Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการปิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลื��นี้

วันที่เรากลุ้มใจ หรือเสียใจ ก็จะเห็นคุณค่าของคำว่า มิตรแ้ท้ คุณว่าจริงไหม?

5 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • 8 ปี ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    จริงหรือเปล่า ..ดิฉันเคยคิดเพียงใน

    บางคนเรารู้ว่าเป็นเหตุบังเอิญที่ทำให้จับพลัดจับผลูมาในเวลาที่เราต้องการพอดี

    แล้วเจ้าตัวก็ไม่รู้ด้วยว่า เราซาบซึ้งเพียงใด เวลาผ่านไปนาน ๆ เราจึงนึกถึงแล้วมี

    ความสุขใจที่เรามีคนที่เรารู้สึกดีดีด้วย ในวันที่กลุ้มใจ เสียใจ

    สำหรับเพื่อนที่รู้จักกัน บางคนถึงรู้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ไม่อยากเข้ามาตัดสินใจร่วม

    หรือแทนเรา ดิฉันไม่ตัดออกจากสารบบเพื่อนหรอกค่ะ

    แท้ไม่แท้ จึงไม่เคยนำมาคิด

    เพียงรู้ว่าในบรรดาเพื่อนนั้น มีหนึ่งคนเสมอที่จะยื่นมือเข้ามาเมื่อเราต้องการเท่านี้

    ที่มาตอบเพราะอยากบอกว่า สิ่งต่าง ๆ แปรเปลี่ยนอยู่ตลอดเวลาค่ะ ขอให้เรามีใจ

    รักในเพื่อน เพื่อนย่อมไม่ทิ้งเราค่ะ *.*

  • 8 ปี ที่ผ่านมา

    เชื่อว่ามีจริง เคยเห็นเมื่อสองปีที่แล้ว มีสตรีกลุ่มหนึ่ง (4คน) รุ่นราวคราวเดียวกัน คนหนึ่งเป็นหม้าย อีกสามคนมีครอบครัว เขาเป็นทีมที่

    ทำงานด้วยกัน ไปไหนก็ไปด้วยกัน เห็นคนจะเห็นทั้งสี่คน อยู่ๆคนหนึ่งเป็นมะเร็งขั้นสาม เขาผลัดกันไปเฝ้าไข้และรวมกลุ่มกันจนวันสุดท้าย

    จัดการศพให้เพราะสามีผู้ตายรับความตายไม่ได้เลย ถึงเขาจะมีภาระกันทุกคน เขาก็พักไว้ก่อนเพื่อได้อยู่กับเพื่อนรักจนนาทีสุดท้าย

    เห็นแล้วซาบซึ้งกับความสัมพันธ์ของเขาจริงๆค่ะ คงจะไม่ได้เห็นบ่อยๆ

  • komet
    Lv 7
    8 ปี ที่ผ่านมา

    บอกตรงๆนะค่ะ ว่าเรายังไม่มีมิตรแท้(ดูแลกันได้)เลยค่ะ แต่เพื่อนมีมากมายหลากหลายอาชีพหลายหลากอายุหลากหลายจังหวัด แต่ชนิดที่เอาความทุกข์อกทุกข์ใจกลุ้มใจต่างๆๆไปแชร์ให้เพื่อนๆนี่ เรา"เกรงใจ"เขามากกว่าค่ะ,

    เพราะทุกๆคนก็มีปัญหาทั้งนั้น จะมากจะน้อยก็แล้วแต่ แล้วเราเอาอาการกลุ้มใจหรือเสียใจไปให้เพื่อนๆๆ เรา(คิดเอง)ว่า"ไม่ถูกต้อง"นะค่ะ

  • 8 ปี ที่ผ่านมา

    ครึ ครึ ครึ ไม่จริงหรอก..

    เมื่อมั่งมี หมู่มิตร มีมากมาย

    เมื่อหมด(ความ)หมาย มิตรมอง เหมือนหมูหมา

    เมื่อไม่มี หมดมิตร เมียงมองมา

    เมื่อมอดม้วย หมูหมา ไม่มามอง

    กุ้มใจ กะใจเสีย รึเสียใจ แค่เนี่ยะ!! ทึกทักว่า..เป็นนู่นเป็นนี่ไปซ๊ะแหล่ว(น้ำเน่า)

    มิตรแท้ กะเพื่อนตาย ต้องใช้่เวลาและประสบการณ์จากอุปสรรคมากกว่านั้นจ๊ะ!!

