คุณคิดว่าจ่าฝูงแกล้งโง่หรือโง่จริงๆถ้าคุมบริวารตัวเองไม่ได้?

มีนิทานมาฝากนะคะ

.......ฮึฮึฮึฮึ........

" ลิงโง่ "

ในสมัยหนึ่ง พระพุทธเจ้าประทับอยู่วัดเชตวัน เมืองสาวัตถี ทรงปรารภคนประทุษร้ายอุทยาน ในหมู่บ้านโกศลตำบลหนึ่ง ได้ตรัสอดีตนิทานมาสาธกว่า...

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในเมืองพาราณสีมีงานเทศกาลประจำปี ชาวเมืองต่างก็สนุกสนานรื่นเริง ในพระราชอุทยานมีลิงอาศัยอยู่ฝูงหนึ่ง คนเฝ้าสวนหลวงอยากจะไปเที่ยวงานประจำปีกับเขาด้วย จึงเข้าไปหาฝูงลิงแล้วพูดกับลิงหัวหน้าฝูงว่า

" เจ้าลิง สวนหลวงนี้ มีอุปการะคุณแก่พวกเจ้ามาก พวกเจ้าได้ขบเคี้ยวดอก ผลและใบอ่อนของต้นไม้ในสวนหลวงนี้ บัดนี้ ในเมืองมีงานเทศกาลประจำปี เราอยากจะไปเที่ยวบ้าง เราอยากจะวานให้พวกเจ้าช่วยรดน้ำต้นไม้ ที่กำลังปลูกใหม่ในสวนนี้ แทนเราจะได้ไหม ? "

ลิงรับว่าได้ คนเฝ้าสวนหลวงก่อนจะเข้าไปเที่ยวในเมือง กำชับว่า

" พวกท่านอย่าประมาทนะ " แล้วมอบอุปกรณ์ตักน้ำให้แก่พวกลิง

ลิงตัวหัวหน้าฝูง ได้กล่าวกะพวกลิงผู้ถือเอาอุปกรณ์ตักน้ำเตรียมพร้อมที่จะรดน้ำต้นไม้ว่า

" ท่านทั้งหลาย ธรรมดาน้ำเป็นของหายาก พวกท่านเมื่อจะรดน้ำต้นไม้ พึงรดตามความต้องการของต้นไม้ ด้วยการถอนต้นไม้ขึ้นมาดู ต้นไหนรากยาวก็จงรดน้ำให้มากๆ ต้นไหนรากสั้นก็จงรดน้ำให้แต่น้อย "

พวกลิงรับคำแล้วก็ทำตามนั้น สร้างความเสียหายแก้ต้นไม้เป็นจำนวนมาก

ในขณะนั้น ได้มีชายบัณฑิตคนหนึ่งเดินผ่านมาเห็นเข้า จึงถามความนั้นแก่ฝูงลิง พวกลิงจึงบอกว่าหัวหน้าให้ทำเช่นนั้น เขาจึงคิดว่า

" โอ! เจ้าลิงโง่ ช่างไม่ฉลาดเสียเลย คิดจะทำประโยชน์ แต่กลับทำความฉิบหายเสียนี่ "

แล้วกล่าวเป็นคาถาว่า

" ผู้ไม่ฉลาดในสิ่งที่เป็นประโยชน์ ถึงจะบำเพ็ญประโยชน์ ก็ไม่สามารถ

จะนำความสุขมาได้เลย คนมีปัญญาทรามทำประโยชน์ให้เสียหาย

เหมือนลิงเฝ้าสวน "

....... นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า........

" คนโง่มักทำความฉิบหายให้ มากกว่าประโยชน์ "

ผมยังเครียกับคำถามดี แต่ว่า เดาเอ้านะครับ คิดว่าคุณถามเกี่ยวกับ รัฐบาลขณะนี้หรือเปล่า หากว่าใช้ ผม ตอบได้เลยครับว่า แกล้งโง่ เพื่อ ครอบครัวตัวเอง เพราะว่าไม่มีฬครไม่รักครอบครัวครับ อีกนีด ผมว่าคลุมไม่ได้หลอกเพราะว่ายังอ่อนหัดมาก พวกนี้ต้อง เอ้าจริง แต่ละท่านโห่ จบสูงๆทั้งนั้น

เค้าอาจจะไม่โง่ แต่เค้าไม่มีความสามารถมากพอที่จะเป็นผู้นำได้

กว่าจะขึ้นเป็นจ่าฝูงได้นี่ ไม่ว่าในวงการไหน ต่างต้องมีการไต่เต้า ต้องเคยได้เห็น ได้เรียนรู้เรื่องการครองอำนาจและวิธีรักษาอำนาจให้อยู่ได้นานที่สุดมาก่อนนะคะ

ความเข้าใจที่สะสมมา ทำให้เมื่อได้รับตำแหน่งบ้างก็จะ "รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง" เป็น รู้ดีว่าจะต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ตัวเองรอด และดูเหมือนว่าบรรดาบริวารทั้งหลายจำเป็นจะต้องเสียสละและรับเคราะห์แทนจ่าฝูงเสมอ ถ้าคุณเห็นจ่าฝูง "แกล้งโง่" เมื่อไหร่ เชื่อเถอะค่ะว่ามันได้ผ่านการวางหมากมาแล้วเป็นอย่างดี

แต่..ถ้าได้ตำแหน่งจ่าฝูงมาจากการสวมหัวโหน เป็นแค่เพียงหุ่นเชิดที่เล่นไปตามสคริปต์นี่ อันนี้ดิฉันตอบไม่ได้อ่ะ เพราะไม่รู้ว่าใครคุมใคร ไม่รู้ใครโง่จริง ใครแกล้งโง่ หรือน่าจะเป็นดิฉันเองแร่ะที่โง่จนดูไม่ออก เหอเหอเหอ ^^)

หมายถึงการเมืองใช่ไหมครับ ยังไม่ถึงขั้นคุมไม่ได้ ( คุมไม่ได้นิดหน่อย เป็นเรื่องธรรมดาของกลุ่มคนหมู่ใหญ่ )

เขามีเจตนาให้เป็นอย่างนี้ ( แกล้งโง่ )

คนหนึ่งลอยตัว ส่วนอื่น ๆ แยกกันเหมือนคนละพวก ( แต่หลอกใครไม่ได้แล้ว )

ถ้าจ่าฝูงเปรียบเป็น"หัว" บริวารเปรียบเหมือน"หาง" ก็เข้าทำนองที่เขาพูดๆๆกันมานานๆๆว่า"หัวไม่ส่าย หางไม่กระดิก"มังคะ.

ขึ้นอยู่กับสถานะการณ์ครับ บางครั้งต้องโอนอ่อนไปตามสิ่งที่เป็น ถ้าอยู่ในสภาวะที่ขับขัน ต่างคนก็ต่างต้องดิ้นเพื่อเอาตัวรอด คงจะไม่มีใครอยากที่จะยอมตายเพื่อคนอื่น แบบไม่รักชีวิตตัวเองหรอก เป็นใครก็คงคิดแบบนั้น สู้ไปแสดงความสามารถจริงๆในที่ๆสมควรแสดงดีกว่า เด่นไปเก่งไปก็แค่นั้น จุดจบคงไม่ต่างอะไรกันมากมายหรอกครับ

yes

tit for tat

nothing can be done with this problem

solve mine

http://answers.yahoo.com/question/index;_ylt=AjFPi...

;-)