Yahoo Answers จะปิดใช้งานในวันที่ 4 พฤษภาคม 2021 (เวลาตะวันออก) และตอนนี้เว็บไซต์ Yahoo Answers จะอยู่ในโหมดอ่านอย่างเดียว คุณสมบัติหรือบริการอื่นๆ ของ Yahoo หรือบัญชี Yahoo ของคุณจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการ��ิดใช้งาน Yahoo Answers และวิธีการดาวน์โหลดข้อมูลของคุณในหน้าความช่วยเหลือนี้

ไขมันจากปลาน้ำจืดเช่นปลาทับทิม ปลาแรด มีประโยชน์หรือโทษไหมคะ?

ปลาสองชนิดนี้ตรงส่วนท้องจะมีมันมากค่ะ

ปลาจีนอีกชนิดก็มันมากเหมือนกัน

อัปเดต:

อยู่คนเดียว เหงามั้ยคะคุณนกแก้ว คริคริ

2 คำตอบ

คะแนนความนิยม
  • pop
    Lv 7
    8 ปี ที่ผ่านมา
    คำตอบที่โปรดปราน

    ปลาน้ำจืดไทยมี โอเมก้า3 มากกว่าปลาทะเลเสียอีก‏

    คุณรู้จักพวกเอสกิโมไหม ที่พวก���ี้อยู่ในน้ำแข็ง หน่าวเหน็บแถบขั้วโลกเหนือ แน่นอนว่าพวกนี้จะหาหมู หมา

    กา ไก่ มากินนะ เป็นไปไม่ได้ วันๆก็กินแต่ปลาละครับ และเน้นไปที่ไขมัน ของมันซะด้วย เช่น เปลวมันของปลาวาฬ

    ทำให้บรรดาเอสกิโมแก้มยุ้ยหน้ารักกันทั้งนั้น นักวิจัยได้พบเรื่องประหลาดว่าแทนที่พวกเอสกิโมซึ่งกินไขมันเป็นล่ำเป็นสัน

    จะเป็นโรคไขมันจุกอกตาย ปรากฎว่าชาวเอสกิโมเป็นโรคหัวใจกันน้อยมาก น้อยขนาดที่ว่าเมื่อเทียบกับ คนอเมริกันทั่วไปแล้ว

    ราคาต่อรอง อยู่ที่ 1 : 40 ทีเดียว ที่มันน้อยกันได้ขนาดนี้ก็เพราะ เจ้าโอเมก้า-3 พระเอกของท้องเรื่องในวันนี้แหละครับท่าน

    สาเหตุหลักมาจากโอเมก้า-3 นี้ จะทำให้เลือดแข็งตัวช้าและไม่ข้น ลดการจับตัวของเกล็ดเลือด แถมยังสร้างสารที่ทำให้เส้นเลือด

    ขยายตัวได้ดี จึงลดความเสี่ยงจากการที่โรคหัวใจขาดเลือดได้

    โอเมก้า-3 มีดีที่ตรงไหน? ตอบ โอเมก้า-3 เป็นหนึ่งในกรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty acid)

    ที่ร่างกายมนุษย์ขาดไม่ได้ สารสำคัญที่อยู่ในตัวมันมี 2 ตัว คือ Eicosopentaenoic และ Docosahexaenoic เป็นไงละครับ

    อ่านกันออกไหม ที่ไม่เขียนเป็นภาษาไทยเพราะกลัวอ่านผิดเหมือนกัน

    และอย่าจำเลยชื่อยาวขนาดนี้ มันมีชื่อย่อครับ เป็นตัวอักษร เหมือนนักการเมืองที่ชอบเล่นชื่อย่อกัน

    เราเรียกมันง่ายว่า เจ้า EPA และ DHA คุ้นๆบางหรือยัง

    โดยปกติร่างกายของเราจะผลิตสารกลุ่มหนึ่งที่มีลักษณะคล้ายฮอร์โมน ชื่อ Eicosanoids สารกลุ่มนี้เกี่ยวข้องในการควบคุม

    ระบบแข็งตัวของเลือด การหดตัวของหลอดเลือด และการหดตัวของ กล้ามเนื้อเรียบ สารนี้ยังจำเป็นในกรณีที่ร่างกายเกิดการอักเสบ