    บางคน กว่า..จะรู้ เมื่อสายไปก็มากมี

    ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงษ์

    ยามบุญลงหงษ์เป็นกาน่าฉงน

    ยามบุญมาหมาหมูกลายเป็นคน

    ยามบุญหล่นคนเป็นหมาน่าอัศจรรย์

    อย่ามองใครจากหน้าตา เพราะมันอาจหลอกเราได้

    อย่ามองใครจากความร่ำรวย เพราะมันไม่จีรังยั่งยืน

    ให้มองหาคนที่ทำให้คุณยิ้มได้

    เพราะเพียงยิ้มเดียว สามารถทำให้วันที่หม่นหมองกลับสดใส

    ขอให้คุณพบคนที่ทำให้คุณยิ้มได้(ก็พอแล้วเนอะ..)

  • pop
    Lv 7
    8 ปี ที่ผ่านมา

    สุขด้วยปัญญา‏

    ผู้มีปัญญากับผู้ไม่มีปัญญาแตกต่างกันตรงไหน ข้อหนึ่งที่สำคัญก็คือ ผู้มีปัญญานั้นย่อมหาความสุขได้แม้ประสบทุกข์ ส่วนผู้ไม่มีปัญญามัวแต่เป็นทุกข์ทั้ง ๆ ที่พบสุข

    เมื่อความเจ็บป่วย ความสูญเสีย หรือความล้มเหลว เกิดขึ้นกับผู้มีปัญญา เขาไม่เอาแต่บ่นหรือตีโพยตีพาย แต่ยอมรับว่าเป็นความจริงที่เกิดขึ้นแล้ว อีกทั้งเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ไม่ว่ากับใครก็ตาม ดังนั้นจึงหันมาใคร่ครวญว่าจะแก้ไขหรือจัดการกับมันอย่างไร หากแก้ไขไม่ได้ ก็ยอมรับความจริง และมองไปข้างหน้า ไม่มัวเสียดายหรือเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอันเป็นอดีตไปแล้ว เพราะรู้ดีว่าความเสียใจนั้นเป็นการซ้ำเติมตัวเอง ป่วยกายก็พอแล้ว ทำไมต้องป่วยใจด้วย เสียทรัพย์ก็พอแล้วจะเสียใจไปอีกทำไม หาไม่อาจทำให้เสียสุขภาพและเสียงานเสียการตามมา เท่านั้นไม่พอ อาจเสียสัมพันธภาพอีกด้วย เพราะเผลอระบายอารมณ์ใส่คนใกล้ชิด เช่น ลูกหรือคู่รัก

    ผู้มีปัญญานั้นนอกจากจะไม่ปล่อยให้ใจเป็นลบแล้ว ยังรู้จักมองหาข้อดีหรือประโยชน์จากเหตุร้ายที่เกิดขึ้น เช่น ได้เห็นสัจธรรมว่าสังขารนั้นไม่เที่ยงเลย พบกับพราก เจอกับจากเป็นของคู่กัน ไม่มีอะไรที่เป็นของเราอย่างแท้จริง มันแค่มาอยู่กับเราเพียงชั่วคราวเท่านั้น ถ้ายึดติดถือมั่นว่าเป็นของเราเมื่อใด ก็เป็นทุกข์เมื่อนั้น ความทุกข์ที่ผ่านเข้ามาในชีวิตยังเตือนใจให้ไม่ประมาทและฝึกใจให้เข้มแข็ง ทำให้มีภูมิต้านทานต่อความทุกข์และอดทนต่อความผันผวนปรวนแปรในชีวิตได้มากขึ้น

    ความทุกข์นั้นไม่ได้มีแต่ด้านลบ แต่ยังมีด้านบวกที่ปัญญาเท่านั้นช่วยให้มองเห็น หลายคนพบว่าความเจ็บป่วยทำให้เขาได้สัมผัสกับความรักอย่างลึกซึ้งของพ่อแม่ หรือรู้ว่าà¸��ังมีคนอีกมากมายที่รักและห่วงใยเขา ขณะที่จำนวนไม่น้อยขอบคุณโรคร้ายที่ช่วยให้เขาได้พบธรรมะและความสงบเย็นในจิตใจ ส่วนคนที่ล้มละลายก็ได้เห็นน้ำใจของมิตรแท้และรู้ว่าทรัพย์สินเงินทองหาใช่สรณะที่แท้ไม่ ใช่แต่เท่านั้นเขายังมองเห็นว่า ถึงจะเจอเรื่องร้ายเพียงใด ก็ยังดีที่มันไม่ร้ายไปกว่านี้

