Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้
ลูกไม่นอนหรือนอนไม่คุณจะแก้ปัญหาอย่างไร เพื่อให้หลับ?
เด็ก อายุ 9 ปี ผู้ชาย
6 คำตอบ
- 8 ปี ที่ผ่านมาคำตอบที่โปรดปราน
ควรกำหนดเวลานอนให้ชัดเจน และเมื่อถึงเวลาก็เข้านอน อย่าตามใจเด็กอยู่หน้าจอทีวี คอมพิวเตอร์จนดึกมาก วินัยในบ้านเป็นสิ่งสำคัญมาก ควรฝึกหัดจนเป็นนิสัยประจำบ้าน และนิสัยประจำชาติ
- 6 ปี ที่ผ่านมา
เวปนี้เลยค่ะ ทำให้เด็กนอนหลับตลอดทั้งคืนเพราะเสื้อผ้าที่ออกแบบเพื่อการนอนหลับของเด็กโดยเฉพาะ >>>>http://www.winniebabystore.com/
- on-cesLv 58 ปี ที่ผ่านมา
แบ่งเป็น 4 สาเหตุคือ(อ่านเต็มๆได้ในลิงค์ค่ะ)
1 มีความเจ็บป่วย หรือโรค หรือความไม่สบายของร่างกาย ทำให้เด็กมีปัญหาการนอน
เช่น โรคที่ป่วยเรื้อรัง..ควรหาหมอ
2 มีปัญหาด้านจิตใจ(สมาธิสั้น) ปัญหาทางด้านโรคทางระบบประสาท(โรคชัก)
หรือจิตเวชในเด็ก..ควรหาหมอ
3 นอนหลับยากจากยาที่เด็กบริโภคอยู่ เช่น เช่น คลอรอลไฮเดรต (Chloral hydrate) ฟีโนบาร์บิทาล (Phenobarbital) ยากลุ่มขยายหลอดลมชนิดรับประทาน เช่น ธีโอฟิลลีน (Theophylline) ซึ่งทำให้นอนไม่หลับเพราะไปกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลาง การพ่นยาขยายหลอดลมไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องการนอนเพราะการออกฤทธิ์อยู่ในระยะเวลาสั้นกว่าชนิดรับ ประทาน ...ควรให้ยาก่อนเวลานอนนานขึ้น หรืองดยาไปเลย
4 เป็นนิสัยพื้นฐานของเด็กเองที่นอนหลับยาก (Behavior insomnia) ...ฝึกนอนให้เป็นเวลา,ถอยห่างให้เด็กมีเวลาเป็นตัวของตัวเอง, ให้กำลังใจหรือคำชมหรือให้ดาวเมื่อเด็กนอนตามเวลาที่วางไว้,เตรียมสภาพแวดล้อมให้เหมาะสำหรับที่นอน และสุดท้ายอาจต้องพึ่งยาเพื่อให้ร่างกายปรับตัวนอนตามเวลาเดิมทุกวันๆค่ะ
เมื่อไรคืออาการนอนหลับยากที่ต้องไปพบแพทย์?
เมื่อเด็กนอนหลับยาก ควรนำเด็กพบแพทย์เมื่อ อาการนอนไม่หลับที่ไม่ยอมหายเป็นเวลานาน แม้ความเจ็บป่วยต่างๆจะดีขึ้นแล้ว และ/หรือ การนอนไม่หลับหรือหลับยากมีปัญหาต่อกิจวัตรประจำวันของเด็ก เช่น ต่อการเรียน ต่อการทำกิจกรรมต่างๆ
- popLv 78 ปี ที่ผ่านมา
มีวิธีแก้ได้เหมือนกับการแก้นิสัยที่ไม่ต้องการ คือ
นอนให้เป็นเวลา ก่อนนอนอาบน้ำให้สบายตัว ใส่เสื้อผ้าที่สบาย อ่านหนังสือให้ฟังก่อนนอน
เลิกทำสิ่งต่างๆที่เด็กติด เช่น ไม่อุ้ม ไม่เขย่า หรือให้กินนม ซึ่งอาจจะยากอยู่บ้าง บางครั้งเด็กจะร้องตะโกน ก็ต้องทำใจแข็ง การเพิกเฉยนี้เพื่อให้เด็กเรียนรู้ว่าจะต้องมีการปรับนิสัย การให้อยู่ตามลำพังสักพัก (ส่วนใหญ่ใช้เวลาเป็น 2-3 นาทีถึง 5 นาทีตามอายุเช่น 2 ปีใช้ 2 นาที 3 ปี 3 นาทีประมาณนั้น) เด็กก็จะค่อยๆ ปรับตัวได้ดีขึ้น วิธีนี้ได้ผลดีในการปรับนิสัยที่ไม่พึงต้องการในเด็ก แต่พ่อแม่ส่วนใหญ่ใจไม่แข็งพอ
พยายามถอยห่าง ให้เด็กได้มีโอกาสเป็นตัวของตัวเองบ้าง ไม่ติดกับพ่อแม่มากเกินไปจนแกะจากกันไม่ออก โดยค่อยๆถอยห่างทีละน้อย เช่น แม่อาจนั่งอยู่ด้วยกันในห้อง ต่อ ไปแม่อาจนั่งที่หน้าห้องยังได้ยินเสียงกันอยู่ ต่อไปก็ห่างออกไป เด็กก็จะหัดอยู่คนเดียวได้ แต่อย่าทิ้งไปเลย พึงระวังสิ่งที่จะก่อให้เกิดอันตรายต่อเด็กหรืออุบัติเหตุจากสิ่งแวดล้อมต่างๆ เช่นปลั๊กไฟ สิ่งแปลกปลอมที่เด็กอาจเก็บใส่ปากหรือจมูกแล้วสำลัก
