ว่างายยคร้าบบบพี่น้องไทยเงินกู้มหาศาลมาแล้วเตรียมตัวใช้หนี้งายดีคร้บบบ?

.....สบาย ๆ ค่ะ......

และ..........

ตั้งใจรับข้อมูลข่าวสาร ที่ " มีสาระ " เพื่อเพิ่ม " รอยหยักในสมอง "

แถม............มันส์ อีกต่างหาก

.........ฮึฮึฮึฮึ..........

............................................................

" คลิปวีดีโอ : 29-3-56 ชูวิทย์ อภิปรายกู้เงิน2ล้านล้าน "

http://video.mthai.com/player.php?id=6M1364564041M...

.............................................................................

'ชูวิทย์'อัดการรถไฟฯกลัวทำเจ๊งบริหารโครงการ ฉะกู้2ล้านล.มากไป

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม 2013

ที่รัฐสภา นายชูวิทย์ กมลวิศิษฐ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย อภิปรายร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาทว่า รัฐบาลจะกู้มาลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน คมนาคม สร้างเมืองใหม่

ผมสนับสนุน ผมจะได้ไปถึงเชียงใหม่ กินข้าวซอย กินผัดหมี่ โคราช ทำไมผมจะไม่ชอบ พี่น้องประชาชนก็ชอบ การขยายงานครั้งนี้ ผมไม่มีอะไรติเลย บอกจ่าประสิทธิ์ด้วยว่าไม่ต้องลุกประท้วงให้เสียเวลา

จากนั้น นายชูวิทย์ ยกตัวอย่างว่า เวลาที่พี่น้องประชาชนจะไปกู้เงินซื้อบ้าน ธนาคารเขาต้องดูประวัติ ดูเครดิตบูโร ทีนี้มาดูคุณชัชชาติ เก่ง เป็นอ.จบวิศวะ แกพูดอะไรผมก็ต้องเชื่อฟังแก คุณกิตติรัตน์ ตอนอยู่อเมริกายังแบ่งแฮมเบอร์เกอร์กินกันคนละครึ่ง ผมจะไม่เชื่อได้อย่างไร มีรองนายกฯโต้ง มีรมว.ชัชชาติ แต่ 2คน ไปหาแบงก์เขาไม่ให้กู้ หนึ่งเขาดูโครงการ สอง เขาดูหลักประกัน ผมและพี่น้องประชาชนจะเซ็นต์ค้ำประกันให้ กู้ 50 ปี ผมเป็นพ่อค้าวาณิช มีบาทกู้ 100 ยังเคยมี เมื่อวานท่านรองนายกฯเฉลิม ท่านไม่รู้เรื่องกู้เงินหรอก ท่านชอบของฟรี สาม ดูผลงาน ประสบการณ์ คนดำเนินการ พ่อแก้วแม่แก้วครับ ช่วยลูกช้างด้วย คนดำเนินการรถไฟประเทศไทยเป็นผู้ดำเนินการรถไฟความเร็วสูง กระทรวงคมนาคม อดีตปลัด ป.ป.ช.บอกเงินยึด 17 ล้าน 5 แสน มีเหลือบริ้นไร เดินกันเต็มกระทรวง ประธานก็ทราบ พอมาดูผลงานก็ต้องมาดูผลงานกันเพราะจะกู้ตั้ง 2 ล้านๆ

นายชูวิทย์ ได้ขอให้เจ้าหน้าที่เปิดคลิป (คลิปถ่ายสภาพของการรถไฟฯ) พร้อมบอกว่า ผมต้องมีคลิปมาบอกท่านประธานเสมอ ซึ่งคลิปที่เสนอเป็นบริการของการรถไฟ มีรูปหัวรถจักรเก่าซึ่งนายชูวิทย์บอกเป็นหัวรถจักรผีสิง เก้าอี้ที่ให้บริการยังเป็นไม้อยู่เลย และผลการดำเนินงานเข้าขั้นวิกฤติ ผมไม่ได้พูดเอง แต่สตง.บอกว่าการดำเนินการถึงขั้นวิกฤติ เพราะปี 54-56 ขาดทุน 82,000 ส่วนปี 56 คาดขาดทุนอีก 2 หมื่นล้านบาท รวมขาดทุน 1 แสนล้านบาท ยังไม่ทันทำอะไรเลย ก็ต้องเอาเงินไปลดขาดทุนสะสมของรถไฟหมดไปแล้ว 5%