    การมองด้านบวกยังหมายถึง การมองเห็นสิ่งดี ๆ ที่ยังมีอยู่กับตัว ไม่มัวใส่ใจกับสิ่งที่เสียไปหรือสิ่งแย่ ๆ ที่กำลังเกิดขึ้น แทนที่จะอาลัยแขนขาที่พิการหรือตาที่มืดบอด ก็หันมาชื่นชมอวัยวะต่าง ๆ อีกมายที่ยังดีอยู่ และใช้อย่างเต็มศักยภาพจนทดแทนสิ่งที่เสียไป ดังนั้นจึงพบกับความสุขได้ไม่ยาก ทำนองเดียวกันแทนที่จะคะนึงถึงทรัพย์ที่เสียไป ก็หันมาตระหนักว่าตนเองยังมีทรัพย์อีกมากมายที่สามารถให้ความสุขแก่ตนได้ ใช่แต่เท่านั้นสุขภาพก็ยังดีอยู่ อีกทั้งมีพ่อแม่และคนรักอยู่ใกล้ตัว ซึ่งล้วนแต่เป็นสิ่งทรงคุณค่าที่เงินซื้อไม่ได้

    ด้วยเหตุนี้ทั้ง ๆ ที่ประสบทุกข์ ผู้มีปัญญาก็ยังสามารถมองเห็นและเก็บเกี่ยวความสุขที่มีอยู่รอบตัว อีกทั้งยังสามารถสัมผัสความสุขจากภายในอันเกิดจากใจที่ปล่อยวางและยอมรับสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นธรรมดา รวมทั้งความสงบเย็นจากสมาธิภาวนา

    ในทางตรงกันข้ามผู้ไม่มีปัญญาแม้มีทุกอย่างในชีวิต แต่ก็ยังทุกข์เพราะรู้สึกว่ามีน้อยไป ทั้ง ๆ ที่มีสุขภาพดี หน้าตาสะสวย ทรวดทรงงดงาม ก็ยังกลุ้มใจเพราะมองเห็นแต่ข้อตำหนิ เช่น มีสิว ผิวคล้ำ น้ำหนักเกิน ได้โบนัสนับล้านก็ยังไม่พอใจเพราะเห็นเพื่อนได้มากกว่า มีบ้านที่งดงาม กว้างขวาง อยู่สบาย ก็ยังไม่มีความสุขเพราะเห็นเพื่อนอยู่คฤหาสน์ ถึงจะได้โชคลาภมา ก็ยังเสียใจเพราะคิดว่าน่าจะได้มากกว่านั้น

    ผู้ไม่มีปัญญานั้นหากไม่หมกมุ่นอยู่กับสิ่งที่เสียไป ก็มัวแต่ชะเง้อมองสิ่งที่ยังไม่มี หวังว่าจะมีความสุขก็ต่อเมื่อได้มันมาครอบครอง เขาคิดถึงแต่ความสุขที่รออยู่ข้างหน้า จนลืมไปว่าความสุขนั้นมีอยู่กับเขาแล้ว เป็นความสุขที่สัมผัสได้ในปัจจุบัน จะเรียกว่าเป็นความสุขที่อยู่ปลายจมูกก็ได้ แต่มันอยู่ใกล้มากจนมองไม่เห็น หาไม่ก็เป็นเพราะมันอยู่กับเขานานจนกลายเป็นสิ่งจำเจ ไม่มีค่า หรือเป็น “ของตาย” หารู้ไม่ว่ามันเป็นของชั่วคราว สักวันหนึ่งก็ต้องสูญสลายหายไป ต่อเมื่อวันนั้นมาถึง เขาจึงจะเห็นคุณค่าของมัน แต่ถึงตอนนั้นก็สายไปเสียแล้ว แม้กระนั้นเขาก็ยังไม่สรุปบทเรียน มัวแต่เศร้าเสียใจที่สูญเสียมันไป จนลืมใส่ใจกับสิ่งดี ๆ อีกมากมายที่ยังหลงเหลืออยู่ ซึ่งสามารถให้ความสุขแก่ตนได้

    ผู้ไม่มีปัญญานั้นจะเห็นคุณค่าของสิ่งใดก็ต่อเมื่อ ๑) มันยังไม่เป็นของเขา ๒) เขาสูญเสียมันไปแล้ว แต่ผู้มีปัญญานั้นเห็นคุณค่าของสิ่งนั้นขณะที่มันยังอยู่กับเขา เพราะเขาให้ความสำคัญกับปัจจุบันมากกว่าอนาคตหรืออดีต ดังนั้นเขาจึงมีความสุขทุกขณะ โดยไม่หวังความสุขจากอนาคต หรือหวนหาความสุขในอดีต

    ผู้มีปัญญาแม้ประสบทุกข์ แต่ใจก็ไม่ตกต่ำย่ำแย่ เพราะนอกจากไม่ยอมให้ความทุกข์ฉาบย้อมครอบงำใจแล้ว ยังสามารถมองเห็นความสุขทุกขณะด้วยประการฉะนี้

    สุขด้วยปัญญา

    พระไพศาล วิสาโล

    แหล่งข้อมูล: p
ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้