ทุกวันนี้นักข่าวรายงานแต่ข่าวเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วของคนทั่วไปไม่ทำข่าวล้วงลึกแฉพฤติกรรมเหมือนแต่ก่อน?

ทุกวันนี้ สื่อส่วนมากไม่ทำหน้าที่สื่ออย่างที่เคยเป็นแล้ว เหตุผลง่าย ๆ คือ

- ถ้าเอาความจริงมาให้ประชาชนรับทราบ โฆษณาจะหายไปได้ง่าย ๆ เช่น ห้างค้าปลีกยักษ์ต่างชาติทำลายการค้าขายของคนไทยอย่างไร จะไม่มีให้เห็นเป็นอันขาด เพราะถ้าทำข่าวเรื่องนี้ โฆษณาของห้างค้าปลีกต่างชาติจะถอนโฆษณาออกไป รายได้ก็หายไปด้วย เป็นต้น

- คนเขียนคอลัมน์ประจำบางคน รับใช้นักการเมือง ตัวอย่างก็ดูจากเนื้อหาที่เขียน ก็ทราบแล้วว่า รับใช้นักการเมืองหรือไม่

- ตัวเจ้าของสื่อบางคน ก็รับใช้นักการเมืองด้วย ทำให้นักข่าวที่อยากนำความจริงมาให้ประชาชนทราบ หมดโอกาสทำข่าวที่ต้องการ แค่บรรณาธิการข่าวบางคนบอกว่า ข่าวของคุณนำไปลงไม่ได้ ก็จบแล้ว

การเมืองเปลี่ยนแปลงดีขึ้นเมื่อไหร่ ต้องมีการปฎิรูป (reform) สื่อกันอย่างแน่นอน มิฉะนั้น สื่อส่วนมากก็คงเหมือนปัจจุบัน

ขอเพิ่มเติมอีกนีดเรื่องสื่อ สื่อนะหากินกับข้าวสาร เพราะว่าหากเป็นสื่อแท้อดตายนะผมว่า ยกตัวอย่างง่ายๆ กรณีลูกท่านคนหนึ่งมีเงินเป็นหมื่นล้านขับรถชนคนตายสื่อประโคมข่าวพักเดี่ยว จบ จะเอ้าต่อไปไม่ได้เพราะว่า เงินคงจะอุดปาก ผมไม่เคยเห็นสื่อกลับมารายงานเลยว่า คดีไปถึงไหน ตำรวจทำงานไปถึงไหน ศาลสั่งอย่างไร ตอนนี้ผมไม่ต้องอ่านก็ได้ เพราะว่าตอนเช้าๆ ทีวีจะอ่านข่าวจากหนังสือพิมต์ นักข่าวทีวีไม่ต้องไปหาข่าวหรอกอ่านจากหน��¸±à¸‡à¸ªà¸·à¸­à¸žà¸´à¸¡à¹ƒà¸«à¹‰à¹€à¸£à¸²à¸Ÿà¸±à¸‡ แบบว่าไม่ลงทุนเลย

ฉันเป็นสื่อ ฉันเลือกข้างได้!

คนที่อยู่นอกแวดวงผู้ประกอบอาชีพสื่อสารมวลชนคงสับสนไม่น้อยกับการนำเสนอข่าวของสื่อไทยในยุคสื่อเลือกสี สื่อเลือกข้าง

ส่วนผู้ที่ทำอาชีพอยู่ในแวดวงสื่อ ก็คงจะสับสนในตัวเองไม่น้อย บางคนอาจสับสนมากเสียจนแยกแยะไม่ออกว่าตนคือสื่อ หรือ ตนคือประชาสัมพันธ์ส่วนตัวของสีไหนฝั่งไหน

แต่สิ่งที่น่าสังเวชยิ่งกว่าคือ กลับปรากฏว่ามีกลุ่มคนที่พยายามจะสร้างภาพว่าตัวเองคือสื่อ แล้วพยายามจงใจส่งข่าว กระจายข่าวแข่งกับสื่ออาชีพ โดยเผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ทั้งจริงผสมเท็จ หรือในหลายกรณีก็มีแต่เท็จโดยปราศจากความจริงโดยผ่านช่องทางการสื่อสารรูปแบบใหม่สารพัดอย่าง อาทิ social media, social network, วิทยุชุมชน, โทรทัศน์ดาวเทียม และสื่อกระดาษอีกสารพัดชนิด

