็นใหญ่ โดยเฉพาะข้อมูลที่อยู่ในอาณัติ เคลื่อนที่ได้ด้วยตัวเอง ใครๆก็อยากได้และต้องการสูง แต่หายากมาก ซื้อได้ด้วยศรัทธาเท่านั้น ฮา..)

อย่างคุณ เรียก..เจ้านาย แสดงว่าเรียกด้วยความนับถือและยอมรับ(ศักยภาพสูงกว่า โดยเฉพาะด้านบริหาร)

คุณคงเป็นที่ยอมรับ กะอีแค่..ตอนนี้ งานอาจเยอะไปหน่อยก็เท่านั้น

ใจที่กอปรด้วย ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสา หรืออิทธิบาท 4 ผลงานย่อมลุล่วงไปด้วยดี

งานบางอย่าง ผู้หญิงทำได้ดีกว่าผู้ชายเสียอีก นักบริหารทุกคนย่อมรู้ดี(ฮา..)

คุณต้องดีใจนะนายคุณไว้วางใจคุณ ถึงให้งานมาทำเยอะ

เราว่า คุณต้องดีใจไว้ก่อนที่ เจ้านายให้งานคุณ(ซึ่งเพื่อนร่วมงานคนอื่นไม่มีโอกาสแบบนี้) ตั้งใจให้งานออกมาสำเร็จตามที่เจ้านายต้องการให้ดีที่สุดค่ะ...

คุณทำได้อยู่แล้ว+ส่งกำลังใจมาให้สู้ๆๆๆๆๆกับงานจิ๊บๆๆนี้นะค่ะ,

ไม่เกินความสามารถของคุณหรอก คนมีฝีมือซะอย่าง..