    เพราะต่อสู้กับเชื้อโรคหรือความผิดปกติต่างๆ วัตถุดิบที่ใช้ในการผลิต Eicosanoids นี้ก็คือ กรดไลโนเลอิก และ โอเมก้า-3

    เรานี้แหละครับ แต่หากร่างกายเรามีสัดส่วนของไลโนเลอิกมากกว่า โอเมก้า-3 ร่างกายของเราจะมีปัญหาเกี่ยวกับลิ่มเลือดแข็งตัว

    ปวดท้องน้อยเวลามีประจำเดือน และข้ออักเสบ

    นอกจากเรื่องของโรคหัวใจแล้ว ยังมีรายงานที่ส่งเสริมการรับประทานปลาทะเลซึ่งมีโอเมก้า-3 สูง ว่าทำให้เป็นโรคหอบหืดน้อยลง,

    อัตราการเกิดโรคข้ออักเสบ ชนิดรูห์มาตอยต์ต่ำลง, อาการเจ็บปวดในช่วงมีประจำเดือนลดลง, ปัญหาการตั้งครรภ์เป็นพิษต่ำลง

    และยังมีผลทำให้คนที่เป็น มะเร็งเต้านมมีอาการดีขึ้นอีกด้วย อะไรจะดีมากมายขนาดนี้

    โอเมก้า-3 นี้พบมากในปลาทะเล และสัตว์ทะเลอื่นๆ เช่นกุ้ง ส่วนสัตว์บกแทบไม่มีเจ้าโอเมก้า-3 อยู่เลย

    แต่จากการทำวิจัยในประเทศไทย ยังพบว่าปลาน้ำจืดของไทยเราบางชนิดมีปริมาณ

    ของเจ้าโอเมก้า-3 ไม่ได้ด้อยกว่าปลาทะเลเลย

    โดยเฉพาะที่มีมากที่สุดคือ ปลาสวาย

    เคยสงสัยกับคำพูดที่ว่า "กินปลาเยอะๆ แล้วจะฉลาด" ถ้ารู้จักโอเมก้า 3 แล้วละก็.. คุณจะได้รับคำตอบทันที

    แล้วโอเมก้า 3 คืออะไร?คำตอบง่าย ๆ ของโอเมก้า 3 คือ กรดไขมันจำเป็น (Essential Fatty acid) ที่ร่างกายขาดไม่ได้

    โดยมีสารสำคัญ 2 ตัว ได้แก่ EICOSAPANTAENOIC ACID (EPA) และ DOCOSAHEXANOIC ACID (DHA) ซึ่งเป็นกรดไขมัน

    ที่สำคัญต่อโครงสร้าง การทำงานของสมอง ตับ ระบบประสาทเกี่ยวกับการเรียนรู้ และเรติน่า รวมทั้งยังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล

    และไตรเอธิลกลีเซอรอล ในพลาสมา เป็นต้น โดยจะพบในอาหาร จำพวกธัญพืช เมล็ดพืช ปลาทะเล ( แซลมอน แม็คเคอเรล ทูน่า )

    และสัตว์ทะเล รวมทั้งปลาน้ำจืดอย่างปลาสวาย เป็นต้น

    ปลาทุกชนิด จะจัดว่ามีค่าไขมัน และพลังงานต่ำกว่าเนื้อสัตว์ชนิดอื่นแล้ว อย่างไรก็ตาม ชนิดของปลายังมีผลต่อปริมาณไขมันของปลาที่มีอยู่ในเนื้อปลาสด ซึ่งผู้บริโ��คควรเลือกทานตามความ เหมาะสม เราสามารถจัดแบ่งชนิดของเนื้อปลาสด ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

    1.ปลาที่มีไขมันต่ำมาก (น้อยกว่าหรือเท่ากับ 2 กรัมต่อ 100 กรัม) ได้แก่ ปลาไหล ปลากราย ปลานิล ปลากะพงแดง และปลาเก๋า

    2.ปลาที่มีไขมันต่ำ (มากกว่า 2-4 กรัมต่อ 100 กรัม) ได้แก่ ปลาทูนึ่ง ปลากะพงขาว ปลาจะละเม็ดดำ และปลาอินทรี

    3.ปลาที่มีไขมันปานกลาง (มากกว่า 4-8 กรัมต่อ 100 กรัม) ได้แ���่ ปลาสลิด ปลาตะเพียน และปลาจะระเม็ดขาว