ให้กำลังใจ ให้คำชม หรือให้รางวัล เมื่อเด็กสามารถทำได้ตามที่ตั้งความสำเร็จไว้ และสามารถปฏิบัติได้ต่อไป การให้รางวัลก็ให้สมควรแก่อายุและสมควรแก่เหตุ เช่น ให้ดาว การให้รางวัลเล็กๆ แต่บ่อยๆ จะได้ผลดีกว่าการให้รางวัลใหญ่แต่น้อยครั้ง
บิดามารดาควรมีความรู้พื้นฐานในเรื่องการนอนของเด็ก เพื่อให้เข้าใจว่าการนอนปกติเป็นอย่างไร เช่น ให้เด็กเข้านอนและตื่นเป็นเวลารวมทั้งในวันหยุดต่างๆ การจัดสภาพแวด ล้อมในห้องนอน/การเตรียมบริเวณที่นอนให้ถูกสุขลักษณะ การไม่ให้เด็กมีกิจกรรมที่ต้องใช้ความคิดหรือยุ่งยากเมื่อใกล้เวลานอน และการสร้างนิสัยที่ควรแก่เด็ก
ทั้งนี้การแก้ปัญหาด้วยยามักจะทำเมื่อการปรับนิสัยการนอนแล้วไม่ได้ผล และต้องคำ นึงถึงผลข้างเคียงจากยาดังได้กล่าวไว้แล้วในหัวข้อ 3 ด้วย
พบบ่อยที่สุดในเด็กอายุตั้งแต่ขวบปีแรกจนถึง 10 ปี แต่อาจจะติดเป็นนิสัยไปจนโต เด็กกลุ่มนี้บางครั้งหลับยากจนกว่าจะมีสิ่งที่ตนเองชอบ ทำให้ก่อนหลับ เช่น ต้องให้พ่อแม่อุ้มแล้วเขย่าตัวจนหลับ หรือต้องดูดนมก่อนจึงจะหลับได้ เมื่อหลับไปแล้วตื่นใหม่ก็ต้องให้พ่อแม่ทำอย่างเดิมอีกจึงจะหลับได้ และเด็กก็จะต้องมีสิ่งที่ต้องการเหล่านี้ก่อนหลับ หากไม่มีใครทำให้ จะนอนไม่หลับ เด็กโตหน่อยอาจจะมีการกรีดร้อง หรือต่อต้านการนอนโดยเฉพาะหากพ่อแม่ไม่สามารถจัดการปัญหานี้ได้
ปัจจัยสิ่ง���วดล้อมภายนอกที่อาจมีผลให้เด็กหลับยาก
สภาพแวดล้อมจากห้องนอนซึ่งมีคนหลายคนนอนรวมกัน และ/หรือมีเรื่องที่ทำให้ห้องมีเสียงดังอึกทึกหรือไม่สงบสุขสำหรับการนอน หรือพ่อแม่เองก็นอนดึก ทำให้เด็กมีปัญหานอนหลับยาก
วิธีแก้ไขไม่ยาก คือจัดสภาพแวดล้อมและบรรยากาศที่เหมาะสมทำให้เด็กนอนหลับได้ และให้มีเวลาการนอนที่แน่นอนเป็นนิสัย
การจัดเวลานอนให้เป็นเวลา ต่อไปเมื่อถึงเวลา เด็กก็จะง่วงนอนได้เองตามปกติ
แหล่งข้อมูล: p - kometLv 78 ปี ที่ผ่านมา
เก้าขวบนี่ ยังไม่สายเกินไปสำหรับคุณลูกที่ต้องปรับเปลี่ยนนิสัย และสำหรับคุณแม่ที่ต้องปรับเปลี่ยนนิสัยเช่นกัน,
คือ ต้องวางระเบียบกฏเกณฑ์แบบบังคับเลย ทั้งคุณแม่คุณลูกและคุณๆๆในบ้าน เช่นให้นอนสองทุ่ม ทุกคนก็ต้องทำได้ตามนั้น ไม่ใช่ไล่ลูกไปนอน คุณแม่คุณพ่อยัง...เปิดคอมพ์เล่นเน๊ตฯอีก...อะนะ
- ?Lv 78 ปี ที่ผ่านมา
ช่วงประถมและก่อนวัยรุ่น เด็กอายุ 6 ถึง 9 ปี ควรนอนคืนละ 10 ชั่วโมง วัยนี้เริ่มมีปัญหาเวลาให้ เข้านอนเพราะลูกมีความรู้สึกต้องการมีเวลาอยู่ใกล้ชิด เป็นส่วนตัวกับพ่อแม่ จึงควรมีเวลาอย่างน้อยก็เป็น ช่วงสั้นๆ ที่จะได้พูดคุยตามประสาพ่อแม่ลูก นอกจาก จะเกิดความสัมพันธ์ที่ดีแล้ว ยังเป็นสัญญาณเตือนถึง เวลาเข้านอนด้วย
เมื่อคุณพ่อคุณแม่เห็นความสำคัญในการดูแลให้ลูกหลับพักผ่อนได้อย่างพอเพียงแล้ว ประเด็น สำคัญคือการเริ่มฝึกตั้งแต่เล็ก และเป็นไปอย่างต่อเนื่องจนเป็นนิสัยการนอนที่ดีของลูกที่จะติดตัว ตลอดไป
แหล่งข้อมูล: .........ขอขอบพระคุณ............. http://www.vichaiyut.co.th/html/journal/14-2550/ch...