ขอย้ำว่าคนกลุ่มนี้อันตรายยิ่งกว่าสื่อจริง ซึ่งมีสังกัด เพราะการที่สื่อมีสังกัดรายงานข่าวใดๆ ออกมานั้น สังคมยังสามารถรู้ได้ว่าเขาคือใคร มีที่มาที่ไปอย่างไร มีใครอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง มีแหล่งทุนมาจากไหน แต่สำหรà¸��บสื่อเทียมแล้ว สังคมไม่มีวันรับรู้เลยว่าพวกเขาเป็นใคร มีใครบงการ มีใครอยู่เบื้องหน้าเบื้องหลัง

แต่ประเด็นเรื่องสื่อแท้สื่อเทียมก็คงไม่มีปัญหาอะไรมากนัก ถ้าหากประชาชนส่วนใหญ่ผู้เสพข่าวสารสามารถมีวิจารณญาณลึกซึ้ง สามารถแยกแยะความจริงความเท็จ แยกแยะอารมณ์กับเหตุผลได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ขอถามว่า คุณๆ มั่นใจหรือว่าประชาชนส่วนใหญ่ของไทยมีคุณภาพและมีคุณสมบัติเพียงพอที่จะแยกแยะความจริงกับความเท็จได้อย่างสมบูรณ์แบบ

คุณเคยสังเกตไหมว่า ในยุคสมัยนี้เราจะพบเสมอๆ ว่าสื่อแท้บางพวกและเทียมต่างจงใจจะค้นหาว่าใครสั่งฆ่าประชาชนผู้ก่อเหตุชุมนุมด้วยความรุนแรงและจงใจละเมิดกฎหมาย ซึ่งประเด็นนี้ก็พอเข้าใจได้ว่ามันจำเป็นต้องค้นหาคนที่สั่งฆ่าประชาชน แต่เคยสงสัยบ้างไหมว่าทำไมสื่อแท้บางฉบับและสื่อเทียมจึงไม่เคยสนใจจะค้นหาว่าใครปลุกระดมให้ประชาชนลุกขึ้นก่อเหตุจลาจล ใครประกาศให้ประชาชนลุกขึ้นเผาบ้านเผาเมือง ทำร้ายและจงใจเอาชีวิตเจ้าหน้าที่ และเข่นฆ่าประชาชนด้วยกันเอง สื่อ บางกลุ่มเลือกเพ่งโทษเฉพาะกรณีที่ทหารยิงผู้ชุมนุมก่อเหตุจลาจล แต่ละเลยการนำเสนอข่าวผู้อยู่เบื้องหลังการก่อเหตุจลาจล

ขอย้ำอีกครั้งว่าสื่อที่มีจรรยาบรรณต้องร่วมกันค้นหาความจริงทั้งหมดของสังคมสื่อไม่ควรเน้นแค่เพียงว่าใครฆ่าผู้ก่อจลาจล แต่ต้องสืบค้นด้วยว่าใครจ้างให้คนลุกขึ้นก่อเหตุจลาจล สื่อต้องติดตามดูด้วยว่าคนจ้างให้คนไทยลุกขึ้นเผาประเทศไทยหนีไปอยู่ประเทศไหน แล้วทุกวันนี้เขาพยายามจะกลับเข้าประเทศไทยโดยไม่ยินยอมรับผิดตามหลักกฎหมายหรือไม่

ไม่ผิดที่สื่อจะสงสารและเห็นใจประชาชน ที่ถูกทหารยิงตาย แต่ผิดอย่างมหันต์ที่สื่อจงà��ƒà¸ˆà¹„ม่รายงานความผิดของผู้ที่ก่อจลาจลเผาบ้านเผาเมือง หรือว่าสื่อยุคนี้จะไม่สนใจความถูกต้องใดๆ อีกต่อไป เพราะว่าสื่อ ได้ตัดสินใจเลือกเข้าข้างคนเผาบ้านเผาเมืองไปเรียบร้อยแล้ว