    4.ปลาที่มีไขมันสูง (มากกว่า 8-20กรัมต่อ 100 กรัม) ส่วนมากมีเนื้อสีเหลือง ชมพูหรือเทาอ่อน ได้แก่ ปลาช่อน ปลาสวาย ปลาดุก และปลาสำลี

    แหล่งข้อมูล: http://www.oknation.net/blog/print.php?id=307864
  • ?
    Lv 7
    8 ปี ที่ผ่านมา

    อยากสุขภาพดีต้องกิน ป.ปลา

    อาหารเพื่อสุขภาพ”อย่าง เช่นปลา จะมีสารอาหารจำพวกโปรตีนที่ย่อยง่าย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไขมันจะมีอยู่บ้าง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทของปลา อย่างในปลาน้ำจืด จะมีไขมันไม่มากนัก ส่วนปลาทะเล ก็จะมีไขมันอีกประเภท ซึ่งจะแตกต่างจากปลาน้ำจืด พวกที่เป็นกรดไขมัน ซึ่งเป็น”ประโยชน์”ต่อ ร่างกาย เราพบว่า มันมีคุณค่าในแง่ของการลดการจับตัวของเกล็ดเลือด และอาจจะช่วยในการป้องกันโรคต่างๆ เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจ หรือไขมันในเลือดสูง นอกจากนั้น เครื่องใน ตับปลา ก็จะมีน้ำมันและวิตามิน ในกลุ่มที่ละลายได้ดีในไขมัน เป็น “วิตามิน” A D E K และ แร่ธาตุ โดยเฉพาะในตัวปลาบางชนิด ที่เรารับประทานได้ ก็จะได้แคลเซียมด้วย ดังต่อไปนี้

    1. ในเนื้อปลามีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่นโปรตีน ซึ่งในเนื้อปลา จะเป็นโปรตีนที่ย่อยง่าย และมีประโยชน์ต่อร่างกาย ไขมันจะมีอยู่บ้าง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับประเภทของปลา อย่างในปลาน้ำจืด จะมีไขมันไม่มากนัก ยกเว้นพวกปลาสวาย หรือปลาสลิดตากแห้ง ส่วนปลาทะเล ก็จะมีไขมันอีกประเภท ซึ่งจะแตกต่างจากปลาน้ำจืด พวกที่เป็นกรดไขมัน ซึ่งเป็นประโยชน์ต่อ”ร่างกาย” เราพบว่า มันมีคุณค่าในแง่ของการลดการจับตัวของเกล็ดเลือด และอาจจะช่วยในการป��¹‰à¸­à¸‡à¸à¸±à¸™à¹‚รคต่างๆ ด้วย

    2. ประโยชน์ต่อสุขภาพ ก็จะได้โปรตีน เพราะโปรตีน เพราะโปรตีนในเนื้อปลา จะย่อยง่าย มีคุณค่าในแง่ของการบำรุง สมอง การพัฒนาสมองในเด็ก โดยเฉพาะปลาทะเล นอกจากจะได้โปรตีนแล้ว ยังจะได้แร่ธาตุไอโอดีน จะมีบทบาทในการพัฒนาสมอง โดยเฉพาะที่ไกลจากทะเล ก็จะมีความเสี่ยงก็จะเกิดโรคคอพอก ในกลุ่มผู้สูงอายุก็เป็นแหล่ง”โปรตีน” ที่รับประทานง่าย ย่อยง่าย ก็จะเป็นประโยชน์ของปลา

    3. การรับประทานปลาให้ได้ประโยชน์ต่อร่างกาย

    - รับประทานปลาที่ปรุงสุก

    - เปลี่ยนประเภทของปลาไปเรื่อยๆ ลดปัญหาการปนเปื้อน

    - บริโภคร่วมกับอาหารอื่นๆ ให้ครบทุกชนิด คือ อาหารหลัก 5 หมู่

    ขอบคุณ finuly

    แหล่งข้อมูล: .........ขอขอบพระคุณ............ http://www.tlcthai.com/women/18708/
ยังคงมีคำถามอยู่ใช่หรือไม่ หาคำตอบของคุณได้ด้วยการเริ่มถามเลยในตอนนี้