2หมื่นกว่าล้าน ที่ลงทุนในแอร์พอร์ตลิ้งค์ คืนทุน 1,000 ปี ส่วน 2.2 ล้านล้านบาท คืนทุนแสนปี ไดโนเสาร์กลับชาติมาเกิด ถ้าผมเป็นแบงก์กลับไปดูผลงาน ผมต้องตกใจ ถ้าผมเป็นแบงก์ผมกลุ้มใจเลย จะให้กู้ได้อย่างไร แม้ผมจะเชื่อคุณชัชชาติ คุณกิตติรัตน์ แต่คน 2 คนจะกู้เงิน 2 ล้านล้านบาทมาแก้ปัญหาทั้งระบบ ผมพูดในหลักการของนักธุรกิจที่รัฐบาลจะไปลงทุน บอกว่าการลงทุนผลตอบแทนอาจจะไม่ใช่ตัวเงิน แต่เป็นความพึงพอใจ รับได้หรือเปล่าที่ขาดทุน 1 แสนล้านบาท รัฐมนตรีที่นั่งไปช่วยกันแก้ปัญหารถไฟก่อนดีไหม ผมไม่อยากจะไปขัดแย้ง เพราะสิ้นวันนี้เดี๋ยวก็ได้แล้ว 2 ล้านล้านบาท เอาอย่างนี้ไหม เพราะรัฐบาลไหนผมก็เห็นว่ามีการกู้เงิน ผมในฐานะนักธุรกิจ การกู้เงินเพื่อลงทุนขยายเครือข่ายพื้นฐานผมเห็นด้วย แต่ให้ดำเนินการควรแยกไปตั้งกระทรวงใหม่ ขืนให้การรถไฟฯทำผมว่าเจ๊งมากขึ้น เพราะมันพิสูจน์แล้ว ความเสื่อมโทรมของโครงการแอร์พอร์ตลิ้งค์ 2 หมื่นล้านบาท รกร้างว่างเปล่า ห้องน้ำยังว่างเลย ผมเรียนให้ทราบว่าเราแก้ปัญหาในส่วนที่เป็นผลงานของเรายังไม่ได้เลย ไอ้ที่ 2 ล้านล้านบาท เอาไป 5 แสนล้านบาทก่อนก็พอ แล้วมาดูผลงานกันก่อน บอกว่าจะอยู่ 4 สมัย 16 ปีก็เอาไปช่วยละ 5 แสนล้านบาท อีก 2 แสนล้านก็เอาไปในปีสุดท้ายตรวจสอบผลงาน

เราหาทางอ��กให้ประเทศ เราไม่ไว้ใจของผู้ดำเนินการ ปัญหาของผู้ดำเนินการผลงานเป็นที่ประจักษ์ว่าขาดทุนต่อเนื่อง วิกฤติแล้วไปยื่นงานให้ทำอีก 2 หมื่นกว่าล้านทำแอร์พอร์ตลิ้งไม่สำเร็จ แล้วเรายังจะไปยื่น 2 ล้านล้านบาทให้เขาทำอีก

"2ล้านล้านบาทมากเกินไป ผมไม่สามารถให้ได้ แต่ถ้า 5 แสนล้านพอให้ได้ จะอนุมัติให้"นายชูวิทย์กล่าว

ต้องใช้มาตรการ นิ่งๆ สงบความเคลื่อนไหว รวมตัวมนุษย์เงินเดือนทั้งหลายให้เข้าชื่อล้มเงินกู้ 2.2ล้านล้าน หากยังดำเนินการต่อ ให้เลี่ยงจ่ายภาษีหรืองดจ่ายภาษีเงินได้ หรือไม่ก็ลาออกจากงานกันให้หมด เพราะเมื่อมีงานทำก็ต้องถูกหักภาษีโดยผู้ว่าจ้าง อย่างผมลาออกจากงานเมืองไทย แล้วหนีไปทำงานต่างประเทศ ซึ่งบางคนก็ดูแคลนว่าเป็นกรรมกร แต่ผมว่าหากเราทำตัวเหมือนคนโง่นิ่งๆและยังให้คนโกงชาติหนีคุกมาหลอกสูบเลือดไปจากคนจนแบบนี้ ผมว่ายอมเป็นกรรมกรต่างแดนดีกว่า แม้จะได้ไม่ถึงแสนบาท แต่สบายใจกว่ากันมากมาย อย่ามัวเอาหูไปนาเอาตาไปไร่ แล้วทำเป็นทองไม่รู้ร้อน เดือดร้อนก็แกล้งไม่ร้อน ลำบากก็คิดว่าสบายใจ รู้แต่ว่าเป่านกหวีดเมื่อไหร่ผมก็กลับไทยเมื่อนั้น ถึงอยู่ต่างประเทศแต่ในใจรักชาติยิ่งชีพรักราชวงศ์จักรีพร้อมพลีกายถวายชีวิต ใครจะว่าบ้าก็บ้าในเรื่องที่ควรบ้า ไม่ใช่บ้าเชลียร์นช.หนีคุกขายชาติ เสียชาติเกิดมาเป็นมนุษย์จริงๆ

กู้มาทำอะไร ประโยชน์ทั่วถึง รึป่าว

ไม่ใช่แค่ กทม. นะที่จะได้ประโยชน์อ่ะ

แต่ตอนใช้ คนทุกภาคต้องเสียภาษี เพื่อไปใช้หนี้ด้วยน่ะ

ประโยชน์ไม่ได้ร่วม แต่มาใช้ หนี้ไปด้วย

ยาววไปปป

ก็กะว่า ต้องเก็บเงินเพิ่มเผื่อหนี้ของประเทศ อย่างถ้าเป็นแสนยังพอเก็บได้ แต่ถ้าเฉลี่ย/หัวมากเป็นล้านคงไม่ไหวแต่ก็โอเคนะ à��„รอบครัวเราแต่ละคนเก็บได้มากกว่า อยู่แล้ว ก็ถือว่า รอดแล้ว ไม่ได้เป็นคนมีหนี้มีสิน แต่ใครยังไม่มีเงินเก็บไว้เผื่อหนี้ประเทศ ก็คงเป็นคนมีหนี้มีสินไป